หงส์-ไก่ : 1 ทีมรอผ่าตัด 1 ทีมเน้นมัน
ทำร้ายหัวใจแฟนบอลยันเกมรองสุดท้ายในบ้านจริงๆพรี่หงส์เรา นำ 4-0 แต่ต้องมานั่งเยี่ยวเหนียวท้ายเกม 4-2 ซะอย่างนั้น
เป้นช่วงรอยต่อการเปลี่ยนตัว 2 คนของ JK บวกกับฝั่ง “บิ๊กแอนจ์” ส่ง ริชาร์ลิซอน และ เจมส์ แมดดิสัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน
ท้ายที่สุด 4 ประตูที่ยิงตุนไว้เพียงพอไม่เลวร้ายถึงขนาดโดน 3-3 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ถ้าตัดการโดน 2 ประตูที่ทำให้รูปเกมของ “คลับไก่” ดูดีกว่าครึ่งแรก ผมชอบ tempo ในการเข้าทำของ ”หงส์แดง” ในวันนี้ที่สุด บอลริมเส้นด้านข้าง impact อย่างรุนแรง
กัคโปแสดงให้เห็นแล้วว่าน้องมันปลดปล่อยตัวเองแค่ไหนถ้าได้เล่นฝั่งซ้าย
มิติการเล่นไม่ซ้ำจนจับทางได้ง่ายเกินไปเช่นลากตัดเข้าในแล้วเหลือบมองเปิดให้ ซาลาห์ หรือถ่ายออกให้ตัวที่ว่าง ฯลฯ
อย่างที่เคยบอก กัคโป มีของแน่นอนถ้าใช้งานเป็นและพวกเราอุ่นใจได้เลยว่า อาร์เน่ สล็อต ปั้นต่อยาวๆแน่นอน
1 ประตู 1 แอสซิสต์ของแข้งดัทช์ที่ว่าเด่นแล้วแต่ต้องชิดซ้ายหลีกทางให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ปั่นโค้งๆเสียบสามเหลี่ยม สวยฉิบหาย
เสียอย่างเดียวน้องมันเล่นเพลย์เซฟตามระบบ 4-3-3 ภาพติดตาคือได้บอลปุ๊บจะเอียงตัวรอส่งคืนหลังตลอด
แต่ยุคใหม่วิธีการเล่นใหม่ในซีซั่นหน้ารวมถึงในวัยแค่ 21 ปีเวลายังเหลือเฟือที่เจ้าจุกจะอัพเกรดเป็นแพ็คเกจ “Gold” รอได้ไม่มีปัญหา
สำหรับ สเปอร์ส โอเคด้วยรูปแบบวิธีการเล่นในซีซั่นนี้ใครเห็นต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจแต่มันทำให้ผมนึกถึงสมัยยุค “ไก่” ปี 1997-98 ภายใต้ออสซี่ อาร์ดิเลส
ปีนั้นมี เยอร์เก้น คลินสมันน์ นำทัพ เล่นโคตรมัน ยิงที 4-5 ลูกแต่บทจะแพ้ก็แพ้ดื้อๆ บอลแบบนี้ประสบความสำเร็จยากครับ
การที่ “บิ๊กแอนจ์” เล่นบอลรุกไม่สนหลังบ้านทำให้การวินัยในเกมรับมีปัญหาอย่างหนัก
ช่วงพักครึ่ง เกล็น ฮอดเดิ้ล อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษและ ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนาน “สโต๊ค” ได้ชี้เป้าไปที่จุดอ่อนเดียวกันนั่นคือ เอแมร์ซอน รอยัล แบ็คซ้ายชาวแซมบ้า
โอเว่นพูดถึงการเช็กไลน์ออฟของ โรยัล ว่า very strange คือยึกยักเพื่อให้ โม ซาลาห์ ล้ำหน้าแต่ดันไม่ดูไลน์ของคนอื่น กลายเป็นว่าทิ้งการประกบ “อิยิปต์คิง” ไปซะอย่างงั้น
ส่วน “บิ๊กเกล็น” วิเคราะห์ลึกไปกว่านั้นคือมีการทำกราฟฟิควงการยืนตำแหน่งของ โรยัลว่า “โคตรมั่ว”
ดันสูงไม่พอ ไม่ดูจังหวะบอลด้วยว่าควรขึ้นหรือถอยมาประจำตำแหน่ง
ในช่วงนึงบอลอยู่ฝั่งแบ็คซ้ายของ “หงส์” และกำลังเพรสแย่งกันนัวเนียแต่อดีตแบ็ค บาร์เซโลน่า วิ่งเติมมาถึงหน้าเขตโทษตรงหัวกระโหลกก่อนทีมเสียบอลและโดนสวนกลับมาถึงหน้าประตูทันที
เจอร์เดน เดโฟ อดีตกองหน้า “ไก่” บอกปิดท้ายว่าถ้าจะเล่นแบบนี้ก็ต้องทั้งทีมไล่เอาบอลคืนมาให้เร็วที่สุด ยิ่งช้ากลางและหลังยิ่งเหวอะ
เท่าที่ผมสังเกต สเปอร์ส ไม่มี lead นำเช็กไลน์ออฟไซด์เป็นเรื่องเป็นราว จะเห็นได้ว่าลูกที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยิง 2-0 ก่อนหน้านั้นไลน์คดเคี้ยวเป็นฟันหลอเช่นกัน
นี่คือคำถามและเป็นการบ้านให้ “บิ๊กแอนจ์” ว่าจะยึดแนวทางนี้หรือปรับแนวรับให้มีบาลานซ์เพื่อผลงานที่สม่ำเสมอกว่านี้
อย่าลืมนะครับว่าซีซั่นนี้ สเปอร์ส ไม่มีเกมยุโรปยังมีปัญหาขนาดนี้แล้วปีหน้าจะบันเทิงแค่ไหน
ในขณะที่ชาว “หงส์” เชื่อว่าตอนนี้นับวันรอกุนซือใหม่, แนวทางการเล่นใหม่และ UCL แบบใหม่
เรียกว่าตื่นเต้นรู้อนาคตก่อนใครเขาล่วงหน้าแล้ว…
สถิติ สถิติ สถิติ
โม ซาลาห์ เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ยิงประตูและแอสซิสต์ 10+ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน, นอกจากนี้อิยิปต์ คิง ยังเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่ยิง,จ่าย 10+ ได้ 5 ฤดูกาลโดยคนแรกและยืนหนึ่งจนถึงตอนนี้คือ เวย์น รูนีย์
นอกจากนี้ โม ยิงประตูใส่ สเปอร์ส เป็นลูกที่ 12 แล้วแต่ก็ แมนฯยูฯ ยังเป็นทีมที่เจ้าตัวยิงมากที่สุดในทุกรายการอยู่เช่นเดิม (14 ลูก) และจากลูกนี้ทำให้ โม ครองอันดับ 1 ร่วมกับ แฮร์รี่ เคน (9 ประตู) สำหรับดาวซัลโวในเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส
จากการลงสนามในลีกเกมที่ 274 แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยิงประตู 2 เกมติดได้เป็นครึ่งแรก
ที่มา: soccersuck