อย่าจองหอง! คีนแซะคืน VvD บอก ‘ผี’ ไม่อยากชนะ
เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค สัมภาษณ์หลังผลเสมอ 0-0 บอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ต้องการเป็นผู้ชนะ แถมกำลังดีใจที่ได้หนึ่งแต้ม ซึ่งทำให้ รอย คีน ตำนานคู่แข่งวิจารณ์ตอบโต้กล่าวหากัปตัน ลิเวอร์พูล แสดงความจองหอง
ฟาน ไดจ์ค สวมปลอกแขนลงเต็มเวลา แม้ช่วย “หงส์แดง” เก็บคลีนชีท แต่ก็ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ “ปีศาจแดง” ที่ขาดตัวหลักหลายรายแบบไร้สกอร์ จนเสียตำแหน่งจ่าฝูง
สถิติหลังเกมเปิดเผย ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ครองบอลเหนือกว่า 69 เปอร์เซนต์ มีโอกาสตรงกรอบ 8 ครั้ง ส่วนฝั่งผู้มาเยือนยิงเข้าเป้าแค่ครั้งเดียว
“หากคุณได้ดูวิธีการเล่นเกมนี้ ชัดเจนเลยว่ามีทีมเดียวที่พยายามเป็นผู้ชนะ” กองหลังชาวดัทช์วัย 32 ปี สัมภาษณ์ที่ แอนฟิลด์
“เราเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า และสร้างโอกาสได้หลายครั้ง แต่บางทีลูกยิงของเราป้องกันง่ายเกินไป และควรเลือกจ่ายเพื่อนมากกว่า”
“เราเหนือกว่าคู่แข่งในทุกด้าน แต่สิ่งที่ขาดคือการตัดสินใจจังหวะสุดท้าย มันน่าหงุดหงิดเพราะเราต้องการเป็นผู้ชนะในทุกเกม”
“หลังจบเกม ยูไนเต็ด ดีใจกับหนึ่งคะแนน ขณะที่เรารู้สึกผิดหวัง แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด และรู้ถึงอันตราย เมื่อมาเยือนที่นี่”
“ปีก่อนเราเจอ ยูไนเต็ด ด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีนัก และสุดท้ายเราชนะอย่างขาดลอย แต่นั่นไม่มีความหมายในตอนนี้, วันนี้เราสมควรเป็นผู้ชนะ แต่เราต้องเดินหน้าต่อ และเรียนรู้จากสถานการณ์แบบนี้ ผมรู้ว่าเราจะทำได้”
ภายหลังบทสัมภาษณ์ถูกเผยแพร่ คีน ซึ่งรับหน้าที่วิเคราะห์เกมอยู่ ไม่พอใจคำพูดของ ฟาน ไดจ์ค และออกโรงตอบโต้
“ผมเพิ่งได้ยิน ฟาน ไดจ์ค สัมภาษณ์หลังเกม และได้เห็นการแสดงความจองหองอย่างมาก” อดีตมิดฟิลด์ไอริช กล่าวกลางรายการ
“ฟาน ไดจ์ค กำลังหยามเกียรติ ยูไนเต็ด ทั้งที่เขาควรระลึกว่าตัวเองกำลังเล่นให้กับสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกแค่สมัยเดียว ตลอดเวลากว่า 30 ปี”
“ฟาน ไดจ์ค บอกว่ามีทีมเดียวเท่านั้นที่ต้องการเป็นผู้ชนะ และ ยูไนเต็ด กำลังดีใจที่ได้แต้มเดียว…”
“ความจริงคือ ยูไนเต็ด อยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก แต่ก็เหมือนกับที่ ลิเวอร์พูล เคยเป็นมาหลายปี”
“สมัยเป็นนักเตะ ผมเคยมาที่ แอนฟิลด์ หลายครั้ง และ ลิเวอร์พูล ก็มีความสุขกับผลเสมอ ดังนั้นวันนี้ความจองหองของ ฟาน ไดจ์ค อาจย้อนกลับไปเข้าตัวเขาเอง”
“ยูไนเต็ด มีช่วงเวลาที่ดีหลายปี ดังนั้นผู้เล่นบางคนควรเตือนใจตัวเองไว้ว่า เขากำลังเล่นให้สโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล และไม่ควรหยามเกียรติแบบที่ ฟาน ไดจ์ค ทำ”
ที่มา: soccersuck