เด ปอลติง ‘แข้งสิงห์’ ไม่ควรออกสื่อซ้ำเติม ‘เอ็นโซ่’
โรดริโก้ เดอ ปอล กองกลางอาร์เจนติน่า ยอมรับคลิปร้องเพลงถึงผู้เล่นฝรั่งเศสบนรถบัส อาจสร้างความขุ่นเคืองให้บางคนได้ แต่วิจารณ์นักเตะ เชลซี ไม่ควรซ้ำเติม เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เพื่อนร่วมสโมสรออกสื่อ
ฟีฟ่า กำลังสอบสวนเหตุการณ์ภายหลัง เอ็นโซ่ ไลฟ์สดช่วงเวลาฉลองแชมป์ โกปา อเมริกา บนรถบัส แล้วมีเพลงซึ่งเนื้อหาพาดพิงเชื้อชาติ และรสนิยมทางเพศนักเตะ “ตราไก่”
เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ปราการหลังฝรั่งเศสสังกัด “สิงห์บลูส์” แชร์คลิปโพสต์ข้อความประณาม ขณะที่เพื่อนร่วมสโมสรทั้ง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, อเซล ดิซาซี่, มาโล่ กุสโต้, เบนัวต์ บาเดียชิลด์ กดเลิกติดตามไอจี เอ็นโซ่
แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็น ฝรั่งเศส อย่าง โรเมโอ ลาเวีย กับ อาร์มันโด โบรย่า ยังปรากฎชื่อในผู้กดอันฟอลโลว์ ส่วน นิโคลัส แจ็คสัน หอกเซเนกัล ให้กำลังใจ โพสต์วีดีโอ เอ็นโซ่ กำลังเล่นกับแฟนบอลวัยเด็กที่เป็นคนดำ
ทางฝั่ง อาร์เจนติน่า รองประนาธิปดี วิกตอเรีย วิลลาร์รูเอล ออกมาปกป้องเพลงที่ เอ็นโซ่ ร่วมร้องเป็นแค่ “การพูดความจริง” พร้อมยืนยันจะไม่ยอมให้ประเทศถูกกดขี่จาก “ชาติผู้ล่าอาณานิคม”
ท่ามกลางกระแสบานปลายไปถึงระดับการเมืองระหว่างประเทศ เด ปอล มิดฟิลด์วัย 30 ปีสังกัด แอตเลติโก้ มาดริด คือผู้เล่นภายในทีม “ฟ้าขาว” คนแรกที่ออกสื่อให้สัมภาษณ์:
“ผมเข้าใจดีว่าผู้คนที่เคยเจอการเหยียดเชื้อชาติ อาจไม่ชอบเพลงนั้น แต่หากเพื่อนร่วมทีมของ เอ็นโซ่ รู้สึกไม่พอใจ วิธีการที่ถูกต้องคือโทรหาเขา ไม่ใช่โพสต์ลงโซเชียล”
“ผมคิดว่าพวกเขามีเจตนามุ่งร้ายใส่เรา และพยายามทำให้เป็นเรื่องบางอย่างซึ่งไม่ใช่ความจริง มันรู้สึกแปลกประหลาดมาก และเหมือนกับการเตะใส่คนที่กำลังล้มอยู่”
“สำหรับผมการเลิกติดตาม เอ็นโซ่ ดูเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ คุณสามารถโทรหาเขาแล้วบอกว่า ‘เรื่องนี้ไม่โอเค ทำไมนายไม่โพสต์ข้อความขอโทษ?’ แล้วปัญหาก็จบตรงนั้น”
ตัว เอ็นโซ่ ลงข้อความขอโทษบนโซเชียลไปแล้ว ขณะที่ ราอูล เฟร์นานเดซ พ่อนักเตะ ร่วมปกป้อง: “ลูกผมไม่ใช่คนเหยียด และไม่เคยเป็นแบบนั้น”
“มันคือเรื่องยากที่ชาวยุโรป จะเข้าใจวัฒนธรรมการฉลองของเรา เอ็นโซ่ ไลฟ์สดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมและย่ำแย่ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเองว่ากำลังร้องเพลงอะไรอยู่ด้วยซ้ำ”
“เมื่อปี 2014 เยอรมนี เลียนแบบท่าเดินของคนในประเทศ และบอกว่าเราเป็นพวกไร้การศึกษา, ตอนปี 2018 ฝรั่งเศส ล้อเรื่องส่วนสูง เมสซี่ แต่เราไม่เคยออกมาบอกว่าตัวเองกำลังโดนเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม”
ที่มา: soccersuck