เบื้องหลังความสำเร็จของ “จีโรน่า” กับซีซั่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
#SSxLaLiga | จีโรน่า ทีมจอมเซอร์ไพรส์ประจำฤดูกาลนี้ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการคว้าสิทธิ์แข่งขันถ้วยใหญ่สุดของยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 94 ปี
ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน เกมดาร์บี้แมตช์แห่งคาตาลุญญ่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีโรน่า เปิดเอสตาดี้ มอนตีลีบี้ ชนะบาร์เซโลน่า 4 – 2 เป็นการเก็บชัยเหนือคู่ปรับร่วมเมืองได้ทั้งเหย้าและเยือนในฤดูกาลเดียวกัน
และผลการแข่งชันในเกมล่าสุด ทำให้ทัพ “บลังกีเบร์เมลล์ส” การันตีโควต้ายูซีแอล เป็นที่เรียบร้อย เมื่อเหลือ 4 เกมสุดท้ายของซีซั่น อีกทั้งยังมีลุ้นจบอันดับที่ 2 เพื่อเข้าร่วมในศึกสแปนิช ซูเปอร์คัพ ช่วงต้นปีหน้า
จากลีกรอง สู่ยูซีแอล ภายใน 3 ซีซั่น
มิเกล มูนญอซ เฮดโค้ชของจีโรน่า กล่าวหลังจบเกมล่าสุดว่า “มันคือประวัติศาสตร์ มันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก ฤดูกาลนี้เราประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ จากที่เคยอยู่ในระดับดิวิชั่น 2 สู่รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป”
จีโรน่า เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของสเปนเป็นครั้งแรกของสโมสร เมื่อฤดูกาล 2017/18 จบสูงถึงอันดับที่ 10 ของตาราง แต่ซีซั่นถัดมา ได้เพียงอันดับที่ 18 ต้องกลับไปลีกรองอีกครั้ง ซึ่งรอบนี้กินเวลานานถึง 3 ซีซั่น
จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จีโรน่ากลายเป็นทีมน้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดด้วยการเอาชนะเพลย์ออฟ ทำผลงานได้ดีเกินคาด จบในอันดับที่ 10 ของตาราง และยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของลาลีกา
สำหรับในฤดูกาลนี้ ขุมกำลังของจีโรน่ามีการปรับเปลี่ยนพอสมควร เนื่องจากมีผู้เล่นหลายคนออกจากทีม แต่ก็มีนักเตะแกนหลักที่ยังอยู่อย่างเปาโล กาซซานิก้า, ดาบิด โลเปซ, อเล็กซ์ การ์เซีย และยังเกล เอร์เรร่า
ซึ่งการเสริมทัพของจีโรน่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว เริ่มจากแนวรับ ดาลี่ย์ บลินด์ แช้งมากประสบการณ์ที่ย้ายมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว รวมถึงเอริค การ์เซีย ที่ยืมตัวมาจากบาร์เซโลน่า เพื่อเพิ่มตัวจ่ายบอลจากแผงหลัง
มาที่แดนกลาง ได้ตัวนักเตะสารพัดตำแหน่งทั้งอิวาน มาร์ติน ที่ทำไป 5 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ และปอร์ตู ที่ทำไป 7 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ ซึ่งในจำนวนนี้ คือการเหมาคนเดียว 2 ลูก ในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะบาร์ซ่า
ปิดท้ายที่เกมรุก ได้แข้งคนสำคัญอย่างอาร์เต็ม โดฟบีค ที่ช่วยทดแทนการจากไปของวาเลนติน คาสเตลลานอส ชนิดไร้รอยต่อ ด้วยผลงาน 20 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ ผนึกกำลังกับซาวิโอ ที่ยิงไป 8 ประตู กับ 9 แอสซิสต์
ทัพ “บลังกีเบร์เมลล์ส” เป็นทีมจากลาลีกาทีมแรกในรอบ 12 ปี ที่เป็นน้องใหม่ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อจากมาลาก้า และพวกเขาคือ 1 ใน 36 ทีม ที่จะได้ประเดิมการแช่งขันรูปแบบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้นไป
ผลงานที่ยอดเยี่ยมของจีโรน่า ต้องให้เครดิตกิเก้ กาเซล ผู้อำนวยการกีฬาที่คัดสรรนักเตะเข้าสู่สโมสรได้เป็นอย่างดี จนมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และสามารถทดแทนการขาดหายไปของผู้เล่นในตำแหน่งต่างๆ ตลอดซีซั่น
ปรัชญาเกมรุกของมูนญอซ พาบินสูง
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของจีโรน่า จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าปราศจากชายที่ชื่อ มิเกล มูนญอซ เทรนเนอร์ชาวสเปนวัย 48 ปี ที่ได้นำปรัชญาการเล่นเกมรุกเมื่อครั้งสมัยเป็นนักเตะ มาปลูกฝังให้กับสโมสรที่ได้ทำงานในปัจจุบัน
ในฤดูกาลนี้ จีโรน่า ภายใต้การคุมทีมของมูนญอซ ยิงได้ 73 ประตูเฉพาะลาลีกา หรือเฉลี่ยเกมละ 2.15 ประตู ซึ่งมีอีก 2 ทีม ที่เจาะตาข่ายได้อย่างน้อย 70 ประตู นั่นคือเรอัล มาดริด (74 ประตู) และบาร์เซโลน่า (70 ประตู)
แผนการเล่นของมูนญอซ มีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น 4-1-4-1 หรือ 4-2-3-1 หรือ 3-4-3 แม้ว่าในระหว่างฤดูกาล จีโรน่าจะมีข้อผิดพลาด แต่เขาก็สามารถแก้เกมและได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการในหลายๆ นัด
อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทีมของมิเกล มูนญอซ สามารถจบท็อปโฟร์ได้สำเร็จ คือผลงานยามเล่นในบ้านที่เอสตาดี้ มอนตีลีบี้ โดยชนะ 14 เสมอ 2 และแพ้ 1 จาก 17 เกมจนถึงเวลานี้ และยิงได้ 46 ลูก มากที่สุดเหนือกว่าทุกทีม
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือเบื้องหลังความสำเร็จของจีโรน่า สโมสรเล็กๆ จากแคว้นคาตาลุญญ่า ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พวกเขาจะได้สัมผัสกับการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรก
ที่มา: soccersuck