‘เรเน่’ เผย ‘ป๋า’ โคตรเทพปลุกผีปีพลาดแชมป์ดราม่า
เรเน่ มิวเลนสตีน อดีตมือขวา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เผยถึงความเก่งกาจในด้านจิตวิทยาของ เซอร์ อเล็กซ์ หลังจบเกมที่พวกเขาพลาดแชมป์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดสุเท้ายของฤดูกาล
หลังจากการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์ในฤดูกาล 2011/12 ระหว่าง 2 เมืองแมนเชสเตอร์ จบลงด้วยความตื่นเต้นในนัดสุดท้ายของฤดูกาล
แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะคว้าแชมป์หลังจบเกมชนะ 1-0 ที่ ซันเดอร์แลนด์ ในขณะที่ ซิตี้ กำลังจะพ่ายแพ้ในบ้านต่อ คิวพีอาร์ ด้วยสกอร์ 2-1 แต่ได้ เอดิน เซโก้ และจากนั้น เซร์คิโอ อเกวโร พลิกเกมและพาทีมกลับมาชนะพร้อมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปอย่างน่าจดจำ
ประตูของ อเกวโร ทำให้ เฟอร์กูสัน ผู้เล่นของเขาและทีมงานเบื้องหลังต้องตกตะลึงที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของนักเตะก็ดีขึ้นภายในไม่กี่นาทีเมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ กล่าวทีมทอล์กหลังเกมนั้น และทำให้ ยูไนเต็ด กลับมาครองแชมป์อีกครั้งในอีก 12 เดือนต่อมา
วิธีที่ เซอร์ อเล็กซ์ จัดการกับสิ่งนั้นได้รับการบอกเล่าโดยผู้ช่วยของเขาในเวลานั้น เรเน่ มิวเลนสตีน ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขากำลังจะวางแผง
“ความผิดหวังในช่วงท้ายฤดูกาลสามารถเกาะกินความคิดของคุณได้จริงๆ และความพ่ายแพ้ในปี 2012 เป็นความรู้สึกที่ทีมงานทุกคนรู้สึกได้” เขาเขียน
“ในช่วงเวลาก่อนที่นักเตะจะกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ผมจำได้ว่าผมคิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราที่จะต้องซ่อนความผิดหวังของตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่านักเตะจะไม่รู้สึกแย่ขนาดนั้น”
“ในคำปราศรัยหลังเกมของเขา บอสได้เปลี่ยนความคิดของเราทั้งหมด และเราก็มีสมาธิกับการคว้าแชมป์ทันที มันเป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมากที่สุดของเรายังไม่เคยผ่านมันมา นั่นคือแรงจูงใจของพวกเขาที่จะลุยอีกครั้ง”
“ในช่วงเวลาแบบนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปและใส่สิ่งต่างๆลงไปในบริบท ผมประหลาดใจมากยิ่งขึ้นในสิ่งที่เจ้านายสามารถทำได้ในช่วงเวลาที่ยาวนาน”
“เราพูดคุยกันถึงสิ่งที่เขาทำและวิธีที่เขาทำ แต่ความจริงก็คือมันไม่ได้ลอกเลียนกันง่ายๆ สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือเราอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน ออกมาจากสิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นวิธีการที่สูญเสียทางจิตใจจากการพลาดแชมป์ และที่สโมสรที่คุณต้องชนะอย่างมีสไตล์ในทุกเกม ผมไม่เคยรู้สึกกดดันอะไรเลย”.
“ความพ่ายแพ้กลายเป็นความท้าทาย มันเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา และต้องขอบคุณผลงานของเซอร์ อเล็กซ์”
ที่มา: soccersuck