เร็กซ์แฮม คืนกล่อง!! ของจริงนับจากนี้
นับตั้งแต่ “เด้ดพูล” ไรอัน เรย์โนลดส์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เร็กซ์แฮม เมื่อปี 2021 ทั้งคู่ควักเนื้อจ่ายอย่างเดียวไม่มีกำไรใดๆ
เคยเป็นข่าวเมื่อปีก่อนว่าตอนอยู่ “เนชั่นลีก” ขาดทุนเกือบ 3 ล้านปอนด์ใน 1 ปี
ตัวเลขดูจิ๊บจ้อยมากในสายตาพวกเราที่เห็นการย้ายทีมในพรีเมียร์ลีกระดับ 60-90 ล้านปอนด์จนเป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับ “เดอะ เร้ด ดราก้อน” ณ ตอนนั้นมันกลายเป็นสถิติการขาดทุนในประวัติศาสตร์ของสโมสร (นับช่วงเวลาภายใน 12 เดือน)
สืบเนื่องมาจากสมัยยังอยู่ “เนชั่นลีก” ต้นทุนในการสร้างทีมพอกพูนขึ้นเรื่อยๆรวมถึงค่าเหนื่อยที่ดึงมาจากลีกบนๆอย่าง พอล มัลลิน และ โอลิเวอร์ พัลเมอร์
เรียกว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากกว่าทีมระดับ “นอกลีก” แบบเกินเบอร์ไปเยอะมาก
ปีแรกของการเทคโอเวอร์ เร็กซ์แฮม เกือบเลื่อนชั้นสำเร็จแต่ดันมาแพ้เพลย์ออฟรอบรองฯ ต่อกริมสบี้ หงอยกันทั้งเมือง
อย่างไรก็ตาม 2 สตาร์ฮอลลีวู้ดกัดฟันเสริมทัพต่ออีกปีพร้อมเปรยว่าถ้าไม่ได้เลื่อนชั้นจาก “นอกลีก” ที่จมปลักมาอย่างยาวนาน 15 ปีคงต้องขายนักเตะทิ้งแน่นอน
ครับในที่สุด เร็กซ์แฮม เลื่อนชั้นสู่ “ลีกทู” ด้วยการคว้าแชมป์ เนชั่นลีก ซึ่งเป็นโทรฟีย์ลีกหนแรกในรอบ 45 ปีเมื่อปี 2023 จนกระทั่งต่อยอดความสำเร็จ back to back สู่ “ลีกวัน” ด้วยการคว้ารองแชมป์ในซีซั่นนี้
แต่ทุกๆการเลื่อนชั้นมันต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจาก “เจ้าที่เดิม” ที่ประจำอยู่ในลีกนั้นๆเขาได้เปรียบจากเงินที่เคยได้รับมากกว่า เร็กซ์แฮม การเสริมทัพจึงแกร่งกว่า
เร็กซ์แฮม จึงต้องพยายามเล่นเกม “ไล่จับ” เสริมทัพให้อยู่ในระดับพอสู้ได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
บรรดาทีมเต็งของ ลีกวัน ใช้เงินสัปดาห์ละ 1 ล้านปอนด์หรือเกือบ 10 เท่าที่ เร็กซ์แฮม กำลังแบกอยู่ ณ ปัจจุบันี้ นี่แหละคือข้อแตกต่างที่ยอดทีมจากเวลส์จะเจอกับการแข่งขันของจริงไม่ติงนัง
ในลีกทูซีซั่นที่เพิ่งจบไปนั้น เร็กซ์แฮม มีบิลค่าเหนื่อยสูงสุดในลีกถึง 107,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เรียกว่าเกินค่าเฉลี่ยของลีกทูที่แตะอยู่แค่ 58,000 ปอนด์เท่านั้น
แค่ จอร์จ อีแวนส์ ที่ซื้อมาจาก มิลวอลล์ เมื่อกันยายนปีที่แล้วก็ฟันค่าเหนื่อยทะลุเพดานที่ 7,200 ปอนด์ต่อสัปดาห์เข้าให้แล้ว
หรือในรายของ “ซุปตาร์” พอล มัลลิน กองหน้าหนูถีบจักรที่ยิงในฤดูกาลนี้ไปถึง 23 ประตูเคยรับอยู่ที่ 4,500 ปอนด์ต่อสัปดาห์แต่ตอนนี้ได้มากกว่าตัวเลขที่ว่านั้นไปแล้วหลังต่อสัญญาเมื่อเดือนมกราคม
ค่าใช้จ่ายสะสมที่ “เด้ดพูล” และเพื่อนรักช่วยกันแบกมีมาตลอดทางเรื่อยๆโดยในปี 2022 พวกเขาควักเงินเป็นสถิติสโมสรถึง 300,000 ปอนด์เพื่อซื้อ โอลี พัลเมอร์ หอกร่างโย่งที่สูงถึง 196 ซม. ซึ่ง ณ เวลานั้นเล่นอยู่ในลีกวันกับ วิมเบิลดัน และยอมลดตัวมาเล่นนอกลีกหรือต่ำกว่าถึง 2 tier
เจมส์ แมคคลีน มิดฟิลด์มากประสบการณ์ซึ่งเคยเล่นพรีเมียร์ลีกกับ เวสต์บรอม มาแล้วก็เป็นอีกขุนพลที่ เร็กซ์แฮม ไปซื้อมาจาก วีแกน เมื่อปี 2023 ด้วยค่าตัว 250,000 ปอนด์
โดยรวมทั้งหมดแล้วฤดูกาลที่ผ่านไป เร็กซ์แฮม มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 70% จาก 4 ล้านปอนด์เมื่อซีซั่น 2022-23 เป็น 7 ล้านปอนด์
แม้เส้นทางการผจญภัยของ 2 สตาร์ฮอลลีวู้ดเลื่อนชั้น 2 ปีติดดูๆแล้วช่างสวยงามลาเวนเดอร์แต่นับจากนี้ เร็กซ์แฮม กำลังจะเจอของจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในขณะเดียวกัน “เงินรายได้” ที่ทีมเล็กๆใฝ่ฝันจากการเล่นลีก tier 3 ของ เร็กซ์แฮม ก็มากขึ้นตามลำดับเช่นกัน จะมาจากไหนและมากแค่ไหน?
รายได้จาก EFL
เงินที่ว่านี้ถูกเรียกว่า Solidarity Payment ที่จ่ายให้ทุกๆทีมในลีกวัน เป็นเงินรางวัลขั้นพื้นฐานและค่าอำนวยความสะดวกต่างๆ
ในซีซั่น 2023-24 สโมสรจากลีกวันได้รับเงิน Solidarity Payment จำนวน 778,500 ปอนด์และเงินพื้นฐานอีก 920,000 ปอนด์ รวมเบ็ดเสร็จ 1,698,500 ปอนด์
นอกจากนี้มีเงินจากการถ่ายทอดสดในลีกวันที่เจ้าบ้านจะได้รับ 30,000 ปอนด์และทีมเยือน 10,000 ปอนด์เป็นเงินขวัญถุงอีกด้วย
เมื่อเทียบกับที่ เร็กซ์แฮม ได้รับตอนอยู่ลีกทูคือ Solidarity Payment 519,000 ปอนด์และเงินพื้นฐาน 635,000 ปอนด์รวม 1,154,000 ปอนด์ซึ่งเห็นได้ชัดว่ารับน้อยกว่าครึ่งล้านปอนด์
เพิ่มเติมข้อมูล หาก เร็กซ์แฮม ยังติดลมบนเลื่อนชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพ (ซึ่งไม่ง่ายแน่นอน) พวกเขาจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดสุดๆ
Solidarity Payment เน้นๆ 5,190,000 ปอนด์และเงินพื้นฐานอีก 3,210,000 ปอนด์รวมแล้วมากถึง 8,400,00 ปอนด์เลยทีเดียว
เจอทีมดังๆมากขึ้น
นอกจากเงินรายได้ที่แน่นอนจากลีกแล้ว เร็กซ์แฮม จะมีคู่แข่งที่มีชื่อมากขึ้นและนำมาซึ่งเงินค่าตั๋วที่โดยทั่วไปแต่ละสโมสรจะขึ้นตามลีกที่ตัวเองสิงสถิตอยู่
ฤดูกาลหน้ายอดทีมจากเวลส์จะปะทะแข้งกับ เรดดิ้ง, วีแกน และ ชาร์ลตัน ทีมที่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อไม่นานมานี้
ชื่อเสียงและสปอนเซอร์
ถ้าพูดกันถึงชื่อเสียง เร็กซ์แฮม ถูกพูดถึงในวงกว้างนับตั้งแต่มีสารคดี Welcome to Wrexham ทางเน็ตฟลิกซ์ ที่ว่ากันว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง
ฐานแฟนบอลเพิ่มมากขึ้นอย่างเหลือเชื่อและจะทวีคูณมากขึ้นไปอีกเมื่อก้าวเข้ามาสู่ลีกวัน
เฉกเช่นเดียวกับสปอนเซอร์ที่ ณ ตอนนี้อำนาจการต่อรองของ “มังกรแดง” มีมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
พูดให้เห็นภาพคือ เร็กซ์แฮม เคยได้รับเงินจากสปอนเซอร์อและค่าโฆษณาต่างๆเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านปอนด์ในปี 2022 เป็น 1.8 ล้านปอนด์ในปี 2023
สำหรับคนที่สนใจตัวเลขเงินๆทองๆนั้น ผลประกอบการปี 2024 จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนี้นะครับ
ขายเสื้อแข่งและสินค้า
เป็นเป้าหมายที่ เร็กซ์แฮม หวังไว้ไม่ใช่น้อยเพราะก่อนหน้านี้อยู่นอกลีกรายได้จากชุดแข่งขยายตัวสูงอยู่แล้วซึ่งผลพวงมาจากสารคดีใน Netflix นั่นเอง
น้องใหม่ลีกวันโกยเงินจากการขายเสื้อและสินค้าในปี 2023 สูงถึง 3.4 ล้านปอนด์ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2022 ที่เคยได้แค่ 1.3 ล้านปอนด์
คาดกันว่าการประเดิมลีกอันดับ 3 ของปิระมิดจะทำให้ เร็กซ์แฮม ฟันแหลกไม่ต่ำกว่า 5 ล้านปอนด์แน่นอน
บทสรุป
น่าติดตามดูกันต่อว่า เร็กซ์แฮม จะเอาตัวรอดในลีกวันที่ว่ากันว่ามีหลายทีมไม่น้อยที่คิดการใหญ่อยากหนีไปโกยเงินใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่สุดท้ายก็ยังไม่สมหวังซักที
ในแง่การตลาดการปั้นชื่อของ เร็กซ์แฮม ผ่านสารคดีใน Netflix จนคนรู้จักไปทั่วโลกถึงขนาดที่ว่าเกม FIFA ยังเอามายัดลง rest of the world ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง
แต่ในระยะยาวเมื่อกระแสซาลงหรือทีมอยู่ในช่วงขาลงไม่สามารถบรรลุตามเป้า เจ้าของจากฮอลลีวู้ดจะยังสนุกกับการลงทุนต่อไปหรือไม่
ผู้คนที่เคยคลั่ง เร็กซ์แฮม ตามเทรนด์และพร้อมกันคืนกล่อง Netflix ทุกๆอย่างเป็นไปได้หมดในโลกของฟุตบอล
ที่มา: soccersuck