กูไม่สน!..เจ้าชายซาอุฯยันทำ “Sportwashing” ต่อ

เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ออกมายอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่าพวกเขากำลังทำ Sportwashing ต่อภาพลักษณ์ในประเทศ และจะยังคงทำต่อไปภายหลังพวกเขาลงทุนเม็ดเงินมหาศาลในด้านกีฬา

ซาอุดิอาระเบีย ลงทุนเม็ดเงินจำนวนหลายร้อยล้านปอนด์เพื่อจะลบภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในเรื่องของสิทธิมนุษยชนหลังจาก พวกเขาสั่งประหารชีวิตชาย 81 คนในวันเดียวเมื่อปีที่แล้ว, การล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรี, อาชญากรรมที่เกี่ยวกับการรักร่วมเพศ, การจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และบทบาทของพวกเขาในสงครามเยเมน

โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ประกาศว่าเขาจะทำ Sportwashing ต่อไปเนื่องจากเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ถ้าการทำ Sportwashing มันเพิ่ม GDP ของฉันได้ 1% ฉันก็จะทำมันต่อ”

แม้จะถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างนั้นในการทำธุรกิจในลักษณะนี้ แต่ บิน ซาลมาน ยืนยันคำตอบเดิมของเขา

“ฉันไม่สน ฉันมี GDP ที่เพิ่มขึ้นจากกีฬา และฉันตั้งเป้าจะให้เพิ่มขึ้นอีก 1.5% คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดไป เราจะทำ 1.5% นั้นให้ได้”

บิน ซาลมาน ในขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานกองทุนการลงทุนของประเทศ (PIF) โดยในปีที่ผ่านมาพวกเขาได้เข้าซื้อกิจการสโมสร นิวคาสเซิ่ล และก่อตั้ง LIV Golf รวมถึงเป็นเจ้าของสโมสรใหญ่ๆในซาอุดิอาระเบียอย่าง อัล อาห์ลี, อัล ฮิลาล และ อัล นาซเซอร์

บรรดาสโมสรต่างใน ซาอุดิ โปร ลีกคว้าตัวนักเตะดาวดังของโลกฟุตบอลอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, เนย์มาร์ และอีกหลายต่อหลายคนไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของประเทศ

การยอมรับอย่างตรงไปตรงมาของ บิน ซาลมาน ในการทำ Sportwashing ทำให้เกิดคำถามมากขึ้นถึงการเข้าซื้อกิจการสโมสร นิวคาสเซิ่ล แม้ว่า พรีเมียร์ลีก จะให้การรับรองแล้วภายหลัง “มีหลักประกันทางกฎหมาย” ที่ระบุว่ารัฐ ซาอุดิอาระเบีย จะไม่เข้ามาแทรกแซงการบริหารภายในสโมสร

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: