ขอมือเธอหน่อย ฝันร้ายจุดโทษน.90+8
ผลเสมอกำลังจะเป็นสกอร์ที่แฟร์ๆสำหรับ แมนฯยูไนเต็ด และ ไบรท์ตัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์แฮนด์บอลฟ้าผ่าของ ลุค ชอว์ ช่วงเสี้ยววินาทีที่ผู้ตัดสินอมนกหวีดรอเป่าจบเกม
ป้ายทดเจ็บอยู่ที่ +5 และจังหวะเตะมุมของ “นกนางนวล” เกิดขึ้นในนาที 94.38 นาที เรียกว่ากำลังจะเป็นจังหวะ last play ของเกมนี้
เตะมุมทิ้งทวนสร้าง 2 โอกาสทองให้เจ้าถิ่นเมื่อ บรูโน่ ช่วยเซฟที่เสาไกลเกือบๆบนเส้นและ เด เกอา บินปัด
รอดตายหวุดหวิดและเกมควรจะจบลงเมื่อบอลถูกหวดทิ้งจุดพลุครบ 90+5
แต่ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ เป่าหยุดเกมแบบงงๆ ก่อนภาพช้าทำเอาแฟนผีถึงกับเก้าอี้หงาย!!
กองหลังทีมชาติ อังกฤษ ที่กำลังจะอายุเต็ม 28 ในเดือนกรกฏาคมและเล่นดีมาตลอดทั้งเกมไม่รู้คิดยังไงถึงกางมือปัดบอลจากลูกเตะมุมแบบนั้น
ผมพยายามดูภาพช้าหลายครั้งก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม ชอว์ ถึงกางแขนยกสูงแถมวาดรัศมีปัดราวกับทำเลย์อัพใต้แป้นอีกต่างหาก
หลักฐานคาตา รอดยากจริงๆครับ
แฟนผีทำใจล่วงหน้าทันทีที่ผู้ตัดสินทำสัญญาณมือขอดู VAR เพราะเข้าสูตรเพื่อนไลน์มาให้เดินไปดูเองนั่นหมายถึงว่าเพื่อนมองแล้วว่าจุดโทษและ “แอดมิน” กลุ่มจะคัดค้านให้แตกคอกันทำไม
เป็น 1 นาทีกว่าๆที่ทุกข์ทรมานของเหล่า “เร้ดอาร์มี่” จริงๆครับกับการรอคำยืนยันจุดโทษจากอีตา มาร์ริเนอร์ ที่ปล่อยเกมไหลจนเกมเกือบเดือด
กว่าจะดู VAR กว่าจะเคลียร์พื้นที่รวมถึง แม็คอัลลิสเตอร์ โชว์ความนิ่งยืนจอยค้างนิดหน่อยหลัง มาร์ริเนอร์ เป่านกหวีดให้ยิงจุดโทษนานกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไป
ท้ายที่สุดประตูล่อไปถึงนาที 90+8.15 นาทีหรือนับเป็น official คือ 90+9
แพ้โดยที่เกมจบทันทีกับแพ้เพราะโดนยิงในเกม(และยังเหลือเวลา)นี่คนละอารมณ์เลยนะครับ
อย่างแรกคุณทำได้แค่เดินไปจับมือกับคู่แข่งแต่อย่างหลังอย่างน้อยๆคุณได้พยายามทวงคืนเต็มที่แล้ว
จั่วหัวของบทความนี้ที่ผมบอกว่าแฟร์ๆคือในครึ่งแรก “ปีศาจแดง” มีโอกาสขึ้นนำเยอะมาก เรียกว่าได้ยิงระยะล่อเป้าเน้นๆไม่ว่าจะเป็น แรชฟอร์ด หรือ มาร์กซิยาล
แต่ไม่มีซักลูกที่เป็นประตู ความได้เปรียบถูกทิ้งไปต่อหน้าต่อตา
ยูไนเต็ด อุตสาห์มีดวงครั้งใหญ่รอดตายไม่เสียประตูตั้งแต่ 3-4 นาทีแรก
ลินเดอร์เลิฟ ที่เป็นฮีโร่ในเกมชนะ แอสตัน วิลล่า พลาดมหันต์จ่ายบอลสั้นหน้าเขตโทษถูก มิโตมะ ตัดหลุดไปดวลตัวตัวกับ เด เกอา
แต่แข้ง “อุทิศอุทัย” เห็นแก่ตัวไปหน่อย (และวันนี้เล่นต่ำกว่ามาตรฐาน) เลือกยิง head shot ใส่ “ลามะ” ที่หลับตาหันหน้าหนีไปแล้ว
ที่บอกว่าเห็นแก่ตัวเนื่องจากเป็นจังหวะหลุดเดี่ยว 2 รุม 1 ตามสูตรผู้รักษาประตูปรี่ออกจากกรอบ 6 หลามาแล้วเพื่อนที่วิ่งประคองมาคือ option ไฟท์บังคับ
ครึ่งแรก “นกนางนวล” รูปเกมดูดีกว่าตรงทีมเวิร์ค, การรับส่งบอลขึ้นเกมสวยงาม, ขยันไล่เพรสทุกตัว
แต่จุดอ่อนของบอลสไตล์นี้คือยิ่งต่อเยอะใช้จังหวะบอลเยอะแถมวันนี้บ้ายิงฝืนยิงมากกว่าปกติ
แต่ในขณะเดียวกันครึ่งหลังเจ้าถิ่นมีโอกาสได้น้ำได้เนื้อเยอะขึ้น ส่วนนึงมาจากความอ่อนแรงของ “ผีแดง” ทำให้ ไบรท์ตัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความฟิตและความแพรวพราวเอาตัวรอดเก่งทุกคนแม้กระทั่งเซนเตอร์
หลังเกมนี้ถามว่าสถานการณ์ top 4 ของขุนพล เอริค เทน ฮาก สั่นคลอนไหม
ทุกอย่างยังอยู่ในมือของ ยูไนเต็ด แค่มีอาการตึงๆเล็กน้อยจากการที่ปลุก ไบรท์ตัน ให้มีความหวังขึ้นมา
“นกนางนวล” มี 1 เกมในมือซึ่งติ๊ต่างว่าเป็นไปตามแผนก็ยังตาม “ปีศาจแดง” มากถึง 5 แต้มอยู่ดี
ถ้าโปรแกรมเหลือซัก 10 นัดบอกเลยว่าหนาวแต่จำนวนเกมเหลือน้อย ผู้ตามมีโจทย์ที่ยากมากคือพลาดซักเกมนี่แทบจบ
สำหรับ ไบรท์ตัน ยังเป็นขวัญใจของใครหลายๆคนด้วยสไตล์การเล่นราวกับ บาร์ซ่า และ แมนฯซิตี้
แกะเพรสนิ่งมากและทีเด็ดคือยามเสียบอล (ไม่ใช่รปภ.แทงบอลนะ กริบบบบ) คู่แข่งแทบไม่มีโอกาสได้สวนจะๆเลยเพราะโดนรุมแย่งกลับมาได้ซะเป็นส่วนใหญ่
นับจากนี้น่าสนใจเอามากๆครับว่าทีมระดับกลางอย่าง ไบรท์ตัน ที่ระบบดีจัด/นักเตะเจนสนามทุกตัวแบบนี้จะป้องกันการสมองไหลในระยะยาวได้นานแค่ไหน
เพลย์เมคเกอร์อย่าง แม็คอัลลิสเตอร์ ส่อแววย้ายซัมเมอร์นี้ ในขณะที่ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือฝีมือดีไม่ช้าก็เร็วได้คุมทีมใหญ่แน่
มี 1 ต้องมี 2 ปลาเล็กเมื่อถึงจุดๆนึงหนีไม่พ้นวัฏจักรอยู่ดีครับ
ทีมประเภท “Small wonder” อย่าง วูลฟ์, เลสเตอร์ หรือแม้กระทั่ง เบรนท์ฟอร์ด มีผลงานขึ้นๆลงๆในแต่ซีซั่นสลับกันไป ตามเป้าหมายหลักทุกปีคือแค่อยู่รอดปลอดภัยโกยเงินในพรีเมียร์ลีกเอาไว้ก่อน
แต่สำหรับ ไบรท์ตัน ค่อนข้างแหวกแนวเพราะจับสัญญาณได้ว่าสโมสรแห่งนี้มีความอยากโตและรากฐานระบบการเล่นที่ แกรห์ม พ็อตเตอร์ วางไว้ยิ่งโหดกว่าเดิมในยุค เด แซร์บี้
เล่นบอลคุณภาพแบบนี้อยากเชียร์ให้ไปสร้างชื่อในเวทียุโรปฤดูกาลหน้าจริงๆครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
จุดโทษของ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ เป็นประตูที่เกิดขึ้นท้ายเกมที่สุด (98:16) นับตั้งแต่ บรูโน่ แฟร์นาเดส ที่ยิงให้ แมนฯยูฯ โดยคู่แข่งบังเอิญสุดๆเป็น ไบรท์ตัน เมื่อเดือนกันยายน 2020 (99:45)
นอกจากนี้ประตูท้ายเกม 90:16 เป็นประตูชัยท้ายเกมที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ไบรท์ตัน ในการเจอกับ แมนฯยูฯ เลยทีเดียว
ที่มา: soccersuck