ครูภูมิใจในตัวเธอ รีแมทช์รอบชิงหงส์-สิงห์

ครูภูมิใจในตัวเธอ รีแมทช์รอบชิงหงส์-สิงห์

ขอยืนยันต่อทุกๆท่านไว้ที่นี้เลยว่า “คุ้มค่า” แน่นอนหากใครคิดจะหา Full match ดูย้อนหลังในเกมลิเวอร์พูลผ่านฟูแล่มเข้าชิง คาราบาว คัพ

แม้บทความ 80% ผมจะเขียนก่อนฟูแล่มตีเสมอในนาที 77 แต่ผมขอซื่อสัตย์กับตัวเองไม่ดัดแปลงแก้ไขใดๆ(แต่เพิ่มแทรก)เพราะเกมนี้ลิเวอร์พูลเล่นประทับใจผมไปเต็มๆ

ลูกตีเสมอของดิยอปทำให้เวลาที่เหลืออีก 13+4 นาที “หงส์แดง” ต้องหันมาตั้งรับเนื่องจากฟูแล่มลุยแบบไม่มีอะไรจะเสียจริงๆ

ผลเสมออาจทำให้เดอะค็อปถอนหายใจด้วยความเซ็งเล็กน้อยเพราะจริงๆแล้วฟอร์มวันนี้อร่อยเหาะสมควรยิงปิดเกม 2-3 ลูกตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ

อย่างที่ JK ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าพอไม่ยิง(เพิ่ม)ในขณะที่ครองเกมก็เท่ากับ leave the door open ให้ฟูแล่ม

แต่ฟีลลิ่งผมกับคล็อปป์เหมือนกันคือ “แฮปปี้” กับหลายๆอย่างในเกมนี้

สิ่งที่คุณขโมยไปจากลิเวอร์พูลในวันนี้ไม่ได้เลยคือคำชมที่ใครได้ดูต้องรู้สึกเพลิดเพลินกับวิธีการเล่น

นักเตะของ “หงส์แดง” ทุกคนขอย้ำว่า “ทุกคน” เนียนกริบทำหน้าที่ของตัวเองได้ไร้ที่ติ

ปกติ “เจ้าสัว” เจอ “หงส์” รูปเกมไม่เคยห่างกันขนาดนี้ ส่วนนึงต้องบอกว่ามันไม่ใช่บอลลีกแต่เป็นบอลถ้วย 2 นัดที่บังเอิญเจ้าบ้านแพ้มา 2-1

และไม่ช่วยเข้าไปอีกเมื่อลิเวอร์พูลดันยิงประตูไวตั้งแต่นาทีที่ 11 และเป็นการวางบอลยาวจากแดนหลังอีกแล้ว (ควอนซาห์)

ดังนั้นแท็คติกส์หากินคือรับรอสวนที่เล่นงาน JK และลูกทีมมาตลอดใช้ไม่ได้แล้ว ต้องทิ้ง DNA ตัวเองยอมเป็นฝ่ายขึ้นมาเพรสไล่บอลตั้งแต่แดนบนซึ่งเจ้าบ้านไม่ค่อยถนัดเลย

เมื่อตัวบนไล่สูงแน่นอนกลางและแนวรับต้องดันสูงตาม ไลน์พื้นที่ด้านหลังเปิดโล่งซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฟูแล่มเล่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันแต่มันไม่มีทางเลือกอื่นใดแล้ว

เมื่อมาทรงนี้ลิเวอร์พูลยิ้มลูบปากรอเลยครับ แม้ไม่มี TAA แต่ทั้ง ฟาน ไดจค์และควอนซาห์ 2 เซนเตอร์วางยาวข้ามหัวรัวๆ สลับกันเปิดบ่อยๆแถมแม่นจนคนดูทั้งทางบ้านและในสนามแยกไม่ออกแล้วคนไหนพี่คนไหนน้อง

ส่วนใหญ่จะเน้นมาทางฝั่งดิอาซ (ซ้าย) ส่วนทางขวาน้อยกว่าเนื่องจากแบร๊ดลีย์ด้วยความที่ยังเด็กการเอาบอลลงไม่ยากเท่าไหร่แต่การเจอตัวเข้าไวนี่แหละที่ทำให้น้องมันเล่นลำบาก

แต่ถ้าเป็นภาคพื้นดินขอบอกว่าเจ้าหนูไอร์แลนด์เหนือโคตรเอาครับ รับไว้ใจได้ไม่มีลูกเหวอแถมยังมีโชว์ท่าพลิกหลบท่า “กรรไกร” ให้เราร้องว้าวกันอีกต่างหาก

อย่างไรก็ดีในความเป็นเด็ก ชั่วโมงบินน้อยวันนี้ลูกโดนตีเสมอจึงเป็น “ครู” ชั้นดีของเจ้าหนูแบร๊ดลีย์

การปรี่เข้าหาบอลทั้งตัวเวลาถูกคู่แข่งล็อกหลอกคุณกลับมาไม่ทันดังนั้นการเจอปัญหาหน้างานกับตัวเองในวันนี้ทำให้น้องได้เรียนรู้และต่อไปจะพัฒนาการเข้าบอลที่มีการยั้งขาไว้ 1 สเต็ปหรืออาจจะใช้วิธี “หลอกก่อนคู่แข่ง” วิ่งเข้าบล็อกบอล ฯลฯ

เหมือนที่ TAA เคยถูกแรชฟอร์ดหลอกหัวทิ่มเสียคนมาแล้วในช่วงวันละอ่อน ยิ่งลงเล่นยิ่งเจอทริคหลากหลายมากขึ้น ไม่เสียเปล่าแน่นอนครับ

อย่างที่บอกครับแฟนบอลเสียดายที่เกมรุกของ “หงส์” เล่นกันโคตรมันแต่ดันเปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ลูกเดียว

ถ้าไม่นับช่วงนาทีทองท้ายเกม…ฟูแล่มดูน่ากลัวและบุกมาสร้างปัญหาให้เคเลเฮอร์ต้องออกแรงเสียวยันท้องน้อยแค่ช่วงต้นๆเกมเท่านั้นแต่ที่เหลือโดยรวมเป็นลิเวอร์พูลที่กำหนดทิศทางการเล่นของเกมนี้อย่างชัดเจน

นอกจากลูกวางยาวของ 2 เซนเตอร์แล้วที่เด่นไม่แพ้กันคือแกะเพรสและการเล่นในพื้นที่แคบๆของแข้ง “หงส์แดง” ในวันนี้เอามากๆ

แกะจากแดนตัวเองพลิกตรงกลางซึ่งเป็นพื้นที่ๆฟูแล่มทิ้งรูเอาไว้เยอะมาก (จากการที่เพรสสูง) รวมถึงการประสานงานเคาะบอลในพื้นที่แคบๆริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง ดิอาซ, โกเมซ, กราฟ หรือโยกไปเอเลียตต์,กัคโป, แบร๊ดลีย์ ซึ่งมีแม็คอัลลิสเตอร์ตัวแบกแดนกลางปัดกวาดและคุมจังหวะบอล

อีกจุดที่ผมมองว่าฟูแล่มไปไม่เป็นคือการวิ่งไล่ทันทีที่เสียบอลของนักเตะ “หงส์” ดุดันไม่เกรงใจใครจริงๆ วิ่งซะจนไม่ดูไม่ออกว่าใครกันแน่พัก 10 กว่าวันหรือเพิ่งเตะมาเมื่อวันอาทิตย์

โจ โกเมซเป็นอีกคนที่ยังเล่นดีสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ทุกทีก็เด่นนะแต่วันนี้ไร้ที่ติจริงๆกับตำแหน่งแบ็คซ้าย การได้เห็นแอนดี้ โรเบิร์ตสันกลับมามีชื่อที่ม้านั่งสำรองทำให้ขุมกำลังของลิเวอร์พูลเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว

ในระหว่างที่หมุนเวียนตัวผู้เล่นและแก้ไขปัญหาเกมต่อเกมของลิเวอร์พูลแน่นอนครับไม่น่าจะเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้หากไม่ใช่ผู้นำที่ชื่อเยอร์เก้น คล็อปป์

ลิเวอร์พูล 2.0 ได้ลุ้นความสำเร็จไวเกินคาดแต่ความยากขั้นต่อไปคือคู่แข่งอย่างเชลซีกำลังเริ่มลงตัวแถมปอเชตติโน่มองหาโทรฟีย์แรกในอังกฤษเป็นจุดเปลี่ยนให้ตัวเองอยู่เช่นกัน…

สถิติ สถิติ สถิติ

ลิเวอร์พูลเข้าชิงลีกคักเป็นหนที่ 14 มากกว่าทีมอื่นๆถึง 4 ครั้งและทำได้เป็นหนที่ 3 ภายใต้การนำทัพของเยอร์เก้น คล็อปป์โดยมีเพียงบ็อบ เพลสลีย์เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า (4 ครั้ง)

ลิเวอร์พูล และ เชลซี เตรียมชิงบอลถ้วยในประเทศเป็นครั้งที่ 3 ใน 3 ฤดูกาลหลังสุดโดยก่อนหน้านี้เจอกันในเอฟเอ คัพและลีกคัพปี 2021-22 และทั้ง 2 เกมจบลงด้วยสกอร์ 0-0 และ “หงส์” เอาชนะจุดโทษได้ทั้งหมด

หลุยส์ ดิอาซยิงประตูที่ 7 ทุกรายการในฤดูกาลนี้ทำให้ซีซั่น 2023-24 แข้งโคลอมเบียมีสถิติทำประตูดีที่สุดนับตั้งแต่ย้ายซบลิเวอร์พูลเมื่อวันที่ 30 มกราคา 2022

นอกจากนี้ “ลูโช่” ยิงประตูนอกบ้านในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 5 ลูกซึ่งมากกว่า 2 ฤดูกาลหลังสุดรวมกันไปเรียบร้อย (4)

ลิเวอร์พูลยิง 13 ประตูในรายการลีกคัพฤดูกาลนี้โดย 4 ครั้งหลังสุดที่พวกเขายิงกระจายขนาดนี้ได้แชมป์ไปทุกครั้ง

16 ประตูในฤดูกาล 1994-95

20 ประตูในฤดูกาล 2000-01

13 ประตูในฤดูกาล 2002-03

14 ประตูในฤดูกาล 2011-12

“หงส์แดง” เขี่ยฟูแล่มร่วงลีกคัพ 6 เกมโดยในประวัติศาสตร์รายการนี้มีแค่วอลซอลล์ชนะชวูร์บิวรี่ 7 หนและลิเวอร์พูลชนะอาร์เซนอล 7 หนเท่านั้นที่มากกว่า

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด