คอนเต้ vs พ็อตเตอร์ ใครจะไปก่อนกัน?
วันอาทิตย์ไม่ใช่วันที่น่าจดจำนักสำหรับชาวลอนดอนเนอร์ทั้งแฟน สเปอร์ส และ เชลซี โดยที่ฝ่ายแรกแพ้คาบ้านในขณะที่ฝ่ายหลังไม่แพ้ก็เหมือนแพ้
แม้สถิติในบ้านของ “รองบ๊วย” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เพิ่งแพ้แค่ 3 จาก 8 นัดและเคยชนะทีมอย่าง ลิเวอร์พูล มาแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนตุลาคม “หงส์แดง” ปูพรมเป็นพายุและยิงนกตกปลากันไปเอง (โอกาส 15 ต่อ 10)
แต่ “สิงห์บลู” ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ
ครึ่งแรกทีมเยือนได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะดีดลูกม้าน้ำของ ไค ฮาแวร์ตส์ ย้อยชนคานและเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่เก็บตกซ้ำจ่อๆ
ประตูนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 16 แต่หลังจากนั้นกลิ่นเริ่มออกเพราะพวกเขาครองบอลครองเกมอย่างชัดเจนแต่มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพิ่มเพียงหนเดียวตลอดทั้งเกม
พูดให้เห็นภาพชัดมากไปกว่านั้นคือในครึ่งหลังซึ่งเป็นครึ่งของ “เจ้าป่า” ทีมของ แกรห์ม พ็อตเตอร์ ไม่ได้ง้างตีนยิงเลยแม้แต่หนเดียว
สถิติทุกอย่าง 0 หมด (แม้กระทั่งเตะมุม) ทั้งๆที่ได้ครองบอลมากถึง 72% ผิดปกติแล้วนะครับ!!
ฟอร์มและรูปแบบการเล่นของ เชลซี ในการมาเสมอที่ ซิตี้ กราว์นด์ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาอยู่ในช่วงเรียกศรัทธาจากแฟนบอลด้วย
ใช่ครับ “สิงห์บลู” อาการหนักโคตรๆเพิ่งชนะนัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุดในลีก เป็นตัวเลขที่ต้องร้อง “ห๊ะ” นึกว่าหูแว่ว
แฟน เชลซี เคยโล่งอกได้บอลโลกมาช่วยตีระฆังพักเบรกหลังสะบักสะบอมแพ้ 3 นัดติดก่อนประเดิม 3 แต้มเหนือ บอร์นมัธ ในวันบ็อกซิ่งเดย์
พอถึงศักราช “ใหม่” 2023 แต่อะไรยัง “เก่าเดิม” บอลไม่คืบหน้า ส่งคืนหลังวนๆกันไป
ยิ่งการไม่มีวิงแบ็คที่เคยเป็นช่องทางทำมาหากินเราเห็นกันชัดๆเลยว่า “สิงห์” หมดไอเดียในการเข้าทำจริงๆ
กลายเป็นว่าทรงบอลของ พ็อตเตอร์ หนักกว่า ทูเคิ่ล ไปแล้วครับ
อันดับตอนนี้รูดมาอยู่ที่ 8 ตามหลังแม้กระทั่งคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง ฟูแล่ม
แล้ว พ็อตเตอร์ รู้ตัวไหมว่าชีวิตมันแย่กว่านี้ได้อีกเพราะนัดต่อไปเจอ แมนฯซิตี้?
ถ้ายังไม่รีดฟอร์มเก่งหรือหาจุดเปลี่ยนให้ได้เร็วๆนี้ระวัง “เสี่ยท็อดด์” เขาจะจัดให้เองนะครับ
ในขณะที่ “ไก่เดือยทอง” 2 นัดหลังบอลโลกเก็บได้แต้มเดียวและหลุดจาก top 4 อย่างเป็นทางการแล้ว
บรรยากาศภายในทีมตอนนี้ดูไม่ดีเอาซะเลยเพราะ อันโตนิโอ คอนเต้ ออกมาให้สัมภาษณ์ประชดบอร์ด
เอาจริงๆเกมนี้ผมนั่งดูช่วงแรกๆน่าเบื่อมาก เล่นกันช้า ตัดเกมทำฟาว์ลกันบ่อย เกมหยุดรัวๆจนผมต้องเล่น poker ซักตาสองตา
ด้วยความสัตย์จริง แอสตัน วิลล่า ไม่มีอะไรเลย รับกันเยอะเวลาจะบุกขึ้นมาน้อยแป๊บๆเสียบอล
แต่ “คลับไก่” ห่วยไม่แพ้กันเพราะระบบบอลเป็นพวกนวยนาบเล่นช้าเป็นทุนเดิม พอมาเจอพวกบอลอุดบอกได้คำเดียวว่า “ใบ้แดก”
พื้นที่หน้าประตูแน่นๆพวก แฮร์รี่ เคน หรือ ซน เฮือง มิน ไม่ชอบเอาซะเลย คู่แข่งเขารู้ทันหมดว่าจะเล่นอย่างไร
โอกาสจะๆเท่าที่เห็นคือลูกที่ เคน โหม่งแล้ว แอชลีย์ ยังเคลียร์บนเส้นก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที
จริงๆถ้าเล่นพะอืดพะอมน่ารำคาญแบบนี้ไปเรื่อยๆเต็มที่ก็เสมอแต่ ฮูโก้ ญอริส ดันไปก่อเรื่องขึ้นมาซะงั้น
วิลล่าแทบไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ลูกยิงไกล 35 หลากว่าๆของ ดักลาส ลุยซ์ ที่มาจากการไม่รู้จะส่งให้ใคร
บอลตรงตัวไม่ได้รุนแรงอะไร อาจจะกระดอนลงพื้นก่อนแต่โกล์ระดับทีมชาติไปเล่นบอลโลก ลูกยิงมองเห็นมีเวลาจากระยะไกลกลับปล่อยให้ซองแตกกระฉอกโดนฉกเป็นลูก 1-0 ช็อกทั้งสนามซะงั้น
ก่อนหน้านี้นายทวารทีมชาติ ฝรั่งเศส วัย 36 ปีถูกตั้งคำถามมานานแล้วว่าฟอร์มไม่อยู่กับร่องกับรอย
ลูกเซฟประมาณบินปัด พุ่งปัดแกเทพจริงแต่ลูกง่ายๆตกม้าตายตลอดโดยเฉพาะจุดอ่อนพวกลูกตกพื้นเลียดๆออกอาการลนลานชัดเจน ประตูไม่นิ่งไม่เด็ดขาดกับลูกพวกนี้บอกเลยว่าทีมเจริญยากครับ
มีการเปิดตัวเลขว่า “ไก่เดือยทอง” เป็นทีมที่นักเตะทำพลาดแล้วเสียประตูมากที่สุดถึง 5 ลูกในซีซั่นนี้และเดาไม่ยากครับว่าเป็นของ ญอริส คนเดียวถึง 3!!
พอโดนลูกนี้ วิลล่า ที่เกมรับแน่นอยู่แล้วทีนี้ขึงขังเข้าหนัก ถ่วงเวลาเล่นช้าเข้าไปอีก
ที่น่าเกลียดไม่สมราคาคือลูก 2-0 ปล่อยให้ วิลล่า ยิงง่ายเกิ๊นนนนน
ลองดูไฮท์ไลท์กันครับ อีฟ บิสซูม่า เป็นตัวรับประสาอะไรปล่อยให้ตัว ลุยซ์ ทำชิ่ง 1-2 แล้ววิ่งผ่านเข้าเขตโทษไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ไม่ยอมวิ่งตาม แถมหยุดมองคนจ่ายเล่นอีกต่างหาก
เบน เดวิส ที่อยู่ไกลกว่ายังออกตัววิ่งมาช่วยแต่เหลี่ยมมันอยู่ด้านหลังยังไงก็ไม่ทัน ถ้า บิสซูม่า ตามตั้งแต่แรกตัดได้แน่นอน
ลูกนี้ เดวิส ถึงกับโวยวายบอกมรึงทำไมไม่ยอมตามตัวประกบ สมควรแพ้ด้วยประการทั้งปวงครับ
สงสารทั้ง เคน และ ซน ที่คนแรกกำลังจะเลข 3 ส่วนคนหลัง 3 ไปแล้ว อย่าว่าแต่แชมป์เลยเอาแค่ไปเล่น UCL ยังเหนื่อยถ้าสภาพทีมเป็นแบบนี้
ผมเช็กโปรแกรมทั้ง เชลซี และ สเปอร์ส ในเดือนนี้มีแต่หนักๆทั้งนั้น น่าติดตามสุดๆครับว่า คอนเต้ หรือ พ็อตเตอร์ ใครจะไปก่อนกัน…
สถิติ สถิติ สถิติ
หลังประเดิมการคุมทีมด้วยการชนะรวด 3 นัดภายใต้การทำทีมของ แกรห์ม พ็อตเตอร์ แต่จากนั้น เชลซี ชนะแค่ 1 จาก 7 เกมหลังสุด (เสมอ 3 แพ้ 3) และ 3 เกมเยือนยังไม่ชนะใครเลย (เสมอ 2 แพ้ 2)
“สิงห์บลู” ทำได้แค่ 25 แต้มจาก 16 เกมในลีกหลังสุดซีซั่นนี้ (ชนะ 7 เสมอ 4 แพ้ 5) นับเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในช่วงเวลานี้ของปีนับตั้งแต่ซีซั่น 2015-16 ที่ตอนนั้นจบด้วยอันดับ 10
แซร์จ ออริเยร์ และ วิลลี่ โบลีย์ เป็นนักเตะ ไอเวอรี่โคสต์ คู่ที่ 3 ที่ช่วยกันพาทีมได้ประตูโดยก่อนหน้านั้น ดิดิเยร์ ดร็อกบา/โซลามง กาลู และ ยาย่า ตูเร่/วิลเฟร็ด โบนี่ เคยทำไว้
“เจ้าป่า” รอดพ้นจากการพ่ายแพ้ในลีกหลังเสียประตูแรกให้คู่ต่อสู้ไปก่อนเป็นหนแรกในซีซั่นนี้ โดยก่อนเกมนี้พวกเขาแพ้ 7 เกมและโดนยิง 23 เม็ดต่อ 0
นับตั้งแต่ debut พรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนตุลาคม 2020 คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ รับใบเหลืองมากกว่านักเตะคนไหนๆในลีก (23 ใบ)
อูไน เอเมอรี่ ชนะในลีก 3 จาก 4 เกมหลังสุดในฐานะกุนซือ แอสตัน วิลล่า ในขณะที่เขากลายเป็นบอส “สิงห์ผงาด” คนแรกที่ชนะนัดเยือน 2 เกมแรกในลีกนับตั้งแต่ จอห์น เกรกรอรี่ เคยทำได้เมื่อเดือนมีนาคม 1998
สเปอร์ส เสียประตูอย่างน้อย 2 ลูกใน 7 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุด นับเป็นการเสีย 2+ ที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1988 (8 ลูก)
นักเตะ “คลับไก่” ทำผิดพลาดจนนำมาสู่การเสียประตูในซีซั่นนี้รวมกัน 5 ครั้ง มากกว่าทีมอื่นๆอยู่ 2 ครั้งและ ฮูโก้ ญอริส รับไปเต็มๆ 3 จาก 5 ลูกที่ว่านี้
ที่มา: soccersuck