คาดหงส์ชุดเดิมบู๊บอร์นมัธ, สิงห์ไร้ ‘เจมส์’ อีกแล้ว…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566
บอร์นมัธ – ลิเวอร์พูล (19:30 น.)
บอร์นมัธ จะต้องดูอาการของ เจฟแฟร์ซอน แลร์มา เพราะปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อที่ทำให้เขาพลาดเกมเจอกับ อาร์เซน่อล
พวกเขายังคงขาดนักเตะอย่าง มาร์คัส เทเวอร์เนียร์, จูเนียร์ สตานิสลาส และ ฮาเหม็ด ตราโอเร่
ทางด้าน เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล นั้นอาจเลือกใช้ไลน์อัพชัดเดียวกับที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด สัปดาห์ก่อน
หลุยส์ ดิอาซ, ธิอาโก้ อัลคันทาร่า, คัลวิน แรมซี่ย์ และ โจ โกเมซ ยังหายไปเพราะอาการบาดเจ็บ
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนเดียวที่ บอร์นมัธ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้จากการเจอกัน 18 หนในทุกรายการนั้นคือเกมเมื่อเดือนธันวาคม 2016
– ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตมาแล้ว 5 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
เอฟเวอร์ตัน – เบรนท์ฟอร์ด (22:00 น.)
เอฟเวอร์ตัน ได้ โดมินิก คัลเวิร์ท-เลวิน กลับมาลงซ้อมแบบเต็มสูบแล้ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเรียกความฟิตกลับมาจึงจะพลาดการลงสนามไปอีกครั้ง
วิตาลี มีโกเลนโก้ จะต้องเข้ารับการประเมินความพร้อมก่อน เพราะพลาดเกมเจอกับ ฟอเรสต์ ไปเนื่องจากอาการป่วย
เบรนท์ฟอร์ด นั้นจะไม่มี คีน ลูวิส-พอตเตอร์ ให้เลือกใช้งานเป็นเวลา 2 เดือนเพราะเจอกับอาการบาดเจ็บหัวเข่าจากตอนลงซ้อม
นอกนั้นพวกเขาขาดนักเตะอีกเพียงแค่คนเดียวนั่นคือ โธมัส สตราโคช่า ผู้รักษาประตูสำรอง
เบน ฟรีคิกฟันธง : เบรนท์ฟอร์ด ชนะ 2-1
ลีดส์ ยูไนเต็ด – ไบรจ์ตัน (22:00 น.)
ลีดส์ จะประเมินสองแข้งอย่าง โรดริโก้ กับ หลุยส์ ซินิสเตร์ร่า เสียก่อนจากที่กลับมาลงซ้อมกันแล้ว แต่ก็ไม่น่าจะได้ลงสนามยกเว้นจะฟิตเต็มถัง
แพทริค แบมฟอร์ด ก็จะต้องรับการตรวจเช็คเหมือนกันเนื่องจากปัญหาเจ็บขาทำให้เขาพลาดเกมที่พ่ายต่อ เชลซี
ไบรจ์ตัน นั้นต้องทดสอบความฟิตของ ทาริก แลมป์ตีย์ ที่เจอกับอาการเจ็บหัวเข่ารบกวนจนต้องโดนเปลี่ยนออกในเกมพบ เวสต์แฮม
ลีวาย โคลวิลล์ สลัดปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อไปได้และอาจกลับมามีชื่อช่วยทีมอีกครั้ง
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1
เลสเตอร์ ซิตี้ – เชลซี (22:00 น.)
เลสเตอร์ อาจจะได้ จอนนี่ อีแวนส์ กลับคืนสูทีมเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังหายจากปัญหาเจ็บน่องและต้นขาแล้ว
ฮาร์วี่ย์ บาร์นส ก็ฟื้นตัวจากอาการเจ็บหัวเข่าที่ทำให้เขาต้องโดนเปลี่ยนตัวในเกมเจอกับ เซาแธมป์ตัน สัปดาห์ก่อน
เชลซี จะไม่มี รีซ เจมส์ ให้ใช้งานอีกแล้วเพราะพบกับอาการป่วย ในขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอย็อง ต้องรอลุ้นว่าจะเล่นไหวหรือไม่
เกมสุดสัปดาห์นี้ยังไวไปสำหรับ เมสัน เมาท์ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่จะกลับมาช่วยทีม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนเดียวที่ เลสเตอร์ เปิดรังเหย้าเอาชนะ เชลซี ได้จากการเจอกัน 6 หนหลังสุดคือเกมเมื่อเดือนมกราคม 2021 (เสมอ 2 แพ้ 3)
– แม้ เชลซี จะผลงานดีขึ้นในช่วงหลังแต่ตอนนี้พวกเขาไร้ชัยในเกมเยือนมา 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ
เบน ฟรีคิกฟันธง : เชลซี ชนะ 2-1
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (22:00 น.)
สเปอร์ส ได้ เอริค ไดเออร์ กลับมาแล้วหลังติดโทษแบนในเกมยุโรป แต่พวกเขาต้องรอเช็คความพร้อมของ คริสเตียน โรเมโร่ เพราะมีอาการเจ็บจากเกมเจอ มิลาน
อิวาน เปริซิช กับ เอแมร์ซอน ก็ไม่แน่นอนว่าจะลงสนามได้ นอกนั้น อีฟส์ บิสซูม่า, อูโก้ ญอริส, ไรอัน เซสเซยง และ โรดริโก้ เบนทานคูร์ ต่างยังใช้เวลาพักรักษาตัว
ฟอเรสต์ จะจับตาดูอาการของ มุสซ่า เนียคาเต้ กับ ชีคฮู คูยาเต้ ที่ใกล้จะหายจากอาการเจ็บต้นขากลับมาแล้ว
ทั้งนี้พวกเขายังขาดนักเตะไปอย่างน้อย 6 คนเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ยังดีที่ไม่มีปัญหาใหม่เข้ามาเพิ่มเติม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– สเปอร์ส มีโอกาสกวาดชัยชนะเหนือ ฟอเรสต์ 4 เกมติดในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่ที่พวกเขาเคยทำเอาไว้ในปี 1963-1964
– ตอนนี้ สเปอร์ส ยิงประตูในครึ่งแรกไม่ได้มากถึง 20 นัดจากการลงสนาม 25 เกมหลังสุดในทุกรายการ
เบน ฟรีคิกฟันธง : สเปอร์ส ชนะ 3-0
คริสตัล พาเลซ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (00:30 น.)
พาเลซ จะไม่มี เชค ดูคูเร่ ให้ใช้งานเพราะติดโทษแบน 1 นัดจากใบแดงในเกมพบกับ วิลล่า เมื่อสัปดาห์ก่อน
วิล ฮิวจ์ส มีอาการป่วยในสัปดาห์นี้แต่กลับมาลงซ้อมในวันศุกร์แล้ว เลยจะต้องรอประเมินว่าลงสนามได้หรือไม่
สำหรับ แมนฯ ซิตี้ นั้น ฟิล โฟเดน พร้อมสำหรับการลงสนามแม้เกิดอาการเจ็บเท้ารบกวนอีกครั้งในเกมเจอ นิวคาสเซิ่ล
จอห์น สโตนส์ กับ อายเมอริค ลาปอร์ต ก็หายกลับมาจากอาการบาดเจ็บแล้วและมีชื่อเป็นสำรองไม่ได้ลงสนามในเกมนั้น
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– พาเลซ หาชัยชนะไม่เจอกับการเปิดรังเหย้าพบ แมนฯ ซิตี้ มา 7 นัดในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ชัยชนะในปี 2015 (เสมอ 2 แพ้ 5)
– แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นเก็บคลีนชีต 2 เกมติดเป็นหนแรกนับตั้งแต่ที่ทำได้ใน 2 เกมแรกของฤดูกาล
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-0
ที่มา: soccersuck