ฆาเบียร์ เตบาส : “ซูเปอร์ลีก” จะเป็นจุดจบของฟุตบอล ที่สร้างมานานนับ 100 ปี
#SSxLaLiga | ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก กลับมาเป็นประเด็นกันอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ใกล้จะพิจารณาคดีในสัปดาห์นี้ ซึ่งวงการลูกหนังสเปนได้มีจุดยืนที่ชัดเจน คือการต่อต้านรายการนี้อย่างถึงที่สุด และรักษาไว้ซึ่งความเท่าเทียมกัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลาลีกา ได้นำเสนอข้อมูลจาก Klynveld Peat Marwick Goerdeler หรือ KPMG เกี่ยวกับความเสียหายทางเศรษฐกิจ และผลกระทบต่อฟุตบอลสเปน ถ้ายูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก เกิดขึ้นจริง
รายงานของ KPMG บริษัทตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่ของโลก ประจำปี 2022 ระบุว่า ซูเปอร์ลีก จะทำให้ลาลีกาสูญเสียรายได้สูงถึง 55 เปอร์เซ็นต์ และสโมสรที่ไม่ได้เข้าร่วมซูเปอร์ลีก จะสูญเสียรายได้สูงถึง 64 เปอร์เซ็นต์
เงินรายได้จากลีกในประเทศ คิดเป็นมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่ารวมทั้งทวีปยุโรป เป็นพื้นฐานในระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมฟุตบอลยุโรป ลีกอาชีพ 40 แห่งทั่วยุโรป สร้างรายได้รวม 25.725 พันล้านยูโร รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีก 11 พันล้านยูโร
ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลาลีกา พูดถึงประเด็นยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก โดยชี้ว่าจะนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงานนับหลายหมื่นตำแหน่ง ทำให้รายได้จากการเก็บภาษีทั่วทั้งยุโรปลดลงเป็นอย่างมาก
“ซูเปอร์ลีก เป็นอันตรายอย่างมาก เราหวังว่ารูปแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะจะทำลายลีกในประเทศ และแฟนบอลของแต่ละลีก เราไม่สามารถปล่อยให้ฟุตบอลอยู่ในมือของสโมสรใหญ่เพียงไม่กี่ทีม” เตบาส กล่าว
“เรารับฟังในสิ่งที่พวกเขาพูด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา คือความมั่นคงของอุตสาหกรรมกีฬาฟุตบอล และหากเราต้องต่อสู้เพื่อปกป้องเสถียรภาพของการแข่งขันในยุโรป เราจะทำเช่นนั้น”
“เราไม่ต้องการถูกควบคุมโดยผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุด โมเดลของลาลีกา สเปน มีการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสโมสรฟุตบอล” ประธานลาลีกา กล่าวย้ำปิดท้าย
“ซูเปอร์ลีก” อาจจะใช้รูปแบบที่เคยเสนอไว้เมื่อ 3 ปีก่อน
ในปี 2019 ยูฟ่า และสมาคมสโมสรฟุตบอลยุโรป (ECA) ได้ปฏิเสธโปรเจ็กต์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีกที่สุดโต่งเกินไป โดยให้ข้อเสนอรูปแบบการแข่งขันเป็นแบบกึ่งปิด คือมีการเลื่อนชั้น และตกชั้นระหว่างการแข่งขันถ้วยยุโรป
ผู้ก่อตั้งซูเปอร์ลีก มีแนวโน้มว่าอาจจะใช้รูปแบบของยูฟ่า และ ECA ที่เสนอไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เปิดโอกาสให้กับทุกสโมสรได้มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมฟุตบอลยุโรป โดยดูจากการแข่งขันในประเทศเป็นสำคัญ เพื่อลดกระแสต่อต้าน
รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป เน้นหลักความสมดุล การปฏิรูปคือสิ่งที่ต้องทำ แต่ซูเปอร์ลีก ที่การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับสโมสรใหญ่เพียงไม่กี่สโมสร ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา
“ซูเปอร์ลีก” จะทำลายสมดุลการแข่งขัน และอุตสาหกรรมฟุตบอล
ลาลีกา วิเคราะห์ว่า ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก จะทำให้เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า มีรายได้เพิ่มขึ้นทีมละ 400 ล้านยูโร อีกทั้งรักษาผลประโยชน์ทางการตลาดได้อีกด้วย แต่อีก 18 ทีมที่เหลือในลีกสูงสุด จะสูญเสียรายได้ 55 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ซูเปอร์ลีกจะทำให้ลีกในประเทศถูกลดความสนใจสำหรับแฟนบอลในสเปน สิ่งนี้จะทำให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ได้รับประโยชน์มีเพียงนักเตะจาก 2 สโมสรใหญ่ ซึ่งมีจำนวนแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ของนักเตะทั้งลีก
และผลกระทบใหญ่สุดที่จะตามมา คือ การทำลายอุตสาหกรรมฟุตบอล ส่งผลเสียต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP), การจ้างงาน, ภาษี และการกระจายรายได้ของสโมสรฟุตบอลในยุโรป เนื่องจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจะมีมูลค่าลดลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ต้องย้ายโปรแกรมการแข่งขันลีกในประเทศมาอยู่ในช่วงกลางสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และยูเวนตุส 3 สโมสรผู้ร่วมก่อตั้งซูเปอร์ ลีก ได้ส่งเรื่องไปให้ศาลยุโรป เพื่อฟ้องร้องยูฟ่าว่า “ผูกขาดการแข่งขัน” ซึ่งผลของคำพิพากษาจะออกมาในวันที่ 15 ธันวาคมนี้
ผลการตัดสินคดีซูเปอร์ลีกที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ จะเป็นการบอกทิศทางของวงการฟุตบอลยุโรปว่า วัฒนธรรมลูกหนังที่สร้างกันมามากกว่า 100 ปี จะกลายเป็นเกมแห่งธุรกิจอย่างสิ้นเชิงหรือไม่
ที่มา: soccersuck