จับตา 5 ประเด็น บิ๊กแมตช์ลาลีกา เรอัล มาดริด – เรอัล โซเซียดัด
#SSxLaLiga | สถานการณ์การลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุในฤดูกาลนี้ บาร์เซโลน่า เป็นฝ่ายที่ถือความได้เปรียบ ส่วนคู่แข่งอย่างเรอัล มาดริด และเรอัล โซเซียดัด จะได้เผชิญหน้ากัน กับเกมที่ต้องตัดคะแนนกันเอง
ฟุตบอลลาลีกา สเปน สุดสัปดาห์นี้ เข้าสู่ครึ่งทางของฤดูกาล 2022/23 คู่ใหญ่สุดคือ เรอัล มาดริด เปิดบ้านรับมือเรอัล โซเซียดัด แข่งขันคืนวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้ง 2 ทีม กำลังจะทำศึกบิ๊กแมตช์หัวตาราง เพื่อหวังทำแต้มกดดันบาร์เซโลน่า ที่มีโปรแกรมลงสนามไปก่อนหน้านั้น 1 วัน ในการบุกไปเยือนกิโรน่า และนี่คือ 5 ประเด็นสำคัญที่น่าจับตามองของคู่นี้
การต่อสู้ของ 2 ทีม ที่จ่ายบอลเก่งสุดในลีก
คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์เรอัล มาดริด และอิมานอล อัลกูอาซิล เฮดโค้ชเรอัล โซเซียดัด ต่างมีสไตล์การทำทีมที่คล้ายกัน คือเน้นการครอบครองบอล และการผ่านบอลเท้าต่อเท้าอย่างแม่นยำ
และทั้งคู่ยังเป็นทีมที่มีสถิติการผ่านบอลสูงสุดของลาลีกา ในซีซั่นนี้ “โลส บลังโกส” มาเป็นอันดับที่ 1 ผ่านบอลไปแล้วทั้งหมด 9,854 ครั้ง และ “ลา เรอัล” ในอันดับที่ 2 ผ่านบอลทั้งหมด 8,352 ครั้ง
กูร์กตัวส์ vs เรมิโร่ เหนียวหนึบพอ ๆ กัน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทั้งเรอัล มาดริด และเรอัล โซเซียดัด ต่างเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำในฤดูกาลนี้ นั่นคือการป้องกันที่เหนียวแน่นของ 2 ผู้รักษาประตูประจำทีม อย่างติโบต์ กูร์กตัวส์ และอเล็กซ์ เรมิโร่
กูร์กตัวส์ นายทวารเรอัล มาดริด ลงสนาม 13 เกม เสีย 14 ประตู คลีนชีต 2 เกม เปอร์เซ็นต์การเซฟ 72% ส่วนเรมิโร่ จอมหนึบโซเซียดัด ลงสนาม 18 เกม เสีย 18 ประตู คลีนชีต 7 เกม เปอร์เซ็นต์การเซฟ 71%
“คุโบะ” พร้อมดวลกับทีมเก่า ที่เบอร์นาเบว
ทาเคฟุสะ คุโบะ ย้ายมาร่วมทีมเรอัล มาดริด เมื่อปี 2019 แต่ไม่เคยลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว และถูกปล่อยให้ 3 สโมสรลาลีกา ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนที่จะมาค้าแช้งกับเรอัล โซเซียดัด ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นวัย 22 ปี กลายเป็นนักเตะคนสำคัญในทีมของกุนซืออิมานอล อัลกูอาซิล หลังทำไปแล้ว 3 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ และเขาจะบุกไปเยือนทีมเก่า ที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ
“เบนเซม่า” ลุ้นแซง “ราอูล” ดาวยิงสูงสุดลาลีกา
คาริม เบนเซม่า กองหน้าวัย 35 ปี ทำ 1 ประตู ในเกมที่เรอัล มาดริด บุกไปชนะแอธเลติก บิลเบา 2 – 0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นประตูที่ 228 ในลีกสูงสุดของสเปน เทียบเท่ากับราอูล กอนซาเลซ ตำนานดาวเตะราชันชุดขาว
หากเบนเซม่า ทำประตูได้ในเกมสุดสัปดาห์นี้ จะทำให้เขาแซงราอูล ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ดาวซัลโวตลอดกาลของลาลีกา รองจากลิโอเนล เมสซี่ (474), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (311), เทลโม ซาร์ร่า (254) และอูโก้ ซานเชซ (234)
โซเซียดัด หวังเก็บชัยในลีกเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน
5 นัดหลังสุดในลาลีกา เรอัล โซเซียดัดเก็บได้ 15 คะแนนเต็ม ยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ศูนย์หน้าวัย 27 ปี ทำประตูได้ทุกนัดอีกด้วย และมีลุ้นเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ยิงประตูในลีก 6 นัดติดต่อกัน
หนล่าสุดที่โซเซียดัด บุกไปชนะที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2019 ด้วยสกอร์ 2 – 0 ส่วนในซีซั่นนี้ พวกเขาเก็บชัยชนะนอกบ้านได้มากกว่าในบ้าน ก็ถือว่ามีโอกาสดีที่จะคว้า 3 แต้ม ต่อเนื่องกันเป็นนัดที่ 6
ผลการแข่งขันของบาร์เซโลน่าในวันเสาร์ ย่อมสะเทือนถึงเรอัล มาดริด และเรอัล โซเซียดัด ที่จะดวลกันในวันรุ่งขึ้น น่าสนใจว่า บิ๊กแมตช์ที่สามารถออกได้ทุกหน้า จะส่งผลอย่างไร กับทิศทางการลุ้นแชมป์ในครึ่งซีซั่นหลัง
ที่มา: soccersuck