จีโรน่า vs บาร์เซโลน่า : คู่ปรับที่กำลังร้อนแรง ลุ้นแย่งชัยในดาร์บี้แมตช์
#SSxLaLiga | เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จีโรน่า สโมสรจากแคว้นคาตาลุญญ่า ได้สร้างปรากฎการณ์อันน่าทึ่ง ด้วยการจบในอันดับที่ 3 ของฟุตบอลลีกสูงสุดสเปน ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 94 ปี
พอเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ แม้ว่าจีโรน่าจะไม่ชนะใน 2 เกมแรก แต่การคว้าชัยใน 2 เกมหลังสุด ก็ทำให้พวกเขามีความมั่นใจไม่น้อย ก่อนจะพบกับศึกหนักอย่างบาร์เซโลน่า ที่ออกสตาร์ทซีซั่นด้วยการชนะทุกเกม
ฟุตบอลลาลีกา สเปน แมตช์ที่ 5 ของฤดูกาล 2024/25 จีโรน่า พบกับ บาร์เซโลน่า ทำศึกดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นคาตาลุญญ่า แข่งขันที่สนามเอสตาดี้ มอนตีลีบี้ ในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายนนี้ เวลา 21.15 น.
จีโรน่า เริ่มต้นซีซั่นใหม่ใน 2 เกมแรกได้ไม่ดีนัก เสมอเรอัล เบติส 1 – 1 และแพ้แอตเลติโก้ มาดริด 0 – 3 แต่ 2 เกมถัดมา ก็คืนฟอร์มเก่ง ชนะโอซาซูน่า 4 – 0 และชนะเซบีย่า 2 – 0 เก็บ 6 แต้มเต็มแบบคลีนชีต
บาร์เซโลน่า เป็นทีมเดียวในเวลานี้ที่เก็บชัยครบทุกเกม และยิงไปถึง 13 ประตู จากการเอาชนะบาเลนเซีย, แอธเลติก บิลเบา, ราโย บาเยกาโน่ ด้วยสกอร์ 2 – 1 ทั้งหมด และล่าสุดเพิ่งถล่มเรอัล บายาโดลิด 7 – 0
การพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จีโรน่า สามารถเอาชนะบาร์ซ่าด้วยสกอร์ 4 – 2 ทั้งเหย้าและเยือน เป็นการปลดล็อกคว้าชัยเหนือคู่แข่งร่วมแคว้นคาตาลุญญ่าได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของสเปน
การปะทะกันของ 2 เฮดโค้ชสายเกมรุก
ความน่าสนใจของเกมนี้ คือการวัดฝีมือกันระหว่างมิเกล ซานเชซ มูนญอซ กุนซือชาวสเปนของจีโรน่า กับฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ชาวเยอรมันของบาร์เซโลน่า ที่ต่างมีสไตล์การทำทีมเล่นเกมรุกที่ดีด้วยกันทั้งคู่
ช่วงซัมเมอร์ปีนี้ จีโรน่าเสียนักเตะตัวหลักไปหลายคน ทำให้การเริ่มต้นซีซั่นเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน นักเตะใหม่หลายคนที่ย้ายเข้ามา ก็เริ่มเข้าใจระบบของมิเกล มูนญอซมากขึ้น
ปรัชญาการเล่นเกมรุกของมิเกล มูนญอซ ที่ทำไว้กับจีโรน่า คือการเริ่มบิวต์อัพเกมจากแนวหลัง โดยอาศัยนักเตะที่ผ่านบอลได้ดีอย่างดาเล่ย์ บลินด์ ที่มีสถิติจ่ายบอลสำเร็จ 337 จาก 361 ครั้ง หรือคิดเป็น 93%
ส่วนในแดนกลาง จะคอยหาพื้นที่เพื่อให้ฟูลแบ็กทั้ง 2 ข้างเติมเกมรุกได้ นำโดยวิคเตอร์ ซีกานคอฟ มิดฟิลด์ตัวรุกชาวยูเครน ที่มี 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ รวมถึงนักเตะใหม่อย่างไบรอัน จิล และอาร์เนาท์ ดานจูม่า
จาก 4 เกมแรกของฤดูกาลนี้ “บลังกีเบร์เมลล์ส” ยิงเข้ากรอบทั้งหมด 15 ครั้ง ได้มา 7 ประตู ในจำนวนนี้เป็นของอาเบล รูอิซ คนเดียว 2 ประตู ซึ่งเขาถูกมองว่าจะเป็นตัวตายตัวแทนของอาร์เต็ม โดฟบีค ที่ย้ายออกไป
ทางด้านบาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของฟลิค ก็มีแนวคิดการเล่นเกมรุกที่คล้ายกับมิเกล มูนญอซ คือเซตเกมจากแนวหลัง, เน้นการเพรสซิ่งที่เข้มข้นสูง, การครองบอล และกล้าเล่นเกมบุกเอาชนะคู่แข่งแบบสวยงาม
ไอเดียการทำเกมรุกของฟลิค เริ่มจากคู่เซ็นเตอร์แบ็กที่มีสถิติผ่านบอลในอันดับต้นๆ อย่างเปา คูบาร์ซี่ ที่จ่ายบอลสำเร็จ 93% จากทั้งหมด 285 ครั้ง กับอินญิโก้ มาร์ติเนซ ที่จ่ายบอลสำเร็จ 91% จากทั้งหมด 338 ครั้ง
ขณะที่ในแนวรุก บาร์ซ่ายิงเข้ากรอบ 27 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 13 ประตู ในจำนวนนี้เป็นของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 4 ประตู ตามมาด้วยราฟินญ่า ที่เพิ่งระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการทำแฮตทริกในเกมกับเรอัล บายาโดลิด
หากจีโรน่าสามารถเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ นอกจากจะทำสถิติชนะทีมคู่ปรับร่วมแคว้นในลาลีกาติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 แล้ว ยังมีความหมายต่อการรักษาโมเมนตัมเพื่อเป้าหมายจบท็อปโฟร์เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วนบาร์เซโลน่า 3 แต้มที่ได้จากดาร์บี้แมตช์ครั้งนี้ ก็จะเป็นการสะสมต้นทุนเพื่อลุ้นทวงแชมป์ลาลีกาคืนจากเรอัล มาดริด จนถึงช่วงท้ายฤดูกาล แถมยังเป็นทีมเดียวที่รักษาสถิติคว้าชัยแบบ 100% ไว้ได้ต่อไป
ที่มา: soccersuck