ทำไม?? บอลโลกซื้อได้…บอลไทยไม่มีใครซื้อ
หลายคนตั้งคำถาม ทำไมฟุตบอลอาเซียนถึงไม่มีถ่ายทอดสด?
ทั้งที่ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา ค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 1,200 ล้านบาท ยังซื้อได้ แต่ฟุตบอลอาเซียนแค่ 76 ล้านบาท ทำไมไม่มีใครซื้อ?
เหตุผลที่ทำให้ดีลไม่เกิดขึ้น ข้อแรกคือ ต้องซื้อแบบฟูลแพ็คเกจ 26 นัดเท่านั้น ทำให้นักลงทุนมองว่า “ไม่คุ้ม” เพราะถ้าเป็นเกมอื่นที่ ไทย ไม่ได้ลงแข่ง ก็คงไม่สามารถขายโฆษณาได้
แต่เมื่อยื่นข้อเสนอขอซื้อแค่ 8 นัดที่ ไทย แข่งอย่างเดียว (ถ้าถึงนัดชิง) ก็ไม่ขายอีก
ลองคิดเล่น ๆ ค่าลิขสิทธิ์แบบที่ต้องเหมาจ่าย 76 ล้านบาท แต่ดูช้างศึกแค่ 8 นัด จะตกเฉลี่ยสูงถึงนัดละ 9.5 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับที่เอกสาร กกท. หลุด! ค่าลิขสิทธิ์ 4 นัดสุดท้ายฟุตบอลโลก รวม 22 ล้านบาท แบ่งเป็น รอบรองฯ 2 นัด นัดละ 4 ล้านบาท, ชิงอันดับสาม 6 ล้านบาท และชิงชนะเลิศ 8 ล้านบาท
เท่ากับว่า ค่าลิขสิทธิ์ บอลอาเซียน (ถ้าคิดเฉพาะ ทีมชาติไทย) แพงกว่า นัดชิงบอลโลก เสียอีก
ยิ่งถ้าเกิด ทีมชาติไทย ไปไม่ถึงนัดชิง ก็ยิ่งกว่าไม่คุ้ม
กอปรกับในสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาแบบนี้ ถ้าซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วต้องหาเงินค่าโฆษณาถึง 76 ล้านบาท เพื่อให้คุ้มทุน โอกาสเจ๊งจึงมีสูง
ข้อสองคือ ความนิยมทีมชาติไทยในช่วงหลัง ลดลงไปตามฟอร์มการเล่นในสนาม ไม่ได้ฟีเวอร์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจว่า ถ้าซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วจะเรียกเรตติ้งได้ดีแค่ไหน
ข้อสามคือ การที่โปรแกรม AFF ครั้งนี้ มาอยู่ใกล้กับฟุตบอลโลก ทำให้งบโฆษณาของสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ ลงไปกับฟุตบอลโลกเป็นจำนวนมากแล้ว ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่จะได้โฆษณามาคุ้มทุนจึงเป็นไปได้ยากมากขึ้น
จากเหตุผลทั้งหมด จึงทำให้การซื้อขายไม่เกิดขึ้น แม้จะมีข่าวว่า ยอมลดราคาลงมาเหลือ 1.95 ล้านดอลลาร์ หรือ 67 ล้านบาท แต่นักลงทุนก็ยังเงียบอยู่
ขณะที่ภาครัฐอย่าง กกท. จะไปขอ กสทช. ให้มาช่วยซื้ออีก ก็คงไม่กล้า และจริง ๆ ก็ไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์กีฬาอะไรอีกแล้ว เพราะควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด ถ้าหากการแข่งขันนั้นมีแนวโน้มว่าจะทำกำไรได้ เดี๋ยวก็มีภาคเอกชนมาแย่งกันซื้อเอง
หลายคนยังมีคำถาม แล้วทำไม? Warrix ได้ลิขสิทธิ์ที่เดียวในเมืองไทยในการใช้ภาพการแข่งขันถ่ายทอดสดแบบถูกต้องครั้งนี้ และจัดงานอีเวนท์ชวนแฟนบอลชมจอยักษ์ที่ Stadium One รวมถึง “มาดามแป้ง” นำไปถ่ายที่แพท สเตเดียม นั่นก็เป็นเพราะ Warrix อยู่ในฐานะผู้สนับสนุนลูกฟุตบอลรายการนี้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม Warrix จะไม่สามารถไปขายลิขสิทธิ์นี้ให้กับสื่อโทรทัศน์หรือออนไลน์ได้ เพราะได้รับอนุญาตแค่จัดงานอีเวนท์เท่านั้น
บทสรุปของเรื่องนี้ คนไทยจึงต้องหาดูบอลไทยตามช่องทางธรรมชาติ
เมื่อไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ แล้วมันเกี่ยวกับ สมาคมฟุตบอลฯ ตรงไหน?
คำตอบน่าจะอยู่ที่ มันสะท้อนให้เห็นว่า ฟุตบอลไทยคงจะเสื่อมความนิยมแล้วจริง ๆ
ที่มา: soccersuck