บาร์ซ่า vs แอตฯ มาดริด : บิ๊กแมตช์ชิงจ่าฝูง กับการลุ้นแชมป์ที่ดุเดือด

#SSxLaLiga | การพบกันระหว่าง 2 ทีมลูกหนังยักษ์ใหญ่ของสเปนที่มีปรัชญาการเล่นของตัวเอง แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือชัยชนะ ฝั่งหนึ่งคือทีมที่มีจุดขายเรื่องเกมรุก อีกฝั่งหนึ่งคือทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่น

ฟุตบอลลาลีกา สเปน ศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ บาร์เซโลน่า จะเบิดถิ่นเอสตาดี้ โอลิมปิก เด มอนจูอิก รับการมาเยือนของแอตเลติโก้ มาดริด ในคืนวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคมนี้ เริ่มคิกออฟเวลา 03.00 น.

สถานการณ์ล่าสุดก่อนที่ 2 ทีมนำของตารางจะเผชิญหน้ากันในแมตช์สำคัญ ทั้งคู่มี 38 แต้มเท่ากัน บาร์ซ่า มีผลต่างประตูได้-เสียดีกว่าอยู่ 10 ลูก ขณะที่แอตฯ มาดริด มีข้อได้เปรียบตรงที่ลงเตะน้อยกว่า 1 เกม

บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงของตาราง เริ่มต้นลาลีกา ซีซั่นนี้ ด้วยชัยชนะ 11 จาก 12 เกมแรก แต่ในระยะหลังฟอร์มแผ่วลงอย่างไม่น่าเชื่อ ชนะแค่ 1 จาก 6 เกมลีกหลังสุด โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว แพ้เลกาเนสคาบ้าน 0 – 1

แอตเลติโก้ มาดริด ทีมอันดับที่ 2 ของตาราง กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงสุดๆ ชนะ 7 จาก 8 เกมลีกหลังสุด และทำสถิติเก็บชัยมาแล้ว 11 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยแมตช์ล่าสุด เปิดบ้านเฉือนชนะเกตาเฟ่ 1 – 0

ศึกวัดความคมระหว่างคู่หูแนวรุกสุดอันตราย

เมื่อกีฬาฟุตบอลคือเรื่องของการทำประตู ในวันเสาร์นี้ คู่หูกองหน้าทั้ง 2 ทีมจะมาดวลความคม นั่นคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ราฟินญ่า ของบาร์เซโลน่า ปะทะ อองตวน กรีซมันน์ และ ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ ของแอตเลติโก้ มาดริด

เลวานดอฟสกี้ หัวหอกวัย 36 ปี ยังคงรักษาความเฉียบขาดในการจบสกอร์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง มักก้าวขึ้นมาทำประตูสำคัญในช่วงเวลาที่บาร์ซ่าต้องการ ยิงไปแล้ว 16 ประตู นำเป็นอันดับ 1 ในตารางดาวซัลโวลาลีกา

ราฟินญ่า ปีกสารพัดประโยชน์วัย 28 ปี ได้พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ขาดไม่ได้ของบาร์ซ่า ในยุคของกุนซือฮันซี่ ฟลิค ช่วยให้เกมรุกของทีมมีความหลากหลายมากขึ้น ทำไป 11 ประตู กับ 6 แอสซิสต์

กรีซมันน์ ดาวยิงวัย 33 ปี เป็นหัวใจสำคัญของแอตฯ มาดริด ในบทบาทของเพลย์เมกเกอร์ แผนการเล่น 4-4-2 ของกุนซือดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ทำให้เขาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิงไปแล้ว 7 ประตู ในลาลีกา ฤดูกาลนี้

อัลบาเรซ แข้งแนวรุกวัย 24 ปี ย้ายมาอยู่กับแอตฯ มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ เขาใช้เวลาปรับตัวอยู่พักหนึ่ง และตอนนี้ก็เริ่มแสดงศักยภาพในการเป็นแข้งระดับโลกให้เห็นบ้างแล้ว ทำไป 5 ประตู กับการเปิดตัวในซีซั่นแรก

นักเตะที่อาจเป็นตัวทีเด็ดพลิกเกม ฝั่งบาร์ซ่ามีดานี่ โอลโม ทำไปแล้ว 5 ประตู ช่วยลุ้นจบสกอร์แทนลามีน ยามาล ขณะที่ฝั่งแอตเลติโก้ มีอเล็กซานเดอร์ ชอร์ลอธ ที่ลงเล่นเป็นสำรอง 10 จาก 17 เกมลีก ทำได้ 7 ประตู

ตราหมีหวังหยุดสถิติไร้ชัย 18 ปีที่บ้านบาร์ซ่า

นับตั้งแต่ฟุตบอลลีกสูงสุดของสเปนก่อตั้งในปี 1929 สองยักษ์ใหญ่แห่งแดนกระทิงดุได้เผชิญหน้ากันมาแล้ว 174 ครั้ง บาร์เซโลน่ามีผลงานที่ดีกว่า ชนะ 80 ครั้ง แอตเลติโก้ มาดริด ชนะ 52 ครั้ง และเสมอกัน 42 ครั้ง

บาร์เซโลน่า ไม่แพ้แอตเลติโก้ มาดริด ยามลงเล่นลาลีกาในบ้านตัวเองมาแล้ว 18 เกมติดต่อกัน โดยชนะถึง 13 เกม และเสมอ 5 เกม ซึ่งหนล่าสุดที่ “ตราหมี” บุกมาคว้าชัย ต้องย้อนกลับไปในปี 2006 ด้วยสกอร์ 3 – 1

นอกจากนี้ นับตั้งแต่ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เข้ามาคุมแอตฯ มาดริด ไม่เคยพาทีมชนะเกมเยือนบาร์ซ่าเลย ตลอด 17 นัดในทุกรายการ (เสมอ 7 แพ้ 10) อีกทั้ง 5 เกมหลังสุดในลีกก็แพ้รวด แถมยิงประตูไม่ได้มา 4 เกมติดต่อกัน

สำหรับชัยชนะหนล่าสุดของ “เอล โชโล่” ต้องย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2021 เป็นเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ 2 – 0 ซึ่งในเวลานั้น โรนัลด์ คูมัน ยังเป็นเฮดโค้ชของบาร์เซโลน่า ก่อนถูกปลดจากตำแหน่งในอีก 1 เดือนต่อมา

เกมคู่ระหว่างบาร์เซโลน่า พบกับแอตเลติโก้ มาดริด มีสิทธิ์ออกได้ทั้ง 3 หน้า ผู้ชนะจะได้ขึ้นสู่อันดับที่ 1 แต่ถ้าเสมอกัน ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้เรอัล มาดริด แซงขึ้นเป็นจ่าฝูง ในกรณีที่เปิดบ้านชนะเซบีย่า

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด