บาร์เซโลน่า vs กิโรน่า : ดาร์บี้แมตช์แห่งคาตาลัน กับศึกชิงหัวตารางที่สุดเซอร์ไพรส์
#SSxLaLiga | ก่อนที่ฤดูกาล 2023/24 จะเริ่มขึ้น น้อยคนนักที่จะมองว่า กิโรน่า สโมสรเล็กๆ ในแคว้นคาตาลุญญ่า จะขึ้นมาอยู่บนหัวตารางเพื่อลุ้นโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือแม้กระทั่งลุ้นแชมป์ลาลีกา
แต่เมื่อผ่านไป 15 เกม ปรากฎว่า กิโรน่า ทีมฟุตบอลที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก และไม่เคยคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาก่อน จะอยู่ในอันดับที่เหนือกว่ายักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลน่า ชนิดที่เรียกว่าเซอร์ไพรส์
ไฮไลท์ของศึกลาลีกา สเปน นัดที่ 16 ของฤดูกาล เป็นเกมดาร์บี้แมตช์แห่งคาตาลุญญ่า บาร์เซโลน่า ดวลกับ กิโรน่า ที่สนามเอสตาดี้ โอลิมปิก เด มอนจูอิก ในคืนวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคมนี้ เวลา 03.00 น.
สถานการณ์ล่าสุด เจ้าบ้านมี 34 คะแนน ตามหลังผู้มาเยือนอยู่ 4 แต้ม จากการลงเตะ 15 เกมเท่ากัน แต่ทั้ง 2 ทีม อาจตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่เพิ่มขึ้น ถ้าเรอัล มาดริด ชิงเก็บชัยชนะได้ก่อนในวันเสาร์
ความน่าสนใจของเกมนี้ เป็นการวัดฝีมือกันระหว่างชาบี้ เอร์นานเดซ และมิเชล ซานเชซ มูนญอซ 2 กุนซือที่ต่างมีระบบการทำทีมเล่นเกมรุกที่ดีทั้งคู่ โดยปัจจัยสำคัญของเกมนี้ คือสถิติการผ่านบอลของนักเตะที่อยู่ในระดับต้นๆ ของลีก
ผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม ที่ผ่านบอลเฉลี่ยต่อเกมอยู่ในท็อป 10 คือ แฟรงกี้ เดอ ยอง (92 ครั้ง), อเล็กซ์ การ์เซีย (70 ครั้ง), ฌูลส์ กุนเด้ (69 ครั้ง), อันเดรียส คริสเตนเซ่น (68 ครั้ง), ดาเลย์ บลินด์ (63 ครั้ง), ดาบิด โลเปซ (60 ครั้ง) และอิลคาย กุนโดกัน (60 ครั้ง)
นักเตะที่เป็นคีย์แมนในแนวรุกของทั้ง 2 ทีม ฝั่งบาร์ซ่า มีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงในลาลีกา 7 ประตู ตามด้วยเฟร์ราน ตอร์เรส 3 ประตู รวมถึงชูเอา เฟลิกซ์ ที่เพิ่งยิงประตูชัยในเกมล่าสุดที่เฉือนชนะแอตเลติโก้ มาดริด 1 – 0
สำหรับ 28 ประตูที่บาร์ซ่ายิงได้ มาจากผู้เล่น 14 คน ในหลากหลายตำแหน่ง ช่วยกันทำประตู และมีผู้เล่น 12 คนที่ทำแอสซิสต์ได้ แสดงให้เห็นถึงทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยมในเกมรุก ไม่ได้พึ่งพาแต่นักเตะกองหน้าในการจบสกอร์
ทางด้านกิโรน่า นำโดย อาร์เต็ม โดฟบีค ที่ยิงในลีก 7 ประตู เท่ากับเลวานดอฟสกี้ ตามด้วยคริสเตียน สตูอานี่ (5 ประตู), ซาวิโอ (4 ประตู) รวมถึงอเล็กซ์ การ์เซีย, อิวาน มาร์ติน และวิคเตอร์ ซีกานคอฟ (คนละ 3 ประตู)
ในเวลานี้ กิโรน่ายิงประตูในลีกไปแล้ว 34 ลูก จากนักเตะ 11 คน และมีนักเตะที่ช่วยแอสซิสต์ 10 คน ในจำนวนนี้มีแข้งแนวรับอย่างดาบิด โลเปซ เซ็นเตอร์แบ็กที่ทำได้ 2 ประตู รวมถึงแยน คูโต้ แบ็กขวาที่จัดไป 4 แอสซิสต์
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างมีผู้เล่นที่ย้ายข้ามฟากจากทีมคู่ปรับ ได้แก่ โอริโอล โรเมอู ที่เคยอยู่กับกิโรน่าเมื่อซีซั่นที่แล้ว เช่นเดียวกับเอริก การ์เซีย และปาโบล ตอร์เร่ ที่จะได้ลงเล่นในฐานะนักเตะที่ยืมตัวมาจากบาร์ซ่า
บาร์ซ่า มีผลงานยามลงเล่นลาลีกาในบ้านที่ยอดเยี่ยม ชนะ 7 เกม กับกาดิซ, เรอัล เบติส, เซลต้า บีโก้, เซบีย่า, แอธเลติก บิลเบา, อลาเบส และแอตเลติโก้ มาดริด แพ้เพียงเกมเดียวให้กับเรอัล มาดริด 1 – 2 ในศึกเอล กลาซิโก้
ขณะเดียวกัน กิโรน่า ก็เป็นทีมที่ทำผลงานนัดเยือนได้สุดยอด หลังจากบุกไปเสมอเรอัล โซเซียดัด ในนัดเปิดซีซั่น ก็ยิงยาว เก็บชัยนอกบ้าน 6 เกมติด จากเซบีย่า, กรานาด้า, บียาร์เรอัล, กาดิซ, โอซาซุน่า และราโย บาเยกาโน่
สถิติเฮด-ทู-เฮด เฉพาะในลีกสูงสุด 6 ครั้ง บาร์ซ่าไม่แพ้เลย (ชนะ 4 เสมอ 2) แถม 3 นัดหลังสุดที่พบกัน เก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผลเสมอ 2 ครั้งของกิโรน่า เป็นเกมเยือนในปี 2018 (2 – 2) และ 2023 (0 – 0)
หากบาร์เซโลน่าเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ นอกจากจะยืดสถิติไร้พ่ายให้กับทีมคู่ปรับร่วมแคว้นเป็นนัดที่ 7 แล้ว ยังมีความหมายต่อการรักษาโมเมนตัมเพื่อแย่งแชมป์กับคู่แข่งสำคัญทั้งเรอัล มาดริด และแอตเลติโก้ มาดริด
ส่วนกิโรน่า นี่คือโอกาสสำคัญในการลุ้นเอาชนะทีมที่เต็มไปด้วยชื่อเสียง และเกียรติประวัติให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นบททดสอบว่า ม้ามืดทีมนี้มีดีพอที่จะหวังถึงรางวัลใหญ่ในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้
ที่มา: soccersuck