ประตูเชื่อมจิต “สิงห์” พลิกตัดเชือก

ประตูเชื่อมจิต “สิงห์” พลิกตัดเชือก

ศึก คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมระหว่าง เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ดราม่าสุดๆหลังพลาดกันไปทีมละหนแต่ของ เคียร์ราน ทริปเปียร์ เจ้าเก่ารุนแรงสั่นสะเทือนถึงขั้นร่วงตกรอบไม่มีโอกาสแก้ตัวใดๆ

จากที่ “สาลิกา” กำลังจะรอเสียงนกหวีดตบเท้าเข้าไปตัดเชือกแต่โดนตีเสมอ 90+2 ก่อนถูกจิกหัวลากมายิงจุดโทษ

และเป็น ทริปเปียร์ ที่ต้องบอกว่าสีหน้าสีตาเหมือนคนอมทุกข์ ไร้ความมั่นใจจนกระทั่งยิงหลุดกรอบช็อกแฟนบอลตัวเองกันไปถ้วนหน้า

อดีตแข้ง สเปอร์ส ยิงเป็นคนที่ 2 พลาดก่อนที่ ริตชี่ จะมาพลาดตามคนที่ 4 ร่วงตกรอบกันไปอย่างเจ็บแสบ

ครับเกมนี้พูดก็พูด “สิงห์บลู” พาตัวเองมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นเลยทั้งๆที่เป็นฝ่ายเข้าทำเปิดเกมบุก

ตรงกันข้าม “สาลิกา” ที่รู้ๆกันอยู่ว่าเกมเยือนซีซั่นนี้เข้าขั้น “ห่วยแตก” ในพรีเมียร์ลีกเพิ่งชนะ 1 จาก 8 เกม

ผลงานในบ้านเพียวๆชนะ 8 จาก 9 เกมช่วยทำให้ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ยังลืมตาอ้าปากอยู่ที่ 6 ในตาราง

ลูกยิงชนคานของ กัลลาเกอร์ อย่างสวยเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเจ้าถิ่นก่อนเกิดเหตุการณ์ “หมูหก”

เตะมุมอยู่ดีๆ บอลทะลักล้นก่อน โควิลล์ นักเตะที่น่ารำคาญในสายตาแฟน เชลซี วิ่งมาควักบอลจากริมเส้นแต่ดันแรงไปถูกสวนกลับ

นั่นคือพลาด 1…

พลาด 2 คือแนวรับขวางอยู่ตั้ง 3 ตัวแต่ปล่อยให้ วิลสัน กระชากแหวกเป็นกรวยถึงหน้าเขตโทษ

พลาด 3 บาเดียชิล ซึ่งวิ่งมาอย่างไวเป็นฮีโร่ตัวสุดท้ายตัดบอลได้แต่ตัดสินใจพลาดมหันต์ คือพยายามเลี้ยงหนีจากหน้าปากประตูตัวเองแต่หลักไม่ดีบอลพันแข้งพันขาตัวเองเป็นเหตุทำให้ วิลสัน ฉกไปยิงนิ่มๆ

Option เสริมในการเล่นจังหวะนี้มีตั้งแต่คืนให้ผู้รักษาประตูหรือเตะทิ้งตามสไตล์บอลโบราณแต่พลาดแล้วก็นั่นแหละครับเกมเปลี่ยนทันที

ถามว่า “สาลิกา” มาตั้งรับอยู่แล้วใช่ไหม ก็ใช่แต่ยังไม่ทิ้งเกมรุกซะทีเดียว

มาทิ้งอีกทีตอนขึ้นนำ ทีนี้แนวรุกลงมาช่วยยืนอุดอีกชั้น ยากสำหรับ เชลซี ที่รูปแบบการเข้าทำในเกมรุกยังไม่ถึงขั้น master อะไรขนาดนั้น

ยิ่งสไตล์ไม่ใช่บอลออกข้างหรือถึงเส้นหลังแล้วเปิดแต่เป็นลากจี้หาจังหวะหน้าเขตโทษยิ่งขนมหวานสำหรับ “สาลิกา” ที่ยืนเกะกะเรียงหน้ากระดานเต็มไปหมด

ทุกๆคนมักจะส่งให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และรอคอยความมหัศจรรย์ซึ่งแน่นอนจะไปฝ่าอะไรกับแผง “ม้าน้ำ” ตัวใหญ่ๆ

บอลเจาะยากถึงขนาดที่ว่า ราฮีม กับ กัลลาเกอร์ พลีชีพพุ่งล้มซื้อใจกรรมการก่อนรับใบเหลืองกันไป

เกมรุกดูสิ้นหวังแม้กระทั่งครึ่งหลังท้ายๆเกม โบรย่า ถ่างออกมาเอาบอลริมเส้นจนผู้บรรยายร้องเสียงหลงว่าอ้าวมาเอาบอลแบบนี้แล้วใครจะรอโหม่งในเขตโทษ

ลั่น!!

10 นาทีสุดท้ายผมเริ่มมานั่งเขียนงาน “ธีม” หัวข้อเป็นความเจ็บปวดของแฟน “สิงห์” ที่ต้องมาตกรอบพราะความผิดพลาดของทีมตัวเองแท้ๆ

จนกระทั่ง ทริปเปียร์ โผล่มาทุกอย่างก็พลิกผันและประเด็นคือแกถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในครึ่งหลังแทน เอมิล คราฟธ์

ถ้าแบ็คสวีดิชวัย 27 ปีไม่ได้เจ็บหรือ “หัวตก” นี่คือฝันร้ายของ ฮาว ที่ยอมซื้อความเก๋าของ ทริปเปียร์ ล้วนๆ

ตอนแรกผมนึกว่าแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษจะ fight back หลังเสียผู้เสียคนในเกมแพ้ เอฟเวอร์ตัน 3-0

แต่เปล่าเลย วันที่โดน สเปอร์ส ถล่ม 4-1 ก็บ่อน้ำมันและมาเกมนี้มอบประตูตีเสมอให้ เชลซี แบบไม่น่าเชื่อ

ทริปเปียร์ คิดอะไรไม่ทราบถึงโหม่งบอลในเขตโทษลักษณะแบบจะเอามาเล่นต่อทั้งๆที่ มูดรีค ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

มันง่ายกว่าเยอะ (และปลอดภัย) เพียงแค่ ทริปเปียร์ โหม่งเสยทิ้งให้ออกข้าง จังหวะเป็นใจด้วยครับตกพื้น

ผมมาดูภาพช้า คืออยากรู้จริงๆว่าพลาดอะไรตรงนั้น สรุปแบบความเห็นส่วนตัวผมคือ ทริปเปียร์ แกเหลือบไปมองแบบเร็วๆว่าด้านหลังมีใครไหม พอหันกลับมากะจังหวะบอลตกผิดเหมือนจะข้ามหัว

สัญชาตญาณของนักบอลเลยใช้หัวเล่นเพื่อจะตามมาเก็บต่อแต่หลักไม่ดีครับ มูดรีค วิ่งมาจากด้านหลังเร็วกว่า ทริปเปียร์ กลับตัวช้าอุ้ยอ้ายเกินไปที่จะหยุดลูกนี้

เพื่อนร่วมทีมเจอลูกนี้เข้าไปก้มหน้า, เข่าทรุดกันเป็นแถวโดยเฉพาะ แดน เบิร์น นี่แอคชั่นมือไม้ออกแบบเซ็งสุดๆ ต้องจับนั่งยาวๆแล้วล่ะครับ พลาดถี่และเตะตาขนาดนี้

ส่วนดวลเป้าก็ตามที่เห็นครับขนาด จามาล ลาสเซลล์ส เสี่ยงหัวก้อยชนะขอเลือกยิงจุดโทษต่อหน้าแฟนบอล “สาลิกา”

แต่ ณ เวลานั้น เชลซี ที่ลุกขึ้นมาจากโรงศพหัวใจหัวใจเต็มเปี่ยม ใครจะไปหยุดอยู่ละครับ ยิงแค่ 4 คนก็เหลือๆแล้ว

วันนี้่ผมชอบ กัลลาเกอร์ มากๆครับ ขยันสุดๆ ช่วยเกมรับและพยายามปั้นเกมรุกแบบไม่มียอมแพ้ แฟน “สิงห์” เปิดใจรักเด็กปั้นที่มาอยู่กับสโมสรตั้งแต่อายุ 8 ขวบกันเรียบร้อยแล้ว

รอยด่างของเกมนี้ที่ทำเอาผมเลือดลมขึ้นหน้าก็คือจังหวะ “เล่นคน” แบบบอลเดินสายบ้านเราของ กิมาไรส์ ทำให้ภาพลักษณ์ของ “สาลิกา” ดูแย่เข้าไปอีก

ถ้าอยู่เมืองไทยโดนยำตีนแน่ๆครับไล่เตะคนไม่เอาบอลแบบนี้ โดนแค่ใบเหลืองได้ไงไม่รู้

ครับทิ้งท้ายกันไปยังเหลือ ลิเวอร์พูล พบ เวสต์แฮม อีกคู่ในคืนวันพุธก่อนจับฉลากตัดเชือกที่ตอนนี้ ฟูแล่ม, มิดเดิลส์โบรช์ และ เชลซี เข้าไปรออยู่ก่อนแล้ว

ใครอยากเห็น dream final เริ่มลุ้นด่านแรกคืนนี้ตี 3 ที่แอนฟิลด์ครับ ได้ข่าวมาว่าคุณกิตติเดินทางกลับไทยแล้ว สบายใจได้พวกเรา…

สถิติ สถิติ สถิติ

ไม่มีครับ ฝรั่งไม่ยอมทำ

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: