ผีจะไปต่อ ต้องไม่ใช่ “ลามะ”
ในฐานะที่ปัจจุบันผมเล่นทั้งกองหลังและผู้รักษาประตู มันเป็นอื่นไปไม่ได้ที่ความผิดพลาดจนนำมาสู่การตกรอบและแพ้ขาด 3-0 ดาบิด เด เกอา คือคนที่รับไปเต็มๆ
กระแสด่า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จากแฟนบอลตามโลกโซเชี่ยลทั้งไทยและเทศอาจพูดได้แค่ว่าเป็นความเคยชินและหมั่นไส้ขี้หน้า ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่มองเห็นภาพรวมในสนามได้ชัดเจนที่สุด มีพิมพ์เขียวในการรับส่งบอลล่วงหน้าเนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการ build up
ดังนั้นในทีนี้ “ลามะ” ไม่ควรออกบอลให้เพื่อนร่วมทีมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นกองหลังที่เก่งที่สุดในโลกแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งหากเป็นตัวผมเองก็จะไม่มีวันส่งบอลให้กองหลังตัวสุดท้ายที่ถูกมองว่าล่กและอ่อนที่สุดในทีมโดยที่มองเห็นแบ็คกราว์นเป็นฝูงฝั่งตรงข้ามรอรุมฉกถึง 3 คนแบบนั้นแน่นอน
แม้กระทั่งเขาคนนั้นผายมือขอบอลอย่างมั่นใจ!!
ผมเชื่อว่าการ “ผายมือ” ขอบอลของ แม็คไกวร์ ทำให้ เด เกอา จากที่แว่บแรกอยากเตะสาดยาวขึ้นมาเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้าย
โดยคิดว่า “กัปปิตัน” น่าจะมองข้ามช็อตหรือมีอะไรดีถึงกล้าหาญชาญชัยเรียกบอลแบบนั้น
ครับการถูก เซบีญ่า ยิง 2 ลูกท้ายเกม น.84 และ 90+3 ไม่ทำให้เกิดบทเรียนใดๆกับ “ปีศาจแดง” เลยแม้แต่น้อย
การเสียประตูให้เจ้าถิ่นที่มองว่าพระเจ้าอยู่ข้างพวกเขาในเลกแรกตั้งแต่นาทีที่ 8 ด้วยความผิดพลาดแบบนักเรียนประถมทำให้คู่แข่งเขายิ่งไม่กลัวเข้าไปอีก
ที่หนักหนาสาหัสจนแทบจะกลับมาไม่ได้คือลูก 2-0 จากเตะมุมในนาทีที่ 2 ของครึ่งหลังที่เป็นบทสรุปชัดเจนว่า เซบีญ่า มีทั้งลูกเก่งและเฮงทั้ง 2 นัด
เกมแรกประตู 2-2 เป็นการโหม่งผิดเหลี่ยมไปชน แม็คไกวร์ เป็น OG. มาคราวนี้โหม่งไม่ดีบอลหล่นบนหัวไหล่วิถีบอลฝืนธรรมชาติแต่ดันเหลี่ยมเป๊ะเช็ดใต้คาน
ว่ากันว่าช็อตเตะมุมนี้ แม็คไกวร์ ไม่มีเอี่ยวแต่ยังถูกสื่อเอามาล้อเลียนกับคอนเทนท์ผลักพวกเดียวกันอย่าง ซาบิทเซอร์ หัวทิ่ม
วันนี้ เอริค เทน ฮาก เห็นเต็มตาชัดเจนที่สุดแล้วว่าเขาต้องตัดสินใจอย่างไรกับการเสริมทัพในซัมเมอร์นี้หากต้องการพา ยูไนเต็ด เดินไปในทิศทางที่อยากให้เป็น
ในรายของ แม็คไกวร์ ไม่น่าห่วงเพราะ ETH ส่งสัญญาณรอเซ้งมานานแล้ว การมีชื่อใน 11 ตัวจริงที่ เอสตาดิโอ รามอน ซานเชซ ปิฆวน มันเป็นภาวะจำยอมผลพวงมาจากการบาดเจ็บของ 2 เซนเตอร์ตัวจริงอย่าง วาราน และ มาร์ติเนซ
แต่คำถามที่น่าสนใจในรายของ เด เกอา คือ เทน ฮาก จะแอคชั่นอย่างไร แฟน “ผีแดง” ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าเขาคือคนที่ช่วยชีวิต แมนฯยูฯ มานับไม่ถ้วน เปลี่ยนจาก 0 หรือ 1 แต้มเป็น 3 แต้มมาไม่ใช่น้อยๆ
แต่สิ่งที่อดีตนายทวาร แอต.มาดริด ที่ย้ายมาตั้งแต่ปี 2011 คือใช้เท้าไม่เก่งซึ่งมันเป็นจุดสำคัญต่อการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ที่ต้องตั้งเกมจากปากประตูตัวเอง
หรือความรับผิดชอบในฐานะเป็น Sweeper Keeper ที่ไม่ใช่ต้องเฝ้าอยู่ในเขตโทษอย่างเดียวยิ่งต้องมีทักษะการใช้เท้าที่ดีกว่าผู้รักษาประตูในรูปแบบเก่าๆ
ดังตัวอย่างเช่นลูก 3-0 ตอกน้ำชัดเจนว่า “ลามะ” เป็น dark side ต่อปรัชญาฟุตบอลของ ETH
จนถึงตอนนี้หลายคนยังไม่แน่ใจว่าช็อตนี้ เด เกอา จะสกัดบอลหรือเอาลง แม้ดูภาพช้าเหมือนแกพยายามจะสกิดบอลให้ออกด้านข้างแต่ดันโดนไม่เต็ม
ในวัย 32 ปี อายุการใช้งานในตำแหน่งผู้รักษาประตูุถือว่ายังอีกเหลือเฟือแต่ค่าเหนื่อย 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์และกำลังหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ทำให้สโมสรยิ่งต้องคิดหนัก
พอล สโคลส์ ตำนานพูดน้อยต่อยหนักยอมรับว่า “เด” เทพในตำแหน่งประตูแต่ไม่เทพหากพูดถึงความเป็น “นักฟุตบอล”
ย้อนกลับไป เป๊ป กวาดิโอล่า เข้ารับงานที่ แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2016 และงานแรกของเขาคือดร็อป โจ ฮาร์ท แบบไม่ลังเล
เป๊ป ต้องการผู้รักษาในรูปแบบ Sweeper Keeper ซึ่งเป็นปรัชญาที่ชัดเจนและเขาก็ไม่เคยลังเลใดๆหากมีผู้เล่นคนไหนที่คิดว่าถ่วงวิธีการเล่นที่เขาต้องการ
และแน่นอน 1 ปีให้หลังจึงถือกำเนิด เอแดร์ซอน ที่ย้ายจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์
ครับแม้ เทน ฮาก กล่าวยกย่อง เด เกอา ในแง่ของความสามารถที่เก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
เป็นความสวยงามในเรื่องมารยาทและให้เกียรติคนที่รับใช้สโมสรมานานกว่าเขา
แต่ถ้า ETH อยากให้อนาคตเมืองแมนเป็น “สีแดง” ต้องเด็ดขาดไร้เยื่อใยแบบ เป๊ป เท่านั้นครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
เซบีญ่า (5) เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูโรป้า มากกว่าทีมอื่นๆและมีการเปิดสถิติอันน่าสะพรึงคือพวกเขาคว้าแชมป์รายการนี้ในทุกๆครั้งที่พวกเขาเข้าถึงรอบนี้ (2013-14, 2014-15, 2015-16, 2019-20)
6 ฤดูกาลติดต่อกันแล้วสำหรับ แมนฯยูฯ ที่ร่วงตกรอบฟุตบอลยุโรปรอบน็อกเอาท์ด้วยน้ำมือของทีมจาก สเปน โดย 3 ในนั้นมีนามว่า เซบีญ่า (2017-18, 2019-20, 2022-23)
“ปีศาจแดง” ไม่ชนะ เซบีญ่า เลยตลอดการเจอกัน 5 นัดหลังสุดในรายเมเจอร์ฟุตบอลยุโรป (เสมอ 2 แพ้ 3) นับเป็นทีมที่พวกเขาเจอแล้วไม่ชนะนานที่สุดในฟุตบอลยุโรป
ยูไนเต็ด ทำพลาดจนนำมาสู่การเสียประตู 2 หนในเกมพบ เซบีญ่า ซึ่งนับเป็นคำรบที่ 2 แล้วที่พวกเขาทำพลาดจนเสียประตูมากกว่า 1 หน (อีเกมคือพ่าย เบรนท์ฟอร์ด เมื่อเดือนสิงหาคม)
แมนฯยูฯ เสียสถิติถูกเขี่ยตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกหลังก่อนหน้านี้ 3 หนผ่านฉลุยทุกครั้ง
ที่มา: soccersuck
