ผู้ดีบ๊วย 2 วันติด นิวยังเก๋าไม่พอ
ตัวแทนจากอังกฤษร่วง UCL 2 วันติดกันแถมกิน “บ๊วย” เหมือนกันโดยแฟนๆ นิวคาสเซิ่ล ล้มทั้งยืนแทบไม่ทันได้ตั้งตัว
วันนี้ นิวคาสเซิ่ล ได้สัมผัสหลากหลายประสบการณ์ในช่วงเวลาห่างกันไม่กี่นาทีทั้งการได้เข้ารอบ, ได้ไปยูโรป้าและกินบ๊วย
ทั้งหมดเกิดขึ้นในเกมเดียวทั้งๆที่รูปเกมไม่ได้ล่อแหลมเป็นใจให้เกิดเรื่องแบบนี้เลย
“สาลิกา” อยู่ในตำแหน่ง “รองฝูง” หลังผ่านไป 58 นาทีจากสกอร์นำ 1-0 จนกระทั่งถูก เอซี มิลาน ตีเสมอจากเด็กเก่า เชลซี คริสเตียน พูลิซิซ ในอีก 1 นาทีต่อมา
ถึงแม้ เปแอสเช จะตามตีเสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1 ในนาที 56 แต่โจทย์ของ นิวคาสเซิ่ล คือชัยชนะและหวังว่ายอดทีมจากเมือง “น้ำหอม” จะหยุดอยู่ที่สกอร์นี้
นั่นหมายความว่าจะมี 8 แต้มเท่ากันแต่ head to head ของ “สาลิกา” ดีกว่า
ปัญหาเดิมๆของ นิวคาสเซิ่ล คือเกมบุกเวลาบุกก็มันได้ใจแต่จบเพิ่มไม่ได้นี่สิครับ เส้นบางๆตั๋วรอบน็อกเอาท์อยู่ระยะแค่เอื้อมแขนเท่านั้นเอง!!
บทจะเสียก็โดนเอาดื้อๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
แต่ขอบอกว่าทันทีที่ “ปีศาจแดงดำ” ตีเสมอได้เกมเปิดแลกกันโคตรมันครับ
นิวคาสเซิ่ล ดันรุกเต็มสูบขอแค่ลูกเดียวที่ต้องการพวกเขาไม่สนใจอะไรแล้ว
ดุถึงขนาดที่ว่าใครเลี้ยงผ่านเข้าระยะอันตรายโดนแข้งทีมเยือนรวบตัวแบบรักบี้แลกใบเหลืองทันที
ต้องยอมรับอย่างนึงด้วยว่าลูกทีม เอ็ดดี้ ฮาว ตะบี้ตะบันเตะรัวๆด้วยผู้เล่นแทบจะหน้าเดิมจนขาแทบระเบิดไปหมดแล้ว
บุกเพลินๆและซื้อเกมรับย่อมมีความเสี่ยงก่อนโดนสวนกลับก่อนหมดเวลา 6 นาทีจากคนยิง (ชุควูเอเซ่) และคนจ่าย (โอกาฟอร์) ซึ่งทั้ง 2 เป็นผู้เล่นสำรองที่แข้งขากำลังเฟรชชี่ได้ที่
นี่คือประตูฆ่าเหล่าพลพรรค “ม้าน้ำ” ที่ลิ้นห้อยหมดพลัง ไม่เหลือแรงสร้างปาฏิหาริย์ 2 ลูกในอีก 10 นาทีได้อีกแล้ว (รวมทดเจ็บอีก 4)
สรุปแล้ว มิลาน เหลือเชื่อจริงๆครับที่ยิงเข้ากรอบ 2 ลูกเป็นประตูทั้งหมด ไม่รวมลูกยิงชนเสาของ เลเอา กับ โทโมริ ที่นับเป็น off target
การตกรอบของ แมนฯยูฯ กับ นิวคาสเซิ่ล ผมว่าอารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง ของทีม ETH เชื่อว่าทุกคนยอมรับสภาพว่าไม่ดีพอจริงๆ
ส่วน “สาลิกา” เชื่อว่าต้องมี “เหวอ” กันแน่นอน คือแต่ละเกมไม่ได้เล่นแย่เลย เรื่องศักยภาพสู้กับ 3 ทีมร่วมกลุ่มได้มันทุกเกม การเอาชนะ เปแอสเช ถึง 4-1 ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน
แต่เห็นได้ชัดว่าการคัมแบ็ค UCL หนแรกในรอบกว่า 20 ปีนอกจากขุมกำลังหมุนเวียนแล้วประสบการณ์สำคัญเอามากๆครับ
ผลงานในพรีเมียร์ลีกที่เซนต์ เจมส์พาร์ค เก็บชัยชนะ 99% (ชนะ 7 แพ้ 1) แต่การแพ้คาบ้าน 2 จาก 3 นัดให้ทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ มิลาน หายไปกลับฟรีๆ
ผมยังเชื่อในเรื่องทุกๆความผิดหวังมักผลักดันให้เกิดแรงกระตุ้นแรงจูงใจครั้งใหม่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิวคาสเซิ่ล เคยสัมผัสกับเพลง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนขุนลุกขนพองมาแล้ว
ของอร่อยแบบนี้ครั้งเดียวจะไปพออะไร…
สถิติ สถิติ สถิติ
นิวคาสเซิ่ล และ แมนฯยูฯ ทั้งคู่จบด้วยอันดับสุดท้ายใน UCL รอบแบ่งกลุ่มทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นทุกฤดูกาลรวมกันมีตัวแทนจากอังกฤษตกรอบด้วยการกินบ๊วยเพียงแค่ 3 ทีมเท่านั้น (แบล็คเบิร์น 1995-96), แมนฯยูฯ (2005-06) และ แมนฯซิตี้ 2012-13
ลูอิส ไมลี่ย์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรอังกฤษที่แอสซิสต์ใน UCL (17 ปี 226 วัน) ทำลายสถิติของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เคยทำไว้กับ อาร์เซนอล เมื่อปี 2006 (17 ปี 250 วัน)
ที่มา: soccersuck