‘พัลเมอร์’ รับลาเรือซบสิงห์เพื่อโอกาสลงเล่น
โคล พัลเมอร์ เปิดเผยว่าตัดสินใจย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับ เชลซี ก็เพื่อตามหาโอกาสลงสนามที่มากขึ้น
เขาได้ลงสนามไป 41 เกมตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับ แมนฯ ซิตี้ อย่างไรก็ตามเขาได้เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกไปแค่ 3 หนเท่านั้น
พัลเมอร์ ประเมินอนาคตของตัวเองหลังยิงประตูสำคัญในเกมยูฟ่า ซูเปอร์ คัพเมื่อเดือนที่แล้ว และตัดสินใจว่าจำเป็นต้องย้ายออกจากทีมเพื่อโอกาสที่มากยิ่งขึ้น
เชลซี มาเร่งเครื่องเอาในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ ก่อนเซ็นสัญญาดาวเตะวัย 21 ปีไปด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์
“ที่ผมพูดไม่ได้หมายความว่าผมกลัวการแย่งตำแหน่ง (ที่ซิตี้) เพราะผมไม่เคยได้แย่งตำแหน่ง ผมป้วนเปี้ยนกับทีมชุดใหญ่มาหลายปีและอยากที่จะได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น, ในตำแหน่งของผมและเพื่อสร้างอิมแพ็คให้มากขึ้น” พัลเมอร์ บอก
“เป็นการตัดสินใจสำคัญเลยล่ะ ตอนที่ผมเดินทางออกจากสนามซ้อมในวันพฤหัสบดีผมรู้ว่าวันรุ่งขึ้นผมจะได้ไปลอนดอน ผมตระหนักถึงเรื่องทั้งหมดตอนนั่งในรถแล้วกำลังจะขับออกไป ผมคิดกับตัวเองว่า ‘เราก็อยู่ที่นี่มา 15 ปีแล้วนะ'”
“ผมไม่ทราบถึงความแตกต่าง ผมไม่เคยย้ายแบบยืมตัว ผมไม่เคยย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ผมเคยเดินทางออกจากแมนเชสเตอร์ก็แค่ตอนไปพักร้อนหรือเล่นเกมเยือน ย้ายมาก็รู้สึกแปลกๆนะ แต่ผมปล่อยให้เวลาเสียเปล่าไม่ได้ ผมต้องทำให้ได้”
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ลีวาย โคลวิลล์ และ โนนี่ มาดูเอเก้ ต่างโน้มน้าวให้ พัลเมอร์ เลือกย้ายไปเล่นในลอนดอนและเขาก็ประเดิมสนามด้วยการลงสำรองในเกมที่พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เขาได้รับบทบาทในตำแหน่งมิดฟิลด์และ ลี คาร์สลี่ย์ กุนซือทีมชาติอังกฤษรุ่นเล็กก็ตั้งใจจะให้เขาเล่นในตำแหน่งนั้นมากขึ้น
“ผมชอบเล่นในตำแหน่งนั้นนะ มันมีความรับผิดชอบเพิ่มยิ่งขึ้นและผมต้องขัดเกลาฝีเท้าในหลายๆด้านที่ต้องพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อที่จะได้ก้าวสู่ระดับถัดไป ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องค่าตัวเลย แค่อยากจะสนุกกับฟุตบอล”
“เชลซี อธิบายโปรเจ็คท์ให้ฟังและผมก็ชอบ ผมรู้สึกว่าผมสร้างอิมแพ็คได้ ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้แค่สองวัน ผมลงซ้อมวันศุกร์และวันเสาร์ก็ได้ลงสนามผมเลยยังไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ผมจะได้ทราบมากขึ้นว่าการอยู่ที่นี่รู้สึกยังไง”
“หวังว่าผมจะได้กลับไปหาคนในอคาเดมี่ของ ซิตี้ ในอีกไม่ช้านะ สตาฟฟ์ยังทำงานที่เดิมซึ่งอยู่กับผมมาตั้งแต่ผมอายุ 6 ขวบ การได้เจอพวกเขาเป็นเรื่องที่ดี แล้วพอเราได้พบกับ ซิตี้ ที่ เดอะ บริดจ์ รวมถึง ดิ เอติฮัด ผมก็จะได้บอกลาและกล่าวขอบคุณอย่างเหมาะสม”
ที่มา: soccersuck