“มืออาชีพ” ไม่มีสัญญาณลบ

“มืออาชีพ” ไม่มีสัญญาณลบ

ประเด็นที่หลายคนเป็นห่วงว่าผู้เล่นในทีมอาจ “ขวัญเสีย” กับการประกาศลาออกของเยอร์เก้น คล็อปป์ วันนี้เกมชนะ นอริช 5-2 เห็นแล้วก็สบายใจได้

ปฏิกริยาในสนาม, การเพรสซิ่ง, ความกระตือรือร้น,​ สมาธิ ฯลฯ ทุกอย่างที่เราเคยเห็นไม่มีจางหายไปไหน วันนี้องค์ประชุมครบถ้วน

ถึงแม้ยังไม่เจอของจริงและเป็นทีมระดับลีกรองแต่ผมยังเชื่อลึกๆว่าสิ่งที่เราได้เห็นจากผู้เล่นจะไม่หนีไปจากนี้ซักเท่าไหร่

พูดก็พูดคุณเลือกได้เหรอครับว่าเกมนี้เจอหมูกูจะใส่เต็มที่ลืมเรื่องบอส เกมหน้าแม่งเชลซีมาเยือนค่อยถอดใจเรื่องบอส มันก็ไม่ใช่

ถ้าผลงานเกิดแกว่งขึ้นมาจริงๆมันมาตามช่วงเวลาโคจรของมันเหมือนที่ทุกๆต้องเจอและแก้ไขจนกลับมาได้ (ซิตี้, สเปอร์ส)

โอเคเราในฐานะแฟนบอลย่อมห่วง “รีแอค” เป็นเรื่องปกติแต่บางครั้งบางทีผมว่าพวกเรา (รวมถึงผมด้วย) มักประเมินความเป็นมืออาชีพของนักกีฬาต่ำเกินไปมากจริงๆ

ตรงกันข้าม พอมานั่งคิดด้วยใจที่สงบนิ่งขึ้นกว่าช่วงแรกที่ทราบข่าว

ผมว่านี่แหละเป็นโอกาสดีที่นักเตะ+แฟนบอลจะรวมพลังกันเลี้ยงส่งบอสให้เป็นหนึ่งในความทรงจำที่ต่อไปจะขึ้นหิ้งถูกนำมากล่าวขานไปอีกนานหลายสิบปี

เผลอๆจะตั้งใจและมุ่งมั่นกวาดแชมป์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อ JK

เอฟเอ คัพรอบ 4 ถือว่ามาถูกเวลาในสถานการณ์อะไรแบบนี้จริงๆ ด้วยความที่นอริชไม่ใช่ทีมที่แกร่งอะไรนัก (อยู่อันดับ 9 ของลีกชปช.) นี่จึงเป็นโอกาสดีที่คล็อปป์จะโรเตชั่นส่งดาวรุ่งลงเล่นโดย 1 ในนั้นเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งป้ายแดงวัย 19 ปีมีนามว่าเจมส์ แม็คคอนเนลล์

ถึงแม้ผมจะเป็นเดอะค็อปแต่ก็ไม่ใช่คนที่รู้ลึกอะไรเกี่ยวกับ “หงส์แดง” มากเท่าคนอื่นและเพิ่งเห็นฟอร์มเจ้าหนูที่เกิดในเมืองนิวคาสครั้งแรกนี่แหละ

แต่ที่ผมหลงรักเจ้าหนูนี่ในทันทีทันใดคือน้องมีวิชั่นการจ่ายบอล ใครขยับออกตัวนิดหน่อยแกตักให้ทันที

เสน่ห์ของน้องที่จะสร้างความได้เปรียบในจังหวะคับขันคือ JM เล่นได้ 2 เท้าครับ ผมพยายามสังเกตคือน้องจับบอลและจ่ายด้วยเท้าซ้ายและขวาสลับกันไป

ได้เปรียบในที่ว่านี้ไม่ต้องดูที่ไหนไกลครับ ลูกที่เคอร์ติส โจนส์โหม่งขึ้นนำ 1-0 เปิดด้วยเท้าซ้าย ทิศทางบอลจะตัดเข้าใน ถ้าเป็นขวาจะล้นออกด้านนอก

และลูก 2-0 เปิดตัดหลังแนวรับด้วยเท้าขวาให้แบร๊ดลีย์วิ่งสอดไปปาดแต่กัคโปดันหมูหกโล่งๆ

ถึงแม้แม็คคอนเนลล์ไม่ใช่เด็กปั้นจ๋าของ “หงส์” เพราะไปแต๊บมาจากซันเดอร์แลนด์ยู-15 เมื่อฤดูกาล 2019 แต่ตลอด 4 ปีสโมสรปลุกปั้น

วันนี้ลงสนามพร้อมแปะป้ายยี่ห้อ “สตีวี่จี” ที่การเข้าแท็คเกิ้ลตามแบบฉบับสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดจริงๆ

สำหรับเจ้าหนูแบร๊ดลีย์ยิ่งเล่นยิ่งใช่ ถ้าพรี่กัคโปยิงเข้าไปป่านนี้น้องทำแอสซิสต์แฮทริคไปแล้ว ไม่ใช่แค่อะไหล่แล้วแต่ควรต้องได้ลงเล่นบ่อยๆ วินัยเกมรับไม่มีตก, เกมรุกไม่หมดไม่เลิก

แต่วันนี้สปอร์ตไลท์สาดเต็มครับ การวิ่งไปแย่งบอลก่อนแอสซิสต์ให้ดาร์วิน นูนเญซเอาใจพวกเราไปเลยครับ

ผมอยากให้ลองเอาเพลย์นี้เป็นกรณีศึกษาเปรียบเทียบการเล่นที่ไม่เข้าพวกของไรอัน กราเฟนแบร์คที่มักเล่น “คร่อมจังหวะ” กับเพื่อนอยู่ตลอด

การเลือกที่จะเลี้ยงต่ออีก 1-2 จังหวะ มากกว่าจะส่งให้เพื่อนทั้งๆที่มันควรต้องจ่ายทำให้มูฟเมนท์ของเพื่อนเสีย (ไม่ถลำก็คนละช่อง)

เราจะเห็นได้ว่าโจต้าอารมณ์เสียช่วงต้นครึ่งแรกที่อดีตแข้งอาแย็กซ์เห็นแต่ไม่ให้ คือถ้าแทงทะลุไลน์ล้ำหน้าแน่นอน

ทีวีรู้งานรีเพลย์จังหวะนี้ก่อนซูมหน้าไปที่นักเตะทั้งคู่ เป็นการทิ้งโอกาสดีๆด้วยวิชั่นที่ไม่กว้างพอ

ตรงกันข้ามลูก 2-0 โจต้าทำชิ่งทันทีที่แบร๊ดลีย์ส่งมาให้ทำให้น้องวิ่งมาเอาบอลได้เลย ตัวประกบตามยากด้วยครับเพราะวิ่งด้วยตัวเปล่า

ซึ่งตรงนี้ “กราฟ” ต้องเรียนรู้อีกเยอะ ถามว่าเปลี่ยนได้ไหม ผมว่าได้แต่อาจต้องใช้เวลา บางทีอาจจะฤดูกาลหน้าเลย

ถ้าจะเล่นกลางในระบบ 4-3-3 ต้องเลิกเลี้ยง ออกบอลต้องได้เปรียบ เพื่อนเล่นต่อได้ทันที ง่ายๆแบบนี้แหละ

ข่าวดีอื่นๆ TAA, โรเบิร์ตสันและโดมินิก โซบอสซ์ไล ตบเท้าคัมแบ็คทันเวลา 2 เกมสุดโหดกับเชลซีและอาร์เซนอล

ครับการได้เห็นฟอร์มของเหล่าลูกเจี๊ยบทั้งแม็คคอนเนลล์, แบร๊ดลีย์, ควอนซาห์และแข้งที่ยังเป็นเสาหลักไปอีกนานอย่างเทรนต์,โจนส,โซโบ,โกนาเต้,กัคโป,นูนเญซ ฯลฯ

ทรัพย์สมบัติ 2.0 ที่ JK กำลังจะทิ้งไว้ให้เราคืออนาคตทั้งนั้น

เห็นแบบนี้แล้วจะเศร้าอยู่ทำไม ยิ้มสิยิ้ม 🙂

สถิติ สถิติ สถิติ

ใน 5 ลีกหลักยุโรปในฤดูกาลนี้ทุกรายการ ดาร์วิน นูนเญซเป็นนักเตะคนแรกที่ทั้งยิง (ไม่รวมจุดโทษ) ทั้งจ่ายขึ้นตัวเลข 2 หลัก

เคอร์ติส โจนส์ยิงประตูที่ 5 ในฤดูกาลนี้โดยเป็นการยิงที่มากที่สุดในฤดูกาลเดียว (ทุกรายการ) หลังก่อนหน้านี้เคยทำไว้สูงสุด 4 ประตูในซัซั่น 2020-21

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด