ยุคสมัยเปลี่ยน! นักจิตวิทยาเผยสาเหตุที่มาน้ำตา ‘โด้’

ยุคสมัยเปลี่ยน! นักจิตวิทยาเผยสาเหตุที่มาน้ำตา ‘โด้’

พอล แม็คเวย์ อดีตแข้งที่ผันตัวมาเป็นนักจิตวิทยาทางกีฬาได้เผยถึงสาเหตุการหลั่งน้ำตาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเกมกับ สโลเวเนีย นั้นมาจากความกล้าที่จะแสดงแพสชั่นในระหว่างการแข่งขันที่เปลี่ยนไปในกีฬาฟุตบอลสมัยนี้

แง่มุมหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในศึก ยูโร หนนี้ของ โรนัลโด้ ภายหลังจากการออกสตาร์ททั้ง 4 เกมให้กับ โปรตุเกส คืออารมณ์ร่วมของเขาที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

ความปวดร้าว ความอิ่มเอมใจ และความหงุดหงิดถูกยอดแข้งรายนี้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่มีอารมณ์ไหนมากไปกว่าตอนที่เขาหลั่งน้ำตาในช่วงพักครึ่งช่วงต่อเวลาพิเศษในเกมวันอังคารที่ผ่านมา

บรรดานักวิจารณ์ต่างวิจารณ์ถึงพฤติกรรมของ โรนัลโด้ ว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอายกับการร้องไห้เป็นเด็กในเกมดังกล่าว แต่ แม็คเวห์ ซึ่งจบปริญญาโทจิตวิทยาการกีฬาได้ชี้ว่า สตาร์โปรตุเกสรายนี้ไม่เคยกลัวที่จะแสดงอารมณ์ของเขาออกมา ซึ่งต่างจากนักฟุตบอลชั้นยอดส่วนใหญ่

“ผมไม่แปลกใจเลยเพราะเราได้เห็นมันบ่อยครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมาว่าเขามีแพสชั่นกับกีฬานี้อย่างน่าเหลือเชื่อ คุณอาจพูดได้ว่ามันอาจจะมากกว่า แฮร์รี่ เคน ด้วยซ้ำ” อดีตทีมชาติไอร์แลนด์เหนืออธิบาย

“ชัดเจนว่า แฮร์รี่ เป็นแข้งชาวอังกฤษที่มีแพสชั่นอย่างไม่น่าเชื่อและเขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่ง แต่เขามักจะไม่ได้แสดงอารมณ์ของเขาออกมาในสนาม”

“โดยทั่วไปแล้วพวกเขาอาจไม่ได้มีใครเก่งกว่าใครมากนัก ในขณะที่ คริสเตียโน่ นั้นดูเป็นคนละขั้วกันโดยสิ้นเชิงเลยหากเทียบกับอีกฝ่าย”

“เขาสบายใจมากที่จะแสดงอารมณ์ออกมา ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดเกี่ยวกับสิ่งที่นักฟุตบอลเป็นอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในการพยายามจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ กล้าหาญ แข็งแกร่ง ผู้ชายที่ไม่แสดงอารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขาออกมา”

“คุณรู้ไหม ผมคิดว่าเขาสมควรได้รับเครดิตอย่างมากจากการทำให้เยาวชนหนุ่มสาวได้เห็นว่าคุณสามารถแสดงอารมณ์ของคุณในสนามและยังคงเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดได้”

แม็คเวห์ กล่าวต่อไปว่า “ผมคิดว่ากว่า 20 ปีแล้วที่คุณได้เห็นเขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา ผมจะบอกว่าคุณอาจเอาเรื่องนี้ไปเทียบกับนักฟุตบอลคนอื่นๆได้เท่านั้น แต่คุณไม่สามารถนำไปเทียบกับใครก็ตามได้”

“คุณทำได้แค่เปรียบเทียบกับนักฟุตบอลคนอื่นๆ เพราะตามธรรมเนียมแล้วพวกเขามักจะไม่ได้แสดงเรื่องแบบนี้ออกมา”

“ผมจะเสริมอีกว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแง่ของการที่หลายๆคนรู้สึกสบายใจเมื่อถูกมองในสนามฟุตบอล ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ผมเริ่มเล่น มีเรื่องหนึ่งที่คุณมักจะไม่เคยอยากคู่แข่งของคุณ, กองหลัง, หรือแม้แต่ทีมฝ่ายตรงข้ามรู้ คือการได้ให้เห็นว่าคุณได้รับบาดเจ็บ”

“มันเกือบจะเหมือนกับวิธีคิดของ รอย คีน อย่างใดอย่างนั้น มันเหมือนกับตอนคุณเข้าปะทะกัน 50-50 และถึงแม้ว่าเข่าของคุณจะเจ็บ แต่คุณคงไม่อยากแสดงให้เห็นว่าคุณได้รับบาดเจ็บ”

“แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามว่าทำไมเรื่องนี้มันถึงเปลี่ยนไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในตอนนี้นักเตะสามารถแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเจ็บหรือล้มลงได้ และบางครั้งก็แกล้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บด้วย”

“มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพราะภายในเสี้ยววินาทีพวกเขาสามารถลุกขึ้นแล้วทำอะไรบางอย่างได้ต่อ”

“เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ หรือผู้เล่นคนอื่นๆ ที่กำลังอารมณ์เสียอย่างเห็นได้ชัด หรือหงุดหงิด หรือโกรธ มันคือความจริงที่ว่า ภายในเสี้ยววินาทีที่พวกเขาได้บอล พวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างที่จุดตัดสินเกมได้ต่อในทันที”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: