ลาเธอได้สักที แฟนไก่ถกกางเกงรอแล้ว
พักเบรกทีมชาติที่กินเวลาราวๆ 2 สัปดาห์มักจะเป็นสุสานการเปลี่ยนโค้ชของหลายสโมสรดังที่เรามักเห็นกันมาตลอดทุกปี
ข่าวการปลด อันโตนิโอ คอนเต้ ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ปาเข้าไปเกือบเช้าของวันจัทร์และไม่เกินความคาดหมายใดๆเลย
แฟนบอลและสื่อนับถอยหลังมานานร่วมเดือนแล้วว่าเมื่อไหร่ “น้าคอน” กับ “คลับไก่” จะเลิกแล้วต่อกันซักที
เพราะจะว่าไปแล้วทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีแคแรคเตอร์ยอมหักไม่ยอมงอเป็นทุนเดิม
คอนเต้ ขวานผ่าซาก ไม่พอใจใครพูดออกมาตรงๆ เป็นพวกอารมณ์ร้อนในขณะที่ ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสรเราคงไม่ต้องสาธยายอะไรให้เสียเวลา การมองหากุนซือคนใหม่รายที่ 4 ในรอบ 2 ปีตอบคำถามความเป็นเขาได้ตรงที่สุดแล้ว
2 พฤศจิกายน 2021 วันที่ “ไก่เดือยทอง” แถลงตั้ง คอนเต้ เข้ารับตำแหน่งแทน นูโน่ เอสปริโต้ ซานโต้ มีหลายคนทำนายทายทักไว้ล่วงหน้าว่าระเบิดเวลารอทำงานเมื่อหมดช่วงเวลาฮันนีมูน
การแยกทางก่อนหมดสัญญา 3 เดือนหรือจบฤดูกาลนี้และยุติการทำงานที่ ท็อตแน่ม ไว้เพียงแค่ 16 เดือนน่าจะทำให้เขาได้รับเงินชดเชยราวๆ 4 ล้านปอนด์ (จากที่รับอยู่ 15 ล้านปอนด์ต่อปี)
ถ้าเทียบ คอนเต้ กับพนักงานออฟฟิศคือแกรู้ตัวว่าไปกันไม่รอดและอยู่เพื่อรอไล่ (เอาเงินชดเชย)
ดังจะเห็นได้จากการให้สัมภาษณ์หลายๆครั้งที่มันช่างจ้าซะเหลือเกิน คือไม่มีการไว้หน้า ไม่เห็นหัวลูกทีมหรือบอร์ดบริหาร
ล่าสุดวันที่เสมอ “บ๊วย” เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 น้าคอนด่าเด็กๆซะเสียหมาว่าใจไม่สู้ เล่นไร้ใจ ไม่เห็นสปิริตใดๆของทีมๆนี้
น้าแกเอือมสุดๆถึงขนาดบอกจนปากเปียกปากแฉะว่าอยากเห็นกานเล่นที่ทุ่มเท มีประกายไฟในดวงตาแต่ผลลัพท์ที่ได้คือ “เหมือนเดิม”
นัยนะสำคัญกับการปลด คอนเต้ ครั้งนี้คือนอกจากตัดเนื้อร้ายเพื่อรักษาเนื้อดีในห้องแต่งตัวแล้ว มันประจวบเหมาะกับการที่ บาเยิร์น มิวนิค เพิ่งไล่ ยูเลี่ยน นาเกลมันส์ ท่ามกลางความงุนงงของชาวโลก
ชัยชนะใน UCL แบบ 100% และตามหลัง “จ่าฝูง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แค่ 1 แต้ม ตีลังกาเหลี่ยมไหนการงานมั่นคงโคตรๆ
เป็นไทม์ไลน์ห่างกันแค่ 3 วัน ภาษาชาวบ้านคือ เลวี่ เก็บทรงไม่อยู่เมื่อโค้ชฝีมือดีอย่าง นาเกลมันส์ ว่างงานอยู่ตรงหน้า รอจบฤดูกาลโดนปาดแน่นอน
แพดดี้ พาวเวอร์ บ่อนถูกกฏหมายของ อังกฤษ ยกให้น้าแกเป็นเต็ง 1 ในราคาสุดโหด
จูเลียน นาเกลส์มันน์ 10/11
ไรอัน เมสัน 15/8
เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ 10/3
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ 11/1
แซร์จิโอ คอนไซเซา 11/1
โธมัส ทูเคิ่ล 11/1
หลุยส์ เอ็นริเก้ 16/1
โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ 20/1
ทีนี้ผมอยากตั้งข้อสังเกตว่า สเปอร์ส ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลงลืมคอนเซปความเป็นตัวเองไปเยอะมาก
สโมสรนี้มีกำเนิดจากการเล่นบอลเกมรุกมาทุกยุคทุกสมัย ภาพจำสุดท้ายในยุค แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ หรือ เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ เฉียดเข้าใกล้ความสำเร็จมากกว่า
แต่พอมาถึง โจเซ่ มูรินโญ่ , ซานโต้ หรือ คอนเต้ ล้วนแล้วแต่เล่นสไตล์ “ตีหัวเข้าบ้าน” จนเกิดวลีปราบทีมใหญ่ตายทีมเล็ก
ข้อดีของระบบรับรอสวนซึ่งประเดิมโดย “น้ามู” ที่เห็นๆเลยคือการดึงเอาศักยภาพของ แฮร์รี่ เคน และ ซน เฮือง มิน ออกมาแบบเต็มสตีมจนทั้งคู่กลายเป็นนักเตะระดับโลก
แต่ได้ไม่คุ้มเสียเอาซะเลยเพราะวิธีการเล่นพึ่งพานักเตะไม่กี่คนมันไม่ยั่งยืนในระยะยาว มันจะมีซักกี่ทีมที่เปิดเกมรุกให้ “ไก่” รอสวน?
Fact คือปัจจุบัน เคน กำลังจะอายุ 30 ในเดือนกรกฏาคมนี้ส่วน ซน ที่เกิดในเดือนเดียวกันจะแตะเลข 31
ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่าถ้า “ไก่” ต้องการถ่ายเลือดสร้างทีมให้กลับมาเร้าใจเหมือนในอดีต นาเกิลส์มันน์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้
ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่อายุแค่ 35 ปี ทัศนคติต่อรูปแบบการทำทีมเน้นไปที่เกมรุกและเน้นปั้นดาวรุ่งตั้งแต่สมัย ไลป์ซิก ซึ่งสไตล์อะไรแบบนี้แหวกแนวจากคนก่อนๆชัดเจน
แม้เบื้องลึกเบื้องหลังการถูก “พี่เสือ” ปลดยังคลุมเครือแต่มีประเด็นการงัดข้อกับบอร์ดเข้ามาร่วมด้วย
อย่างไรก็ตามสแตนดาร์ดของ บาเยิร์น เขาสูงมาก สูงซะจนผลงานที่ออกมาไม่สำคัญเท่าคำว่ารูปแบบการเล่นน่ากลัว “น้อยลง” กว่าเดิม
บอร์ดบริหารเขารับไม่ได้แต่กับ สเปอร์ส ระดับมาตรฐานในวันนี้ยังไม่ปรี๊ดขนาดนั้นแถม “น้ามัน” ยังออกแนวไม่โฉ่งฉ่างผ่านสื่อเหมือน “น้าคอน” ที่อยู่ที่ไหนก็ไปต่อลำบาก
วันสองวันก่อนผมแอบเห็นคอมเมนท์นึงในบอร์ด SS (แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว) แกเปรียบเทียบว่าแฟนบอล สเปอร์ส ณ เวลานี้ไม่เคยมีเมียเด็ก รอแล้วรออีก อยากมีเมียหุ่นแบบนี้ซักที
เรียกว่าตอนนี้ถกกางเกงรอแล้ว ตรงคอนเซปเว็บจริงๆฮะ….
ที่มา: soccersuck