สหรัฐต้องปิดจ็อบ 45 นาทีแรก ลุ้นโอกาสล้มยักษ์เนเธอร์แลนด์

#SSxKMD | เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022 รอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายประเดิมคู่แรกในเวลาสี่ทุ่มคืนวันเสาร์ เนเธอร์แลนด์ ที่หนึ่งกลุ่มเอ พบสหรัฐอเมริกา ที่สองกลุ่มบี ที่คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม ทีมชนะจะไปเจอกับอาร์เจนตินาหรือออสเตรเลียในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ทีมชาติสหรัฐที่เรียกตัวเองว่า USMNT เคยได้อันดับ 3 เมื่อปี 1930 ซึ่งฟุตบอลโลกจัดขึ้นครั้งแรก แต่ผลงานยุคหลังนับจากตกรอบคัดเลือกระหว่างปี 1954 ถึง 1986 พวกเขาไปไกลที่สุดคือรอบควอเตอร์ไฟนัลปี 2002 และแพ้รอบ 16 ทีมสุดท้าย 3 ครั้ง ส่วนที่รัสเซียไม่เข้ารอบสุดท้าย

USMINT มีโอกาสสูงที่จะจบเส้นทางแค่รอบสองเป็นครั้งที่สี่ แต่ถ้ามองฟอร์มแค่ 45 นาทีแรกของเกมรอบแบ่งกลุ่ม สหรัฐเป็นทีมหนึ่งที่มีผลงานโดดเด่นในทัวร์นาเมนท์นี้ เพราะจากสถิติสามนัดเฉพาะครึ่งแรก สหรัฐสร้างโอกาสมากเป็นอันดับ 5 (5.3), ค่า xG หรือความเป็นไปได้ที่จะเป็นสกอร์ อันดับ 10 (0.7) และประตูเฉลี่ย อันดับ 6 (0.7) ส่วนเกมรับ สหรัฐยังไม่เสียประตูเลย แถมปล่อยให้คู่ต่อสู้ยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียว

ทั้งนี้ต้องให้เครดิตการจัดผู้เล่นและวางหมากเกมของโค้ชเกร็กก์ เบอร์ฮอลเตอร์ รวมถึงขุมกำลังแดนกลางของระบบ 4-3-3 Attacking ซึ่งมี ไทเลอร์ อดัมส์ กัปตันทีมวัย 23 อยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยยูนุส มูซาห์ และเวสตัน แม็คเคนนี ทั้งสามสามารถทำเอาจูด เบลลิ่งแฮม และเมสัน เมาท์ คายพิษสงไม่ออกในเกมโนสกอร์

แต่ 45 นาทีที่สองเหมือนหนังคนละม้วน การสร้างโอกาสของ USMNT หล่นลงมาอยู่อันดับ 29 (2.3), xG อันดับ 30 (0.2) และยังทำประตูครึ่งหลังไม่ได้ ส่วนเกมรับไม่เลวร้ายลงนัก เสียเพียงประตูเดียวจากลูกจุดโทษให้กับแกเรธ เบล ในนาทีที่ 82 แต่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามยิงเข้ากรอบรวม 6 ครั้ง มากกว่าค่า xG ของตัวเองราวสามเท่า

อาจอ้างได้ว่าเป็นเพราะสถานการณ์ของทีม USMNT ต้องการรักษาสกอร์นำจากครึ่งแรกในเกมกับเวลส์และอิหร่าน ซึ่งตั้งแต่นาทีที่ 82 บวกอีก 10 นาทีทดเวลาเจ็บ เบอร์ฮอลเตอร์อัดดีเฟนซีพไลน์ถึงห้าคน ขณะที่มูซาห์และแม็คเคนนีก็ออกอาการอ่อนล้าอย่างชัดเจน

ไคลด์ โบนากูรา นักข่าวของ ESPN FC ให้ทรรศนะว่า ทั้งสองเป็นทีมที่สร้างโอกาสทำประตูไม่ดีนัก อย่างน้อยก็ไม่สม่ำเสมอ นักข่าววิจารณ์เนเธอร์แลนด์ว่าเป็นทีมที่เล่นน่าเบื่อ บางคนให้ฉายาว่า walking football แต่ข้อแตกต่างคือ หลุยส์ ฟาน กัล มีโคดี กั๊กโป นักเตะดัตช์คนที่ 4 ที่ทำประตูได้สามนัดติดต่อกันในประวัติศาสตร์เวิลด์คัพ แต่สหรัฐไม่มีหรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครแสดงศักยภาพได้เด่นชัดเหมือนกองหน้าจากพีเอสวี ซึ่งมีข่าวลือว่าจะย้ายไปเล่นให้แมนฯยูไนเต็ดในตลาดฤดูหนาว

อย่างน้อยในแง่ดี สหรัฐมีเกมรับที่ดีระดับหนึ่ง ยังไม่เสียประตูจากโอเพนเพลย์ ซึ่งแน่นอนพวกเขาต้องเฝ้าระวังกั๊กโปมากเป็นพิเศษ โบนากูราทำนายว่าโอกาสที่ดีในเกมรุกของสองทีมน่าเกิดจากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น และโอกาสของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นหากได้คริสเตียน พูลิซิช กลับมาเพราะเขาเป็นนักเตะประเภท turn nothing into something

หากแนวรุกเชลซีไม่พร้อมเล่น โบนากูราแนะนำว่าเบอร์ฮอลเตอร์น่าจะส่งจิโอวานนี เรย์นา (ถ้าไม่บาดเจ็บตามข่าว) ยืนตำแหน่งเบอร์ 9 แล้วย้ายจอช ซาร์เจนท์ ไปเป็นปีกซ้ายแทนพูลิซิช ส่วนอีกฝั่งยังคงเป็นทิโมธี เวอาห์ เรย์นาจะช่วยให้การทะลุทะลวงแนวรับดีขึ้นแต่คุณสมบัติเพรสซิ่งของเขาอาจไม่ใช่สิ่งที่กุนซือวัย 49 ต้องการ

บ็อบ ไลท์ฮาร์ท ซึ่งรับผิดชอบฟุตบอลแดนกังหันลมของ ESPN FC เห็นด้วยกับโบนากูราตรงที่ทั้งสองมีการป้องกันแข็งแกร่งแต่คำถามคือใครเป็นคนสร้างโอกาสทำประตู แต่เนเธอร์แลนด์มีตัวเลือกมากกว่าโดยเฉพาะมิดฟิลด์ที่ถูกเรียกใช้งานตามสไตล์คู่ต่อสู้ และอาจเป็นกุญแจไขประตูไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ อีกคำถามที่น่าสนใจ ฟาน กัล จะวางกั๊กโปในตำแหน่งหน้าต่ำหรือมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งจะส่งผลต่อผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ

จากรอบแรก กาตาร์เป็นบอลโลกของทีมรองบ่อนและมีผลออกเสมอหลายนัด ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินด้วยการดวลจุดโทษในรอบน็อคเอาท์ แม้ 21 ครั้งที่ผ่านมามักลงเอยด้วยมหาอำนาจลูกหนังชาติเดิมๆครองความชนะเลิศ แต่กับรอบน็อคเอาท์สองรอบแรกมักเกิดแมตช์ไม่คาดฝันอยู่เสมอ

เรียบเรียง: KMD Content Team

ภาพ: The Sun England

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด