‘สโคลส์’ มอง ‘บอสเจ๋ง’ ไม่โดนผีเด้งง่ายๆ

พอล สโคลส์ อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่คิดว่า รูเบน อโมริม จำเป็นต้องกังวลกับงานของเขาในตอนนี้ โดยเขาบอกว่ากุนซือชาวโปรตุเกสต้องการเวลาอีกสามหรือสี่ช่วงตลาดซื้อขายเพื่อให้ทีมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบ
อโมริม ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักในช่วงตลาดซื้อขายรอบแรกกับการคุมทีม “ปีศาจแดง” โดย แพทริก ดอร์กู คือนักเตะรายเดียวที่ได้รับการเสริมทัพเข้ามา
การเสริมทัพผู้เล่นของ ยูไนเต็ด ในช่วงตลาดซื้อขายล่าสุดได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงขนาดที่มีกระแสข่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะขายผู้เล่นทุกคนหากได้ราคาที่เหมาะสมในเดือนมกราคม
แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่นำนักเตะชุดที่ดีที่สุดเดินทางไปที่ ซาน เซบาสเตียน เพื่อลงเล่นเกมเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูโรปาลีก ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยที่ปัญหาอาการบาดเจ็บยังคงเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาคว้าผลเสมอกลับมาได้ โดย โจชัว เซิร์กซี ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมได้ก่อนที่ มิเกล โอยาร์ซาบัล จะยิงจุดโทษตีเสมอให้กับเจ้าถิ่น
สโคลส์ ที่ทำหน้าที่กูรูในเกมนี้ให้กับ
TNT Sports
เห็นใจ อโมริม ในช่วงต้นของการคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด
“ผมไม่คิดว่าเขาจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมากนักในตอนนี้” สโคลส์ กล่าว “ผมคิดว่าเขาโอเคอยู่นะ เขาจะได้รับเวลาอีกมากในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์ของสโมสรแห่งนี้ และยังไม่ได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นที่เขาต้องการจริงๆ”
“มีหลายจุดที่ต้องปรับปรุง และเขาต้องการเวลาอีกสามหรือสี่ช่วงตลาดนักเตะ มันจะต้องใช้เวลาอีกนานเพื่อให้สโมสรกลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็น”
ขณะที่ทาง คาเรน คาร์นีย์ พิธีกรร่วมดูจะไม่เห็นด้วย โดยชี้ไปที่ อโมริม ที่ไม่ยอมจะละทิ้งแผนการเล่นที่เขาต้องการเล่นกับผู้เล่นที่เขารับช่วงต่อมา
“ฉันคิดว่าเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันในกระบวนการตอนนี้นะ บางทีอาจเป็นเพราะความดื้อรั้นกับระบบที่เขาต้องการ” เธอกล่าว
“ฉันเข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่เป็นเช่นนั้น แต่เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักในฐานะผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
อย่างไรก็ตาม สโคลส์ ที่ได้เห็น ยูไนเต็ด เปลี่ยนผู้จัดการทีมหลายคนนับตั้งแต่ที่เขาเลิกเล่นฟุตบอล และมองว่าการต้องเริ่มต้นใหม่กับผู้จัดการทีมคนใหม่อีกครั้งนั้นไม่เกิดประโยชน์
“ผมคิดว่าพวกเขาต้องยึดมั่นกับเขาต่อไป ไม่งั้นพวกเขาจะไปที่ขั้นตอนอื่นได้อย่างไร?” ชายวัย 50 ปีกล่าวต่อ
“เขาเป็นผู้จัดการทีมหนุ่มที่เก่ง ตอบคำถามได้ดี และมีเรื่องต่างๆ มากมายเกิดขึ้นหลังฉากซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับทีมเลย เราต้องให้เวลาเขาและสนับสนุนเขาในการพาทีมก้าวไปข้างหน้า”
ที่มา: soccersuck