‘อักบอนลาฮอร์’ เผยชื่อแข้งดังเจ้าแห่งการตุกติก
กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ อดีตแข้งและกูรูฝีปากกล้าคนดังออกมาเผยถึงวิธีการเล่นตุกติกในกีฬาฟุตบอลพร้อมเผยถึงแข้งดังที่เขายกให้เป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดในกีฬาฟุตบอลที่เขาเผชิญหน้า
การเล่นนอกเกมนั้นดูจะเป็นอะไรที่อยู่คู่กับความสำเร็จในโลกของฟุตบอลมาโดยตลอด หลายๆทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก พวกเขามักจะมีนักเตะที่คอยทำงานสกปรกอยู่เบื้องหลังให้กับทีมอยยู่เสมอ
อย่างเช่น รอย คีน ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ปาทริค วิเอร่า ของ อาร์เซนอล เป็นสองนักเตะที่เป็นตัวอย่างเป็นผู้เชี่ยวชาญงานด้านนี้ หรืออย่างในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เฟอร์นานดินโญ่ และ โรดรี้ คือคนที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
อักบอนลาฮอร์ ได้ออกมาเผยถึงช่วงเวลาของเขาในการเจอกับนักเตะเหล่านี้รวมถึงวิธีการที่พวกเขาใช้ในการปั่นหัวคู่แข่งในสนาม
“บางครั้งในตอนที่มีเรื่องส่วนตัวของคุณปรากฎบนหน้าสื่อ พวกเขามักจะใช้เรื่องพวกนี้เล่นงานคุณ หรือไม่ก็พวกเขาอาจจะได้ยินมาจากเพื่อนๆของเขาและใช้เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ในสนามมันโหดร้ายมากๆเลยละ”
“หลายๆคนมักจะย่ำใส่เอ็นร้อยหวายจากทางด้านหลังด้วยสตั๊ดคู่โตของพวกเขา มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร แต่กรรมการจะไม่เห็นเรื่องพวกนี้ เช่นเดียวกับการเจาะยางฝ่ายตรงข้าม”
“หากในตอนนั้นมี VAR ใบแดงคงปลิวว่อนไปทั่วทั้งสนาม หลายๆคนอาจจะชักศอกใส่ในตอนที่พวกเขาขึ้นโหม่งและเหยียบเท้าคุณแบบไม่ปราณีซึ่งมันแย่มากๆ”
อักบอนลาฮอร์ ยังเผยถึงนักเตะที่เขาไม่ชอบมากที่สุดเวลาต้องเจอกันในสนาม
“ผมลงเล่นให้กับทีม U-21 เจอกับ สตีเฟ่น เทย์เลอร์ เขาหยิกผมอยู่ตลอดเวลา ทุกที่ในสนามเลย”
“เขาจะเข้ามาหยิกหลังคุณเวลาที่เขาเข้าประกอบคุณ เขาจะหยิกแถวๆซี่โครงบ้าง, ต้นคอบ้าง คุณจะรู้สึกแบบ “เห้ย หยุดซักทีสิ” แต่ในตอนนั้นพวกคุณจะไม่ได้เห็นจากกล้องถ่ายทอดสดหรอกแล้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่เคยถูกจับได้”
“เมื่อคุณเข้าไปประกบเขา หากคุณคิดจะเอาคืนคุณจะเป็นหนึ่งคนที่โดนไล่ออกจากสนาม”
อักบอนลาฮอร์ ได้เผยรายชื่อแข้งตัวท็อปหลายคนที่เป็นที่รู้จักในการเป็นจอมปั่นประสาทชั้นยอดในสนาม
เขา เล่าต่อ “โจอี้ บาร์ตั้น คือหนึ่งในนั้น เขานี่พูดมากสุดๆและโคตรคึกเลย เนมานย่า วิดิช บางครั้งก็พูดมากไปหน่อยแต่น้อยกว่าหลายๆคนเช่นเดียวกับ ร็อบบี้ ซาเวจ ที่ปั่นหลายๆคนจนน็อตหลุดมาแล้ว”
“อดัม ลัลลาน่า ก็เป็นอีกคนเช่นกัน ไม่ใช่กับผมหรอกแต่เป็นกับเพื่อนร่วมทีมของผม เรื่องพวกนี้มันเป็นศาสตร์มืดของกีฬาฟุตบอล มันคืออการทำอย่างไรก็ได้ที่จะปั่นหัวฝ่ายตรงข้าม ล่อให้พวกเขาเข้ามาฟาวล์คุณ แล้วก็ถูกไล่ออก ทุกอย่างล้วนอยู่ในเกมฟุตบอล”
ที่มา: soccersuck