เจอบอลวิ่งควาย ตาม 2 ลูกมีแต้มก็ “โอ” นะ

เจอบอลวิ่งควาย ตาม 2 ลูกมีแต้มก็ “โอ” นะ

แฟน แมนฯยูไนเต็ด อยากมองมุมไหนครับระหว่างตามหลัง 2-0 แต่ไม่แพ้คาบ้านหรือไม่ชนะกับทีมที่เล่นน้อกบ้านทั้งฤดูกาลชนะแค่เกมเดียวอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด

ในสายตาคนกลางอย่างผม ตอนที่ “ยูงทอง” นำ 2-0 มองเหลี่ยมไหนแทบไม่เห็นวี่แววกลับมาได้เลย

ดังนั้นการพลิกสถานการณ์กลับมาตีเสมอ 2-2 และเกือบแซงเฮในช่วงท้ายเกมเป็นอะไรที่สุดๆแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่ลืมด้วยว่าแดนกลางของ “ปีศาจแดง” โดนทีมเยือนข่มเละเทะจากการไร้ 2 world class “บู๊” และ “บุ๋น” ทั้ง คาเซมิโร่ และ เอริคเซ่น

การจับคู่กันของ เฟร็ด และ ซาบิทเซอร์ ต้องบอกว่าวันนี้ “พังยับ” เป็นการจับคู่ที่ เอริค เทนฮาก ไม่มีทางเลือก

ซาบิทเซอร์ ที่ย้ายมาสดๆร้อนๆและเพิ่งสัมผัสเกมไปแค่ 9-10 นาที ในฐานะตัวสำรองพบ คริสตัล พาเลซ ถือว่าเร็วไปมากกับการยืนตัวจริงในเกมหนักและไวอย่าง ลีดส์

ยิ่งมี เฟร็ด ที่ปกติแล้วจะองค์ลงก็ต่อเมื่อยืนคู่กับตัวเทพๆ วันนี้ในฐานะ “พี่เลี้ยง” จึงพาน้องรหัสลงเหวไปพร้อมๆกัน

สำหรับทีมเยือนจะบอกว่าเป็นบอลเปลี่ยนโค้ชก็พูดได้ไม่เต็มปากนักเพราะสต๊าฟโค้ชเดิมของ เจสซี่ มาร์ช บอสคนเก่าซึ่งประกอบไปด้วย

ไมเคิ่ล สคูบาล่า, คริส อาร์มาส และ ปาโก้ กัลญาร์โด้ รับหน้าที่สุมหัวร่วมด้วยช่วยกัน โดยคนแรกได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ

โดยแกยอมรับว่ามีเวลาเตรียมทีมในเกมนี้แค่ 20 นาทีเท่านั้น

ฟังแล้วดูเหมือนขิงๆชอบกลแต่แน่นอนครับ กลิ่นอายของ ลีดส์ ต่อให้ใครมาคุมผุ้เล่นชุดนี้ไม่มีทางสลัดคราบ “บิเอลซ่า บอล”

จุดขายบอล “วิ่งควาย” ยังคงไว้ตามเดิมแต่ที่เหมือนยันเงาคือเกมรับบทจะโดนก็มาแบบไปไม่ลามาไม่ไหว้

ผมเห็นการเล่นของ “ยูงทอง” ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแทนพลพรรค “ปีศาจแดง” เพราะแข้งทีมเยือนวิ่งเข้าหาบอลกันหนักหน่วงมาก

ไล่กวดไล่เพรสไม่เลือกตำแหน่งและเวล่ำเวลา จุกจิกกวนใจไปทุกจุดของสนาม ส่งผลทำให้เกมของ ยูไนเต็ด ออกบอลกันลำบากสเปะสปะ

ยิ่งแดนกลางไร้ประสิทธิภาพ ออกอาการหงอการเข้าบอลของแข้งทีมเยือนจนปล่อยให้พวกเซนเตอร์อย่าง วานราน และ มาร์ติเนซ ต้องคอยปั้นเกมแทน

สไตล์บอล “วิ่งควาย” ของ ลีดส์ ทำให้เจ้าถิ่นเสียประตูแรกตั้งแต่วินาทีที่ 56

หากใครได้ดูภาพช้าจะเห็นได้ว่าแข้ง ลีดส์ วิ่งหน้าตั้งทันทีที่เสียนกหวีดดังขึ้นและจังหวะก่อนได้ประตู บรูโน่ แฟร์นานเดซ เจอรุมซ้อนแย่งเสียบอลตรงกลาง เรียบร้อยทันที

ในขณะที่ลูก 2-0 เขี่ยครึ่งหลังมาได้ 3 นาที 40 วินาทีก็เสียแบบเดิมจากการถูกรุมตอมแย่ง คราวนี้เป็น การ์นาโช ที่เสียบอลและสุดท้ายโชคไม่เข้าข้างบอลที่ไม่เหลือมุมและแทบจะเป็นการเปิดยัดของ ซัมเมอร์วิลล์ แฉลบ วาราน เป็น OG.

เป็นการมอบ 2 ประตูในช่วงเวลาต้องห้าม โดนบอลกันไม่ครบคนเหงื่อยังไม่ซึมซึ่ง “ปีศาจแดง” จัดทั้งครึ่งแรกครึ่งหลังครบถ้วน

แต่หากมองในอีกมุมนึง “ยูงทอง” เองก็ไม่สามารถรักษา space ของเวลาได้เช่นกันหลังโดนรัวๆ 2 ประตูภายใน 8 นาที

คิดเล่นๆหากตั้งสติไม่โดนลูก 2 ออกไปอีกซัก 10 นาทีความห้าวของเจ้าถิ่นไม่น่าจะพุ่งเท่าเดิม การรับมือในเกมรับของทีมเยือนนิ่งย่อมนิ่งกว่าช่วงเวลาร้อนๆแน่นอน

และอย่างที่บอกครับ ยูไนเต็ด ไม่มีวี่แววจะกลับมาได้เลยในเมื่อแข้ง ลีดส์ ยังขยันวิ่งไล่ทุกตัวจนแทบไม่ได้เล่นในเกมของตัวเองเลย

จุดพลิกผันต้องให้เครดิต ETH ที่เปลี่ยน 2 ตัวอย่างรวดเร็วก่อนได้ประตูตีไข่แตกหลังจากนั้น 3 นาที

เปลลิสตรี แทน การ์นาโช่ ปีกขวาและส่ง เจดอน ซานโช่ มายืนปีกซ้ายก่อนดัน แรชฟอร์ด ไปยืนหน้าเป้า

การปรับตำแหน่งเอาดาวซัลโวสูงสุดอย่าง แรชฟอร์ด มาเล่นเป็นหน้าเป้าอันตรายกว่าไปอยู่ริมเส้น

เจ้าของสัมปทานอย่าง เวกฮอร์สต์ บอลแทบมาไม่ถึงตัวเลยในเกมนี้

เห็นได้ชัดว่าฝั่งทีมเยือนดูมีปัญหากับลูกเปิดทั้งซ้ายทั้งขวาและออกอาการลนลานอย่างชัดเจนจนกระทั่ง ซานโช่ สวมบท “ซูเปอร์ซับ” ในช่วงที่โมเมนตั้มของ ยูไนเต็ด กำลังขึ้นสูงสุดของวันนี้

แน่นอนครับเรื่องดีๆกับการพลาด 3 แต้มของเหล่าพลพรรค “ปีศาจแดง” คือการคัมแบ็คของ ซานโช่ ที่ลงเล่นในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม

รอยยิ้มที่มุมปากของ ETH ที่นิ่งเหมือนจะเก็บอาการหลังเห็นประตูนี้ของแข้งทีมชาติ อังกฤษ ราวกับภูมิใจที่แก้เกมเห็นผลติดจรวด

การเล่นร่วมกันของ ซานโช่ และ ลุค ชอว์ ฝั่งซ้ายมี “เคมี” ที่เข้ากันมากกว่า แรช ที่ชั่วโมงนี้หอกทีมชาติ อังกฤษ ยิงต่อเนื่องต้องไปยืนใกล้ปากประตูน่าจะเวิร์คที่สุดแล้ว

มองในอีกแง่มุมนึงทั้ง 2 ทีมต่างหละหลวมในเกมรับช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ยูไนเต็ด เสียไว้ทั้งต้นครึ่งแรกและหลัง ส่วน “ยูงทอง” ถูกตีไข่แตกและลูกเสมอเร็วเกินไป

ครับบอลกลางสัปดาห์ที่ดันเป็นโปรแกรมตกค้างอาจไม่ใช่เวลาที่น่าพิศมัยนักสำหรับคนวัยทำงานและเลี้ยงลูก

คนที่เห็นผลการแข่งขันและมีอารมณ์ค้างคาไม่ต้องเก็บไว้ในใจกันนานเพราะอีก 4 วันหรืออาทิตย์นี้เวลา 3 ทุ่มมีรีแมทช์ที่ เอลแลนด์โร้ด

เมื่อคุณพูดถึง ลีดส์ แดนกลางถือว่าเป็นหัวใจสำคัญสุดๆและเป็นด่าน “จุดตรวจ” ที่เปรียบเสมือนหางเสือในการรับมือกับบอลสไตล์ลักษณะนี้

การเจอคู่ปรับ 2 เกมติดถือว่า timing ไม่ดีเอาซะเลยถ้ามองแง่ที่ว่า คาเซมิโร่ ยังติดแบน/อริคเซ่น เจ็บยาวและ ซาบิทเซอร์ กับ เฟร็ด ไม่ตอบโจทย์เอาซะเลย

สาวก ยูไนเต็ด อาจต้องส่งแรงใจเป็นพิเศษเพราะเล่นในบ้านแฟน “ยูงทอง” ปลุกเร้านักเตะไล่หวดเดือดกว่านี้แน่นอนครับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

ประตูของ วิลฟรีด ญองโต้ ในวินาทีที่ 55 เป็นลูกยิงที่ไวที่สุดเป็นอันดับ 2 ในการพบกับ แมนฯยูฯ ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ดหลังก่อนหน้านั้น เอดิน เชโก้ เคยทำไว้กับ แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2014 (43 วินาที)

ลีดส์ ยิงขึ้นนำ แมนฯยูฯ ที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด “2 ลูก” เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 1974 ซึ่งวันนั้นบุกมาชนะ 2-0

มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นนักเตะ “ปีศาจแดง” คนแรกที่ยิง 6 ประตูติดต่อกันที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่ เวย์น รูนีย์ ทำเป็นคนสุดท้ายเมื่อปี 2012

ยูไนเต็ด มีค่าเฉลี่ยได้ 2.3 แต้มต่อเกมและเสีย 0.7 ประตูต่อเกมเมื่อ คาเซมิโร่ ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้โดยเมื่อเทียบกับการไม่มีเขาลงตัวจริงพวกเขาทำได้แค่ 1.4 แต้มต่อเกมและเสีย 2.1 ประตูต่อเกม

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด