เจาะ 5 ประเด็น “เรอัล มาดริด” คว้าแชมป์ลาลีกา 2023/24
#SSxLaLiga | ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นที่แล้ว บาร์เซโลน่า การันตีโทรฟี่ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ หลังจบเกมที่ 34 แต่อีกแค่ 12 เดือนต่อมา เรอัล มาดริด ของคาร์โล อันเชล็อตติ ก็ทวงแชมป์คืนในเกมที่ 34 เช่นกัน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟุตบอลลาลีกา สเปน 2023/24 ได้บทสรุปทีมชนะเลิศประจำฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้แก่ เรอัล มาดริด ที่ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 36 หลังจากเกมล่าสุดเปิดบ้านถล่มกาดิซ 3 – 0
“ราชันชุดขาว” การันตีตำแหน่งอันดับ 1 อย่างแน่นอน เมื่อเหลือการแข่งขันอีก 4 เกม และต่อไปนี้คือ 5 ประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ยักษ์ใหญ่จากเมืองหลวง ได้ฉลองโทรฟี่ลาลีกาเป็นครั้งที่ 3 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด
เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
ในฤดูกาลนี้ เรอัล มาดริด ประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก เช่น ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง อีกทั้งปราการหลังตัวเก่งอย่างดาบิด อลาบา และเอแดร์ มิลิเตา ล้วนพลาดการลงสนามไปนานหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เล่นตัวสำรองอย่างอังเดร ลูนิน นายทวารมือสอง รวมถึงแข้งเอาต์ฟิลด์ทั้งอันโตนิโอ รูดิเกอร์, นาโช่ เฟอร์นานเดซ และออเรเลียง ชูอาเมนี่ ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญที่พาราชันชุดขาว คว้าแชมป์ลาลีกามาครอง
แกร่งทั้งในบ้านและนอกบ้าน
เรอัล มาดริด เป็นเพียงทีมเดียวในฤดูกาลนี้ ที่ไม่แพ้ใครในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ชนะถึง 15 เกม โดย 2 ทีม ที่สามารถบุกมาเก็บผลเสมอกลับออกไปได้ นั่นคือ ราโย บาเยกาโน่ (0 – 0) และแอตเลติโก้ มาดริด (1 – 1)
ส่วนเกมนอกบ้าน 17 นัด จนถึงตอนนี้ ทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ เก็บได้ 40 แต้ม จากผลงานชนะ 12 เสมอ 4 ซึ่งเกมเดียวของซีซั่นนี้ที่ราชันชุดขาวปราชัย คือเกมที่ออกไปแพ้แอตฯ มาดริด 1 – 3 เมื่อเดือนกันยายน 2023
ไม่ยอมแพ้จนกว่าจะจบเกม
คุณสมบัติเฉพาะอย่างหนึ่งของแชมเปี้ยน คือความพยายามเพื่อยิงประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม ที่อาจเปลี่ยนผลการแข่งขันจากแพ้เป็นเสมอ หรือจากเสมอเป็นชนะ ซึ่งเรอัล มาดริด ทำให้เห็นอยู่หลายนัดในฤดูกาลนี้
ยกตัวอย่างเช่น เกมที่เปิดบ้านชนะเกตาเฟ่ 2 – 1 จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงประตูชัยนาทีที่ 90+5 หรือเกมที่เปิดบ้านชนะอัลเมเรีย 3 – 2 ทั้งที่ตามหลัง 0 – 2 ก่อนได้ประตูชัยในนาทีที่ 90+9 รวมถึงเกมกับบาร์เซโลน่า ทั้ง 2 เกม
ชนะบาร์ซ่า ทั้งเหย้า-เยือน
หากเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า มีคะแนนเท่ากัน ลาลีกาจะดูจากเกมที่ทั้ง 2 ทีมพบกันเอง หรือ “เฮด-ทู-เฮด” นั่นหมายความว่า ผลการแข่งขันในศึกเอล กลาซิโก้ อาจจะเป็นตัวตัดสินทีมที่คว้าแชมป์ในบางฤดูกาล
มาดริด บุกมาชนะ 2 – 1 ที่เอสตาดี้ โอลิมปิก เด มอนจูอิก และกลับไปที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ก็ย้ำชัยอีกครั้งด้วยสกอร์ 3 – 2 ซึ่ง 6 แต้มที่ได้จากบาร์ซ่า ทำให้ราชันชุดขาวกุมความได้เปรียบ จนคว้าแชมป์ก่อนจบซีซั่น
อิมแพกต์ของ ‘เบลลิงแฮม’
การจากไปของคาริม เบนเซม่า กองหน้าความหวังอันดับ 1 ของทีม อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนการทำประตู แต่เรอัล มาดริด ก็ได้ดึงตัวจู๊ด เบลลิงแฮม ยอดมิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ เข้ามาช่วยจบสกอร์ได้เป็นอย่างดี
ดาวเตะวัย 20 ปี สร้างปรากฎการณ์ที่น่าทึ่งกับราชันชุดขาว ด้วยการทำ 10 ประตู จาก 11 เกมแรกในลาลีกา และในเวลานี้ เจ้าตัวยิงไปแล้ว 18 ประตู กำลังต่อสู้เพื่อลุ้นรางวัล “ปิชิชี่” หรือผู้ทำประตูสูงสุดประจำฤดูกาลนี้
คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์วัย 64 ปี ใช้เวลาเพียง 1 ฤดูกาล ยกระดับเรอัล มาดริด ให้แข็งแกร่งกว่าเดิม และในซีซั่นหน้า ใกล้จะได้ตัวนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาเสริม ก็มีแนวโน้มที่พวกเขาจะครองบัลลังก์อย่างต่อเนื่อง
ที่มา: soccersuck