‘เซอร์จิม’ เผยเหตุเลือกไปต่อกับ ETH

‘เซอร์จิม’ เผยเหตุเลือกไปต่อกับ ETH

เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะไม่ปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง แม้ว่าสโมสรจะมีผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในยุค พรีเมียร์ลีก ก็ตาม

เศรษฐีวัย 71 ปีรายนี้ยังได้เปิดใจถึงเหตุผลที่เขารู้สึกว่าสโมสร “หลงทาง” ก่อนที่เขาจะมาถึง ในขณะที่เขายังคงเดินหน้าเปลี่ยนโฉมยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษต่อไป

ปีศาจแดงจบฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2023-24 ในอันดับที่แปด ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดของสโมสรนับตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90

ผลต่างประตูติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี ประกอบกับความพ่ายแพ้ในลีกถึง 14 นัด ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้มากที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90 ทำให้ฤดูกาลที่แล้วกลายเป็นฤดูกาลที่แฟนๆ ไม่อยากจดจำ

โชคดีที่ชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งร่วมเมืองในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ทำให้ ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า แต่หลายคนยังคงตั้งคำถามถึงความสามารถของ เทน ฮาก หลังจากผลงานอันย่ำแย่ในลีก

แม้ว่าแฟนๆ และบรรดากูรูจะเรียกร้องให้ปลดกุนซือชาวดัตช์รายนี้ แต่ แรตคลิฟฟ์ กลับเลือกที่จะไว้ใจ เทน ฮาก ต่อไปแทนที่จะรื้อทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่เป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาทีมไปในปี 2013

ในบทสัมภาษณ์กับ

The Times

แรตคลิฟฟ์ อธิบายเหตุผลที่เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ เทน ฮาก ไปจนถึงปี 2026

“เอริค เป็นคนที่ดีและพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่เขามีเรื่องต้องทำมากเกินไป” แรตคลิฟฟ์ กล่าว

“เขากำลังพยายามจัดการทีมและต้องจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆของสโมสรไปพร้อมๆ กัน”

แรตคลิฟฟ์ ยังยืนยันต่อว่าช่วงเวลาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาสโมสรนั้น “หลงทาง” อย่างเห็นได้ชัดในการบริหารงานและเขากำลังพยายามพาทีมกลับมาสู่ความเป็นเลิศดังที่เคยทำมาแล้วในอดีตอีกครั้ง

“ผมจะหมายความว่า ผลลัพธ์มันจะเป็นเครื่องชี้วัดให้เรามาเสมอ” แรทคลิฟฟ์ กล่าว

“ในช่วงสิบหรือสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา พวกเขาควรจะได้ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ทุกปี แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย”

“มันเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการพาสโมสรกลับไปสู่จุดที่ควรจะเป็น พวกเขาควรจะทำผลงานได้อย่างน้อยก็คือเป็นหนึ่งในแปดทีมที่ดีที่สุดของยุโรป”

“ตอนนี้ถ้าเราทำแบบนั้นไม่ได้ นั้นถือว่าเราไม่ประสบความสำเร็จ”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: