เติมไฟ! “โค้ชเตี้ย” เชื่อมั่นโปรไลเซนส์ช่วยยกระดับฟุตบอลไทย

สะสม พบประเสริฐ กุนซือมากประสบการณ์ เชื่อมั่น การได้อบรมหลักสูตร โปร ไลเซนส์ จะช่วยเติมเต็มความรู้ศาสตร์ลูกหนัง และทำให้เขามีไฟ ในการยกระดับและพัฒนาฟุตบอลไทย

“โค้ชเตี้ย” นับเป็นกุนซือที่มีประสบการณ์การคุมทีมในไทยมาแล้วมากมาย ทั้งกับเยาวชนทีมชาติไทย, บีอีซี เทโรศาสน, การท่าเรือ เอฟซี, บุรีรัมย์ เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ และ ชลบุรี เอฟซี โดยเขาเป็น 1 ใน 18 ผู้ฝึกสอนที่เข้าร่วมการอบรมหลักสูตร โปรไลเซนส์ ครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย

“อันดับแรก ความจริงคือตัวผมต้องการไลเซนส์ เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ที่จะทำลีกสูงสุดของไทย เพราะทางไทยลีก ประกาศแล้วว่าจะต้องใช้ โปร ไลเซนส์ ในการทำงาน ประเด็นนี้คือประเด็นหลัก”

“ประเด็นที่สองคือ ต้องยอมรับว่าผมเป็นซีเนียร์ ในรุ่น ก็ต้องการไฟ จากน้องๆ ในการทำงานต่อไป ถือเป็นจังหวะที่ดี ที่เราจะได้สร้างความสัมพันธ์ ระหว่างรุ่นเก่า รุ่นใหม่ เพื่อให้โค้ชไทยยกระดับและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

“ต้องยอมรับว่าการเรียนในเรื่องวิชาการ ก็น้อยไปสักนิดหนึ่ง ก็ต้องอาศัยน้องๆ ช่วย แต่เรื่องประสบการณ์ ของผมก็อาจจะแชร์หรือเป็นประโยชน์กับน้องๆ ได้ สิ่งสำคัญ ผมเชื่อว่าโปร ไลเซนส์ ในทุกรุ่น ทุกยุค ทุกสมัย จะมีองค์ความรู้ ที่ดีต่อการนำไปพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป”

“สำหรับวงการฟุตบอลบ้านเรา ผมว่า เราอาจจะออกสตาร์ทเรื่องการอบรมโค้ชช้าด้วยซ้ำไป แน่นอนว่าในหลายๆ ประเทศ ยิ่งคุณมีโค้ชโปรไลเซนส์ มากเท่าไหร่ เอ ไลเซนส์ เยอะเท่าไหร่ รวมถึงระดับอื่น อย่าง บี ไลเซนส์, ซี ไลเซนส์ หรือ จี ไลเซนส์ ผมว่าเป็นองค์ความรู้ที่คนทำฟุตบอล หลายคนบอกว่า วิชาโค้ช ครูพักลักจำได้ ไม่ผิดครับ แต่ว่าสุดท้ายความถูกต้องของทฤษฎีบางอย่าง เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ”

“จำนวนโค้ชโปร ไลเซนส์ ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะการกระจายคุณภาพของผู้ฝึกสอน โปรไลเซนส์ จะได้กระจายไปทั่วประเทศ ผมเชื่อว่า ในอนาคตไทยลีก อาจจะขยับมาตรฐานของผู้ฝึกสอน ใน ไทยลีก 2 ให้เป็นโปร ไลเซนส์ ก็เหมือนการเตรียมการ ใครคิดว่า โปร ไลเซนส์ ไม่สำคัญก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ว่า ตัวผมเอง อายุก็เยอะแล้ว ก็ให้ความสำคัญในการฟื้นฟูความรู้ตัวเอง เพราะอย่าลืมว่า ฟุตบอลทุกวันนี้เป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ไปเร็วมาก และมีวิชาการ ที่เทคโนโลยี ที่พัฒนาไปเยอะ”

“สำหรับคอร์สนี้น่าจะมีผู้ฝึกสอนผ่านการอบรม และมีคุณภาพทั้งหมดหลายคน บุคคลากรเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญของวงการฟุตบอล หลายคนมีโอกาสที่จะก้าวไปร่วมงานกับทีมชาติไทยได้ในอนาคต”

สำหรับ ประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ฝึกสอน ระดับ โปรไลเซนส์ จำนวน 39 คน โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดให้มีการอบรมโปร ไลเซนส์ ครั้งนี้ นับเป็น รุ่นที่ 3 โดยจะแบ่งช่วงเวลาการอบรมออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 – 12 มิถุนายน 2566, ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 5 – 24 สิงหาคม 2566, ช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 4 – 13 พฤศจิกายน 2566 และช่วงที่ 4 ระหว่างวันที่ 5 – 16 กุมภาพันธ์ 2567

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: