เทียบตัวต่อตัว บาร์ซ่า vs ชุดขาว ก่อนศึก “เอล กลาซิโก้”
#SSxLaLiga | การเผชิญหน้ากันระหว่างบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด คือศึกของ 2 ทีมใหญ่ที่ต่างคาดหวังถึงชัยชนะ ความพร้อมของนักเตะ รวมถึงมันสมองของกุนซือ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถตัดสินผู้ชนะได้เลย
ฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2023/24 ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไฮไลท์อยู่ที่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ระหว่าง บาร์เซโลน่า พบกับ เรอัล มาดริด ที่สนามเอสตาดี้ โอลิมปิก เด มอนจูอิก ในวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม เวลา 21.15 น.
ทั้งคู่จะพบกันเป็นครั้งที่ 187 ในลาลีกา และเป็นครั้งที่ 255 ในเกมอย่างเป็นทางการทั้งหมด โดยมีสถิติที่ใกล้เคียงกันมาก เรอัล มาดริด ชนะ 102 ครั้ง (77 ครั้งในลาลีกา) บาร์เซโลน่า ชนะ 100 ครั้ง (74 ครั้งในลาลีกา)
ก่อนที่ศึก “เอล กลาซิโก้” แมตช์แห่งศักดิ์ศรีที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังทางด้านประวัติศาสตร์จะเริ่มขึ้น ทางลาลีกาได้นำนักเตะที่น่าจับตามอง รวมถึงผู้จัดการทีมของทั้ง 2 สโมสร มาเปรียบเทียบกันแบบตัวต่อตัว
ชูเอา คันเซโล่ vs วินิซิอุส จูเนียร์
ศึกเอล กลาซิโก้ ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา โรนัลด์ อเราโฆ่ ดาวเตะชาวอุรุกวัยของบาร์เซโลน่า มักจะถูกโยกตำแหน่งการเล่นจากเซ็นเตอร์แบ็กไปเป็นแบ็กขวา ซึ่งต้องปะทะโดยตรงกับวินิซิอุส จูเนียร์ ที่เล่นเกมรุกฝั่งซ้าย
แต่การที่ชูเอา คันเซโล่ ฟูลแบ็กฝั่งขวาชาวโปรตุเกส ที่ยืมตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น ทำให้แข้งวัย 29 ปีรายนี้ กลายเป็นตัวเลือกแรกที่จะมีโอกาสดวลกับวินิซิอุส
คันเซโล่ และวินิซิอุส เคยพบกันมาแล้ว ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2021/22 ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับเรอัล มาดริด อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นคันเซโล่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นส่วนใหญ่
แม้ว่าวินิซิอุส จะพลาดการลงสนามในช่วง 2 – 3 เดือนแรกของซีซั่นเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีสถิติเลี้ยงบอลผ่านนักเตะคู่แข่งเฉลี่ย 1.9 ครั้งต่อเกม และพร้อมแล้วที่จะดวลกับคันเซโล่ ที่มีสถิติแย่งบอลจากนักเตะคู่แข่งเฉลี่ย 3.7 ครั้งต่อเกม น่าสนใจว่า คันเซโล่ จะสามารถหยุดความแพรวพราวของวินิซิอุสได้หรือไม่
ศึกครั้งสำคัญ ตัดสินกันที่แผงมิดฟิลด์
เริ่มจากกองกลางของบาร์เซโลน่า คือหนึ่งในทีมที่เน้นการครองบอล เพราะมีสถิติครองบอลโดยเฉลี่ย 69.3 เปอร์เซ็นต์ต่อเกม มากที่สุดในลาลีกา ฤดูกาลนี้ ทิ้งห่างอันดับที่ 2 อย่างลาส พัลมาส ราว 10 เปอร์เซนต์
สำหรับมิดฟิลด์บาร์ซ่าที่คาดว่าจะลงสนาม กาบี้ จะได้เป็นตัวหลัก แต่ต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บของเปดรี้ และแฟรงกี้ เดอ ยอง หากหายเจ็บไม่ทันเวลา อาจต้องใช้อิลคาย กุนโดกัน กับโอริโอล โรเมอู ลงสนามแทน
ทางฝั่งมิดฟิลด์ของเรอัล มาดริด เต็มไปด้วยนักเตะวัยหนุ่มพรสวรรค์สูงหลายคน นำโดย จู๊ด เบลลิงแฮม แข้งดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ วัย 20 ปี ที่ฟอร์มการเล่นกำลังร้อนแรงสุดๆ ซัดไปแล้ว 8 ประตูเฉพาะลาลีกา
ยังมีแข้งอายุน้อยคนอื่นๆ เช่น ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ รวมถึงเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ที่ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่บ่อย ๆ หากต้องการประสบการณ์ นักเตะวัยเก๋าอย่างโทนี่ โครส และลูก้า โมดริช ก็ยังมีประโยชน์ในการลงมาช่วยเกมแดนกลาง
ชาบี้ เอร์นานเดซ vs คาร์โล อันเชล็อตติ
ซาบี้ เอร์นานเดซ เฮดโค้ชวัย 43 ปี ของบาร์เซโลน่า มาในระบบ 4-3-3 คาดว่าจะให้กาบี้เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก หรืออาจดันเฟร์ราน ตอร์เรส ขึ้นไปเป็นกองหน้าตัวเป้า เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงที่นักเตะหลายคนมีอาการบาดเจ็บ
ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์วัย 64 ปี ของเรอัล มาดริด คาดว่าจะมาในระบบ 4-4-2 Diamond หรืออาจปรับเป็น 4-3-3 แบบเดียวกับเกมที่บุกไปถล่ม 4 – 0 ถึงคัมป์ นู ในถ้วยโคปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ เมื่อซีซั่นที่แล้ว
สถิติการดวลฝีมือกันของ 2 กุนซือในศึกเอล กลาซิโก้ ทั้งหมด 7 เกมในทุกรายการ ชาบี้ชนะ 4 เกม อันเชล็อตติชนะ 3 เกม ส่วนผลงานในฤดูกาลนี้ บาร์เซโลน่ายังไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เปิดซีซั่นทั้งในลีกและถ้วยยุโรป ด้านเรอัล มาดริด แพ้ไป 1 เกม ให้กับแอตเลติโก้ มาดริด 1 – 3 ในศึกดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองหลวง เมื่อเดือนที่แล้ว
บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด มีคะแนนห่างกันเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น อีกทั้งฟอร์มการเล่นโดยภาพรวมก็สูสีกันมาก ผลการแข่งขันในศึกเอล กลาซิโก้ อาจเป็นตัวชี้ทิศทางการลุ้นแชมป์ลาลีกาในซีซั่นนี้
ที่มา: soccersuck
