‘เนฟ’ จี้พรีเมียร์ลีกรีบนำระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติมาใช้
แกรี่ เนวิลล์ อดีตนักเตะและกูรูชื่อดังชี้ถึงเวลาแล้วที่ พรีเมียร์ลีก จะต้องนำระบบเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติมาใช้หลัง VAR ทำผิดพลาดอีกครั้ง
กลายเป็นประเด็นร้อนกับจังหวะการตัดสินของกรรมการและ VAR ในเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ชนะ ลิเวอร์พูล เมื่อคืนวันเสาร์
หลุยส์ ดิอาซ วิ่งทะลุไลน์แนวรับของ สเปอร์ส ไปยิงเข้าประตูแต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า จากภาพช้าแข้งชาวโคลอมเบียไม่ได้ล้ำแต่ก็ยังถูกจับล้ำหน้าอยู่ดีแม้ VAR เช็คแล้ว
มีการเปิดเผยในภายหลังว่าจังหวะดังกล่าวเป็นการสื่อสารอันผิดพลาดระหว่าง VAR และกรรมการในสนาม
VAR คิดว่าการตัดสินในสนามให้จังหวะดังกล่าวเป็นประตู จึงบอกกับกรรมการไปว่า “เช็คเรียบร้อยแล้ว” กรรมการเลยเข้าใจผิดพลาดไปด้วยและยืนยันตามเดิมว่าจังหวะดังกล่าวเป็นล้ำหน้า
จังหวะดังกล่าวใช้เวลาไม่ถึง 40 วินาทีในการเช็คภาพช้าและกลับมาแข่งต่อ ในขณะที่แฟนบอลหน้าจอก็ได้เห็นภาพจาก VAR ไม่ถึง 10 วินาทีในตอนที่พวกเขาเช็คช็อตนั้น
PGMOL หน่วยงานของผู้ตัดสินออกมาขอโทษกับความผิดพลาดของกรรมการที่ทำหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความเดือดดาลลดลงไปเลย
เนวิลล์ เองก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ พรีเมียร์ลีก จะต้องเอาระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติมาใช้ เหมือนอย่างที่มีใช้ในฟุตบอลโลก, แชมเปี้ยนส์ลีกและเซเรีย อา
“เทคโนโลยีโกลไลน์และล้ำหน้าคือสองสิ่งสำคัญในความแม่นยำของ VAR” เนวิลล์ บอกผ่านโซเชียล มีเดีย
“เดือนที่แล้วผมขาดความมั่นใจกับการตัดสินจังหวะล้ำหน้าไป และวันนี้ก็ยิ่งทำให้ความมั่นใจเหือดหายมากขึ้นอีก เอาระบบอัตโนมัติมาใช้เดี๋ยวนี้เลย”
หากมีการนำระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติมาใช้ ผู้ตัดสินที่คุม VAR ก็ไม่จำเป็นต้องลงมือตีเส้นเองเพราะระบบประมวลผลให้
ระบบดังกล่าวจะจับความเคลื่อนไหวของนักเตะหลายคนจากหลายๆจุดของร่างกายทั้งหัว, ปลายเท้า, ท่อนแขนช่วงบนและหัวเข่า ก่อนจะประมวลผลแล้วแจ้งให้ทราบว่าจังหวะดังกล่าวล้ำหรือไม่
ช่วงปิดซีซั่น พรีเมียร์ลีก ก็ได้โหวตเรื่องนี้แต่เสียงจากสโมสรส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วย พวกเขาเลยทำการติดตั้งกล้องรอบสนามเพิ่มอีก 4 ตัวเพื่อช่วย VAR
ที่มา: soccersuck