เมียโร่ปัด! แฉ ‘เอแดร์ซอน’ เคือง ‘ออร์เตก้า’ ได้คำชม

เมียโร่ปัด! แฉ ‘เอแดร์ซอน’ เคือง ‘ออร์เตก้า’ ได้คำชม

ดิ แอธเลติก

สื่อชื่อดังรายงาน เสียงชื่นชมที่ สเตฟาน ออร์เตก้า คู่แข่งแย่งตำแหน่งได้รับ คือหนึ่งในปัจจัยทำให้ เอแดร์ซอน ต้องการย้ายออก แต่ตัวภรรยานายด่านบราซิลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธกล่าวหาว่าเป็น เฟคนิวส์

นายด่านแซมบ้าวัย 30 ปี ตกเป็นข่าวย้ายออกตลอดซัมเมอร์ โดยก่อนหน้านี้ อัล นาสเซอร์ ยื่นข้อเสนอราว 25 ล้านปอนด์โดน “เรือใบสีฟ้า” ปฏิเสธ แต่ยังมี อัล อิตติฮัด อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ซาอุฯ ต้องการตัว

เอแดร์ซอน คว้าแชมป์ลีกกับ ซิตี้ ไป 6 สมัยตลอดช่วงเวลา 7 ฤดูกาล และยังเหลือสัญญาถึง 2026 แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เจ้านายให้สัมภาษณ์ล่าสุด ยอมรับไม่รู้ว่ามือกาวคนนี้ จะอยู่กับทีมต่อไปหรือไม่

รายงานเผยเบื้องหลัง ซัมเมอร์ปีก่อน เอแดร์ซอน ปฏิเสธหลายข้อเสนอจากซาอุฯ แถมช่วงเดือนมีนาคม เตรียมต่อสัญญาใหม่ในถิ่น เอติฮัด ทว่าช่วงท้ายฤดูกาล มีบางอย่างที่ทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนใจ

ในเกม พรีเมียร์ ลีก นัดรองสุดท้ายซึ่ง ซิตี้ บุกชนะ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-0 เอแดร์ซอน ออกสตาร์ตตัวจริง แต่ประสบอาการบาดเจ็บศีรษะ จนเปิดทางให้ ออร์เตก้า เฝ้าเสาแทน

ณ เวลานั้น ซิตี้ กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์กับ อาร์เซน่อล และเกือบต้องเสียหายครั้งใหญ่เพราะ ซน เฮือง มิน ดาวยิง “ไก่เดือยทอง” ได้หลุดเดี่ยวลุ้นตีเสมอ แต่ ออร์เตก้า เป็นฮีโร่ป้องกันไว้ได้

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงจุดโทษปิดกล่องใส่ ท็อตแน่ม และหลายคนมองว่าลูกเซฟของ ออร์เตก้า คือจังหวะที่ตัดสินให้ แมนฯ ซิตี้ ป้องกันแชมป์ลีกเหนือ “ปืนใหญ่” 2 คะแนนในที่สุด

ออร์เตก้า นายด่านเยอรมันวัย 31 ปี ได้รับเสียงชื่นชมครั้งใหญ่ และมีแฟนบอลจำนวนมาก แสดงความเห็นว่าหากเป็น เอแดร์ซอน เฝ้าเสาอยู่ คงไม่สามารถเซฟลูกยิงของ ซน

หลังจบเกม เอแดร์ซอน โพสต์รูปผลงานอื่นๆ ของตัวเองในนัดดังกล่าว พร้อมแคปชั่น “ไม่มีใครเข้าใจ นอกจากตัวผม แล้วเจอกันเร็วๆ นี้”

ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ กวาร์ดิโอล่า พยายามอธิบายกับ เอแดร์ซอน ว่าเขามีความสำคัญกับทีมอย่างมากอยู่เสมอ แต่ รายงานวันพฤหัสที่ผ่านมา อ้างว่าเรื่องราวทั้งหลาย รวมถึงค่าเหนื่อยมหาศาลจาก ซาอุฯ ยังส่งผลให้ต้องการย้ายออก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังรายงานถูกเผยแพร่ไม่นาน ไลส์ โมราอิส ภรรยาของ เอแดร์ซอน โผล่คอมเมนต์ใต้โพสต์ข่าว “นี่คือ เฟคนิวส์ อย่างสิ้นเชิง อย่างแรกคือคุณควรหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อน”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: