“เรอัล โซเซียดัด” กับความฝันรีเทิร์นเวทียูซีแอลหนแรกในรอบ 10 ปี
#SSxLaLiga | สถานการณ์ล่าสุดของลาลีกา สเปน ช่วงโค้งสุดท้ายในฤดูกาล 2022/23 ความน่าสนใจไปอยู่ที่การแย่งโควตาลุยฟุตบอลยุโรป ที่กำลังเข้มข้นสุดๆ เนื่องจากช่องว่างของคะแนนยังทิ้งห่างกันไม่ขาดลอย
เรอัล โซเซียดัด หนึ่งในทีมที่กำลังลุ้นทำอันดับไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เก็บได้ 7 คะแนน จาก 3 นัดหลังสุด ทำแต้มกดดันบียาร์เรอัล คู่แข่งสำคัญในการแย่งอันดับที่ 4 แบบโดยตรง และเหลืออีก 5 เกม
สำหรับ 3 นัดล่าสุดของโซเซียดัด เริ่มจากบุกไปเสมอเรอัล เบติส อีกหนึ่งทีมคู่แข่งลุ้นแย่งท็อปโฟร์ 0 – 0 ต่อด้วยบุกไปชนะโอซาซูน่า 2 – 0 และเปิดบ้านชนะเรอัล มาดริด ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 2 – 0
นับตั้งแต่ฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป เปลี่ยนชื่อจากยูโรเปี้ยน คัพ มาเป็นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 1992 “ลา เรอัล” ได้สิทธิ์เข้าร่วมรายการนี้เพียง 2 ครั้ง ในฤดูกาล 2003/04 และ 2013/14
ครั้งแรกของโซเซียดัด กับยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาในฐานะรองแชมป์ลีกสูงสุดของสเปน ตามหลังเรอัล มาดริด และทำได้ดีที่สุด ด้วยการไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แพ้ให้กับโอลิมปิก ลียง สกอร์รวม 0 – 2
ส่วนครั้งล่าสุด มาในฐานะทีมอันดับ 4 ของลาลีกา ตามหลังบาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และแอตเลติโก มาดริด เริ่มเส้นทางตั้งแต่รอบเพลย์ออฟ ล้างแค้นเอาชนะลียง คู่ปรับหน้าเดิม สกอร์รวม 4 – 0
ในนัดแรกที่ฝรั่งเศส ลูกยิงจักรยานอากาศของอองตวน กรีซมันน์ คือช็อตในความทรงจำของแฟนๆ โซเซียดัด ถึงขั้นสวมเสื้อทีมเยือนสีดำออกมาฉลองชัยชนะในซาน บาสเตียน ส่วนนัดสองที่สเปน คาร์ลอส เวล่า เหมาคนเดียว 2 ประตู
เมื่อเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม โซเซียดัด อยู่ร่วมสายกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และชัคเตอร์ โดเนสก์ แต่เก็บได้เพียง 1 คะแนน จาก 6 นัด ตกรอบในฐานะทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม
หากโซเซียดัด ได้สิทธิ์แข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2023/24 ก็จะเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร และยังคงรักษาระยะห่างระหว่างการเข้าร่วมรายการนี้ในแต่ละครั้งไว้ที่ 10 ปี เช่นเดิม
เมื่อมาดูขุมกำลังของโซเซียดัดในฤดูกาลนี้ เริ่มจากแนวรับ อิกอร์ ซูเบลเดีย และโรบิน เลอ นอร์มองด์ ช่วยให้ทีมเสียไป 29 ประตู คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.88 ประตูต่อเกม น้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลาลีกา
ขยับมาที่มิดฟิลด์ มิเกล เมริโน่ วัย 26 ปี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น แอสซิสต์ให้เพื่อนยิงถึง 9 ประตู และมีคู่หูที่ดีอย่างมาร์ติน ซูบิเมนดี้ กองกลางตัวรับวัย 24 ปี ซึ่งมีฤดูกาลที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เล่นให้กับลา เรอัล
ส่วนนักเตะคนอื่นๆ อย่าง ทาเคฟุสะ คุโบะ, ดาบิด ซิลบา, บราอิส เมนเดส และมิเกล โอยาซาบัล ที่เลี้ยงบอลได้ดี และผ่านบอลไปให้อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ กองหน้าวัย 27 ปี ยิงไปแล้ว 10 ประตู
ทั้งหมดนี้ต้องให้เครดิตอิมานอล อัลกัวซิล กุนซือของทีมชุดใหญ่ ที่เคยเป็นโค้ชทีมเยาวชนมาก่อน เขาเป็นคนที่ดันนักเตะจากซูเบียต้า (Zubieta) อคาเดมี่ของสโมสร ก้าวขึ้นสู่ทีมซีเนียร์ได้ถึง 16 คน
คุโบะ ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่น ผู้ทำ 1 ประตูในเกมชนะโอซาซูน่าเมื่อสัปดาห์ก่อน กล่าวว่า “ตอนนี้เราต้องมองแบบนัดต่อนัด แต่เรากับแฟนๆ ก็มิสิทธิ์ที่จะฝันถึงการไปแชมเปี้ยนส์ ลีก และคิดว่ามันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ”
“ลา เรอัล” เก็บชัยต่อเนื่อง ยึดท็อปโฟร์ต่อ
นัดที่ 33 ของฤดูกาล เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เรอัล โซเซียดัด เปิดเรอาเล่ อารีน่า รับการมาเยือนของเรอัล มาดริด โดยการพบกันนัดแรกที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว “ลา เรอัล” บุกมาเก็บผลเสมอ 0 – 0
และเป็นโซเซียดัด ที่เป็นฝ่ายเอาชนะ 2 – 0 ทาเคฟุสะ คุโบะ และอันเดร์ บาร์เรเน็ตเซีย ช่วยกันยิงคนละประตู ขณะที่ราชันชุดขาวเหลือผู้เล่น 10 คน ดานี่ การ์บาฆาล ถูกใบเหลือง-แดง ไล่ออกจากสนาม
จากผลการแข่งขันนัดล่าสุด ทำให้โซเซียดัด ยังคงรักษาอันดับที่ 4 ไว้ได้ต่อไป ไม่ว่าผลการแข่งขันของบียาร์เรอัล ทีมอันดับที่ 5 ที่ออกไปเยือนบาเลนเซียในคืนวันพุธที่ 3 พฤษภาคม จะออกหน้าไหนก็ตาม
สำหรับโปรแกรม 5 นัดสุดท้ายของโซเซียดัด กับความหวังในการลุ้นจบอันดับท็อปโฟร์ ประกอบด้วย กิโรน่า (เหย้า), บาร์เซโลน่า (เยือน), อัลเมเรีย (เหย้า), แอตเลติโก มาดริด (เยือน) และเซบีย่า (เหย้า)
ในเวลานี้ เรอัล โซเซียดัด เป็นผู้กุมตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ไว้ในกำมือ แต่ก็จะประมาทคู่แข่งไม่ได้เช่นกัน พวกเขายังคงต้องสู้เต็มที่ เพื่อให้ความฝันการคืนสู่ถ้วยใหญ่สุดของยุโรปในรอบ 1 ทศวรรษนั้นเป็นจริง
ที่มา: soccersuck