เราควรชนะ! ‘อิราโอล่า’ โอดเปาพลาดแจกจุดโทษผี
อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือ บอร์นมัธ ยืนยันสมควรเป็นฝ่ายชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่คำตัดสินของกรรมการ ทั้งจังหวะเมินจุดโทษที่พวกเขาควรได้ แถมยังเป่าให้คู่แข่งแบบผิดพลาด คือปัจจัยสำคัญจนสุดท้ายเปิดบ้านเสมอ 2-2
โดมินิค โซลันกี้ กับ จัสติน ไคลเวิร์ต ผลิตประตูพา บอร์นมัธ ขึ้นนำถึงสองครั้ง แต่สุดท้าย ค็อบบี้ ไมนู ยิงแฉลบโดนมือ อดัม สมิธ จน โทนี่ แฮร์ริงตัน เปาผู้ชี้ขาด จับแฮนด์บอลเสียจุดโทษให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส สังหารตีเสมอ
“ตามกฎแล้วเราไม่ควรเสียจุดโทษ มันเป็นจังหวะบอลแฉลบจากเพื่อนร่วมทีม และ สมิธ แค่ตอบสนองตามสัญชาติญาณ” อิราโอล่า สัมภาษณ์หลังเกมที่ วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม
“เราไม่สามารถมีความสุขกับหนึ่งคะแนนได้ เพราะเราคือทีมที่สมควรได้ 3 แต้ม”
“เราพลาดโอกาสกันเองหลายครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่มันมีอีกเหตุผลที่พลาดชัยชนะวันนี้ นั่นคือคำตัดสินในทุกจังหวะ ไม่เป็นใจให้เราเลย”
“ครึ่งแรกมีจังหวะ ค็อบบี้ ไมนู พุ่งล้มและไม่โดนใบเหลือง พอครึ่งหลัง คริสตี้ ของฝั่งเราถูกสัมผัสแล้วล้มกับพื้น แต่กลับโดนใบเหลือง… เหตุผลผู้ตัดสินคืออะไร?”
ช่วงทดเจ็บ ทีมของ อิราโอล่า มีลุ้นขึ้นนำอีกรอบเมื่อ ไรอัน คริสตี้ ปะทะกับ วิลลี่ คัมบ์วาล่า จนล้มกับพื้น ซึ่งทีแรก แฮร์ริงตัน ชี้จุดโทษ แต่ VAR ซึ่งนำโดย จาร์เร็ด กิลเล็ตต์ กลับคำตัดสินเป็นแค่ฟรีคิก
“ผมรู้ว่าเราปลอดภัยจากการตกชั้นแล้ว แต่ทุกแต้มยังมีความสำคัญมาก และการตัดสินในช่วงหลังไม่เคยเข้าทางเรา” นายใหญ่ชาวสเปน กล่าวต่อ
“ผมเชื่อมั่นเต็มที่ว่าเราควรได้จุดโทษ คริสตี้ เริ่มโดนสัมผัสตั้งแต่อยู่ริมเขตโทษก็จริง แต่การสัมผัสมันต่อเนื่องไปอีก 1-2 เมตรในเขตโทษ และขัดขวางไม่ให้เขาไปต่อ”
“คริสตี้ ไม่ได้โดนปะทะแค่ทีเดียวแล้วทิ้งตัวล้ม แต่เขาโดนแบบต่อเนื่องถึงในกรอบ ดังนั้นเราควรได้จุดโทษอย่างชัดเจน และในเกมกับ นิวคาสเซิล เราก็เคยเสียจุดโทษด้วยจังหวะลักษณะนี้”
“เช่นเดียวกับทุกทีม เราต้องการความเคารพและความสม่ำเสมอจากผู้ตัดสิน การตัดสินวันนี้ทำให้เราเสีย 2 แต้ม ทั้งที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อสร้างผลงานสำคัญ”
เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการฝั่ง “ปีศาจแดง” ถูกถามถึงจังหวะปัญหาทั้งหลายเช่นกัน แล้วให้คำตอบ “ช่วงทดเจ็บ มันไม่ใช่จุดโทษของ บอร์นมัธ อย่างแน่นอน”
“ตลอด 4 เกมหลัง เราเสีย 3 จุดโทษ ในแบบที่ผู้คนสามารถถกเถียงคำตัดสิน และจุดโทษที่เราได้ในวันนี้ ก็เข้าข่ายการตัดสินแบบนั้น”
ที่มา: soccersuck
