เหตุเกิดที่ราชมังฯ : ในวันที่ฝนตกขี้หมูไหล

สนามราชมังคลากีฬาสถาน เริ่มใช้ครั้งแรกในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2541

หลังจากแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เสร็จสิ้น ได้มีการปรับปรุงต่อเติม ที่ทำการสมาคมกีฬา, ห้องประชุม และสำนักงานฝ่ายต่างๆ ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยรอบใต้ถุนอัฒจันทร์ ทำให้ยอดงบประมาณการก่อสร้างสนามแห่งนี้ รวมทั้งสิ้นกว่า 1,255 ล้านบาท

นับแต่นั้นมา สนามราชมังฯ ซึ่งอยู่ในการดูแลของ กกท. จึงถือเป็นสนามกีฬาแห่งชาติ และเป็นสนามหลักในการรองรับแมตช์การแข่งขันของทีมชาติไทย รวมถึงฟุตบอลรายการต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ

แต่ครั้งสุดท้ายที่ ทีมชาติไทย ได้ใช้ กลับต้องย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน ในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบรองชนะเลิศ เลกสอง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ซึ่ง ทีมชาติไทย เสมอ มาเลเซีย 2-2 ก่อนตกรอบด้วยกฎอเวย์โกล

นั่นเพราะ สนามราชมังฯ ยังเปิดให้เอกชนมาเช่าเหมาจัดคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีหลัง มีด้วยกันถึง 7 คอนเสิร์ตทั้งศิลปินไทยและต่างประเทศ

9–10 กุมภาพันธ์ 2562 : BODYSLAM FEST วิชาตัวเบา LIVE IN ราชมังคลากีฬาสถาน โดย บอดี้สแลม

6–7 เมษายน 2562 : BTS World Tour LOVE YOURSELF (บีทีเอส เวิลด์ทัวร์ เลิฟยัวร์เซล์ฟ) โดย BTS

28 เมษายน 2562 : Ed Sheeran Divide World Tour 2019 โดย เอ็ด ชีแรน

15–16 ตุลาคม 2565 : ออกโทป๊อบ 2022

10 ธันวาคม 2565 : มารูนไฟฟ์ เวิลด์ทัวร์ 2022[24]

11 มีนาคม 2566 – แฮร์รี สไตลส์ เลิฟ ออน ทัวร์ 2023[26]

27–28 พฤษภาคม 2566 – แบล็กพิงก์ บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ 2023 ENCORE IN BANGKOK

จนมีหลายคนพูดว่า สนามราชมังฯ กลายเป็น สนามคอนเสิร์ตแห่งชาติ ไปแล้ว

แน่นอนว่า การจัดคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง เจ้าของสนามย่อมต้องเก็บค่าเสียหาย เอาไปซ่อมแซมปรับปรุงพื้นสนาม และส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในรายการต่อ ๆ ไป ไม่ใช่เก็บ(เงิน)เอาไว้เฉย ๆ

แต่ทว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ เริ่มมีผลกระทบต่อการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลหลายครั้ง อย่างล่าสุดในรายการ ยู17 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไม่ผ่าน เอเอฟซี จนต้องย้ายไปใช้สนาม บีจี และ ธรรมศาสตร์ แทน เนื่องจากก่อนหน้าได้ถูกจองจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก

ดราม่ายกเลิกแมตช์ ‘สเปอร์ส vs เลสเตอร์’

อีกหนึ่งแมตช์ประวัติศาสตร์ระหว่างสองทีมจากเมืองผู้ดี ทอตแนม ฮอตสเปอร์ พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่กำหนดฟาดแข้งกันในวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน มีอันต้องถูกยกเลิก ท่ามกลางความเสียดายและเสียอารมณ์ของแฟนบอลทุกคน โดยเฉพาะที่อยู่ในสนาม

ซึ่งเหตุผลที่ต้องเลิกไป ก็เป็นเรื่องของสภาพสนามที่ไม่พร้อมจะแข่งเพียงเพราะฝนตก จนหลายคนถึงขั้นแซวว่าก็ใช้งานผิดประเภท เอาสถานที่จัดคอนเสิร์ตมาจัดฟุตบอล มันจะไปรอดได้ยังไง??

แต่เอาจริง ๆ จากสายตาที่อยู่ในสนาม ต้องบอกว่ามันไม่ได้แย่ถึงขนาดเตะไม่ได้ และถ้าจะรออีกสักหน่อย ก็น่าจะทำการแข่งขันกันได้ตามปกติ เพราะฝนก็เริ่มซาลงไปแล้ว การระบายน้ำก็ระบายออกไปหมดแล้วเช่นกัน

ทว่าปัญหาลึก ๆ อาจจะไปกระทบคิวของ สเปอร์ส ที่ต้องรีบบินไปเตรียมเตะต่อที่สิงคโปร์ ซึ่งถูกวางไว้กระชั้นมาก ๆ เท่าที่ได้ยินมาคือต้องบินตอน 20.30 น. นั่นหมายความว่าถ้าเลื่อนมาเตะ 18.00 น. กว่าบอลจะจบก็ 20.00 น. อาจจะไปขึ้นเครื่องต่อไม่ทัน

งานนี้ เบื้องลึก เบื้องหลัง ไม่รู้ว่าคุยกันยังไงในเรื่องธุรกิจ แต่บอกได้เลยว่า ภาพลักษณ์ของบ้านเรา “เสียหาย” ทั้งขึ้นทั้งล่อง

ที่น่าเห็นใจยิ่งกว่าคือแฟนบอล ไม่ได้มีเฉพาะคนไทยใน กทม. แต่ยังมาจากต่างจังหวัด รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เดินทางมาไกล ต่อให้คืนค่าตั๋ว แต่ค่าอื่น ๆ ที่พวกเขาต้องเสียไป โดยเฉพาะความรู้สึก ใครจะรับผิดชอบ?

สนามราชมังฯ ในวันที่ต้องเปลี่ยน

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึง สนามราชมังฯ ที่ กกท. เป็นผู้ดูแล แม้ว้า ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะออกมาชี้แจงว่าเป็นเหตุสุดวิสัย อยู่เหนือความควบคุม แต่หลายคนบอกว่า “ฟังไม่ขึ้น”

ซึ่งงานนี้ กกท. คงปัดความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว เพราะในฐานะเจ้าของสนามต้องมีการปรับปรุงดูแลให้พร้อมใช้ในทุกสภาวะ แล้วยิ่งช่วงหลังมีดราม่าเรื่องการปล่อยสนามจัดแต่คอนเสิร์ต จนแทบจะไม่มีฟุตบอลลงเตะที่สนามแห่งนี้อยู่แล้ว ยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกว่า มันเป็นปัญหาที่ควรจะต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด

เอาจริง ๆ นับตั้งแต่ศึกแดงเดือดเมื่อปีก่อน ก็ไม่มีฟุตบอลแมตช์ทางการมาเตะอีกเลย นอกจากให้ใครก็ได้มาเช่าเตะ ได้ถ่ายรูปอวดสนามหญ้าสวย แทนที่จะเก็บบำรุงรักษาสภาพสนามให้พร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญ ที่มันเป็นวัตถุประสงค์หลักของสนามแห่งนี้

แต่ที่ต้องยอมรับ ณ เวลานี้ ก็คือ สนามราชมังฯ แทบไม่เหมาะที่จะเป็นสนามกีฬาหลักของประเทศอีกต่อไปแล้ว หากไม่มีการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่

ไม่ใช่แค่การระบายน้ำในสนาม แต่ยังมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามไม่ได้อย่าง ห้องน้ำ ที่ความสะอาดมีน้อย หรือ ที่จอดรถ บริเวณใต้ถุนสนาม ใครขับเข้าไปก็ขนลุก ยิ่งกว่ามาถ่ายทำเรื่องเดอะช็อก

รวมไปถึง ไม่มีการเดินทางที่สะดวกสบายเหมือนสนามของเพื่อนบ้าน จะมาสนามแต่ละที ต้องเสียเวลาไป-กลับกว่าครึ่งค่อนวัน

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ สนามราชมังฯ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ควรให้มืออาชีพ คนที่มีความรู้เรื่องการดูแลสนามอย่างแท้จริง เข้ามาดูแลจัดการ ไม่ใช่ปล่อยตามมีตามเกิด หรือให้ตาสีตาสาที่ไหนไม่รู้ มารดน้ำไปวัน ๆ

23/07/2023 กับอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ต้องบันทึกไว้

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด