‘ไม่เป็นไร-สู้ต่อ-เอาใหม่’ ทีมชาติไทยไม่ใช่ระบบครอบครัว
วนลูปกลับมาอีกแล้ว กระแสไม่เอา “มาโน โพลกิง” หลัง ทีมชาติไทย แพ้ ทีมชาติจีน 1-2 ในเกมแรกคัดบอลโลก
มันเป็นแบบนี้มาตลอด พอชนะทีมอาเซียนทีก็ดี๊ด๊า พอแพ้ทีมเอเชียทีก็ว้าวุ่น
เอาจริง ๆ ก็แค่ “มาดามแป้ง” กล้าตัดสินใจว่าจะเปลี่ยน ทุกอย่างมันก็จบ
เลิกเถอะ “ไม่เป็นไร, สู้ต่อ, เอาใหม่”
คือถ้าจะเอาใหม่กันจริง ๆ เราคงได้ “อิชิอิ” มาคุมทัพไปแล้ว
โค้ชมีฝีมือ ผลงานเด่นชัด รู้จักนักเตะไทยดี มีวิธีทำวิธีคิดมาจ่อรอแล้ว ดันช่วยกันเซฟคนเก่า
มีปีกซ้ายให้เล่นปีกขวา มีปีกขวาให้เล่นหน้าเป้า มีกลางรับให้เล่นเซ็นเตอร์ มีเซ็นเตอร์ให้นั่งสำรอง หรือแก้เกมเปลี่ยนตัวมั่วไปหมด
ประเด็นนี้ “มาดามแป้ง” ต้องเด็ดขาด อย่าเกรงใจ หรือ กลัวนักเตะรุ่นเก๋า จะไม่ซัพพอร์ต
พอกันที พวกให้ซ้อมหนักก็บ่น คิดว่าตัวเองเจ๋งสุด ๆ แล้ว หวังเอาแค่ทักษะไปสู้
พอกันที ส่งสำรองไปหาประสปการณ์ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ส่วนตัวหลักให้พักเพราะเกรงใจสโมสร
หรือคิดไปเองว่า นักเตะไทยไปค้าแข้งต่างแดนแล้วจะเจ๋งเหนือกว่าคู่แข่ง แต่ไม่เคยซ้อม ไม่เคยเล่นด้วยกัน มันก็ไร้ประโยชน์
อีกประเด็น ถ้า “มาดามแป้ง” อยากจะเข้ามานั่งเก้าอี้บริหารสมาคมฯอย่างสง่างาม คือต้องเพิ่มบารมีให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่เงินอัดฉีด
เพราะ ทีมชาติไทย ไม่ใช่ระบบครอบครัว
จึงอย่าล้อเล่นกับศรัทธาของแฟนบอล จากตัวเลข 35,009 คน ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน คือสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี
ที่มา: soccersuck