5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดชม “บาสก์ ดาร์บี้”

#SSxLaLiga | ฟุตบอลสเปนในสุดสัปดาห์นี้ บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ไม่มีโปรแกรมลงเตะลาลีกา ทำให้ความน่าสนใจไปอยู่ที่ซาน เซบาสเตียน เมืองหลวงของแคว้นบาสก์ กับ 2 สโมสรร่วมเมืองเดียวกัน ที่เริ่มต้นซีซั่นได้ดีทั้งคู่

ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ นัดที่ 17 ของฤดูกาล คู่สำคัญอยู่ที่ศึกดาร์บี้แมตช์แห่งแคว้นบาสก์ ระหว่างเรอัล โซเซียดัด เปิดบ้านดวลกับแอธเลติก บิลเบา ในคืนวันเสาร์ที่ 14 มกราคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

2 ทีมคู่ปรับที่ผลัดกันแย่งความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลสเปนช่วงยุค 1980s ส่วนในปัจจุบัน มีโอกาสที่จะลุ้นโควตาลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยกัน และนี่คือ 5 เหตุผลดีๆ ที่ไม่ควรพลาดศึกบาสก์ ดาร์บี้ ในครั้งนี้

ศึกชิงตั๋วลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า

เรอัล โซเซียดัด และแอธเลติก บิลเบา เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หนล่าสุด ในปี 2013 กับ 2014 ตามลำดับ ถือว่าห่างหายไปนานเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว ซึ่งในฤดูกาลนี้ ทั้งคู่ต่างอยู่ในเส้นทางการลุ้นไปถ้วยใหญ่สุดของยุโรป

ความสำคัญของชัยชนะในศึกบาสก์ ดาร์บี้ ครั้งนี้ โซเซียดัดจะรักษาอันดับ 3 อย่างเหนียวแน่น หรือบิลเบาจะทำแต้มกดดันกลุ่มทีมคู่แข่งลุ้นท็อป 4 ที่มีทั้งเรอัล เบติส, แอตเลติโก้ มาดริด, บียาร์เรอัล, โอซาซูน่า และราโย บาเยกาโน่

การดวลฝีมือของ 2 กุนซือต่างสไตล์

อิมานอล อัลกูอาซิล และเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ได้ร่วมงานกับเรอัล โซเซียดัด และแอธเลติก บิลเบา ตามลำดับ ตั้งแต่เป็นผู้เล่นในช่วงยุค 1990s จนถึงปัจจุบันที่ต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรของตัวเอง

สไตล์การทำทีมของทั้ง 2 คน ถือว่ามีความแตกต่างกัน อัลกูอาซิล จะเน้นเกมรุกเป็นหลัก ขณะที่บัลเบร์เด้ จะค่อนข้างยืดหยุ่น โดยปรับแผนการเล่น ตามความเหมาะสมของผู้เล่นที่ลงสนามในแต่ละเกม

บิลเบา หวังปลดล็อกคว้าชัยเกมเยือน

แม้แอธเลติก บิลเบา จะเริ่มต้นฤดูกาลได้ดีที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ผลงานเกมเยือนในลาลีกา ไม่ชนะใครมาแล้ว 5 นัดติดต่อกัน โดยครั้งล่าสุดที่ชนะคู่แข่งนอกบ้าน ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว

ส่วนการออกไปเยือนเรอัล โซเซียดัด ในศึกบาสก์ ดาร์บี้ 5 ครั้งหลังสุด บิลเบาก็ไม่สามารถเก็บชัยชนะกลับออกไปได้เลย (เสมอ 2 แพ้ 3) ซึ่งหนสุดท้ายที่เอาชนะถึงบ้านโซเซียดัด เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2017

มูเนียอิน ลุ้นแซงสถิติลงเล่นให้บิลเบาติดท็อป 3

อิเคร์ มูเนียอิน มิดฟิลด์ตัวรุกของแอธเลติก บิลเบา ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงนัดล่าสุดที่เปิดบ้านพบกับโอซาซูน่า คือนัดที่ 514 เทียบเท่าโฆเซบา เอตเซแบร์เรีย อดีตแข้งรุ่นพี่ร่วมสโมสร

หากดาวเตะวัย 30 ปี ได้ลงสนามในศึกบาสก์ ดาร์บี้ คืนวันเสาร์นี้ จะเป็นเกมที่ 515 แซงหน้าเอตเซแบร์เรีย ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 อย่างเป็นทางการ ตามหลังโฆเซ่ ฟรานซิสโก้ โรโฮ (541 เกม) และโฆเซ่ อังเกล อิริบาร์ (614 เกม)

ดาร์บี้แมตช์ที่มีความเป็นมิตรมากกว่าที่อื่น

การพบกันของเรอัล โซเซียดัด กับแอธเลติก บิลเบา ไม่ว่าเมื่อใด สถานการณ์เป็นแบบไหน ยังคงเป็นการแข่งขันที่มีความสำคัญเช่นเดิม ในสนามต่อสู้กันอย่างดุเดือดและเข้มข้น เพื่อแย่งชิงความเป็นที่หนึ่งของเมือง

แต่สำหรับบาสก์ ดาร์บี้ จะแตกต่างจากดาร์บี้แมตช์อื่น ๆ ตรงที่ไม่มีอารมณ์แห่งความเกลียดชัง แฟนๆ ทั้งสองทีม มีบรรยากาศในการเชียร์ฟุตบอลร่วมกันได้ราวกับเป็นพี่น้อง เพราะพวกเขามาจากรากเหง้าเดียวกัน

2 สโมสรดังจากแคว้นบาสก์ กำลังจะทำศึกดาร์บี้แมตช์ที่น่าติดตามที่สุดในรอบหลายปี ผลการแข่งขันนัดนี้ จะชี้ทิศทางการลุ้นโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แย่งชิงกันเข้มข้นสุด ๆ ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด