Installed done สโตนส์ หมายเลข 6

น่าจะเหลือไม่กี่ทีมในโลกนี้หรือบางทีอาจไม่เหลือแล้วที่จะโค่น แมนฯซิตี้ ของ เป๊ป กวาดิโอล่า ที่ล่าสุดขอใช้คำว่าสอนเชิง บาเยิร์น มิวนิค ขาด 3-0

หากใครได้ชมเกมนี้จะเห็นได้ว่า “เรือใบ” เล่นเหนือชั้นอร่อยเหาะและหากไม่ได้ ยานน์ ซอมเมอร์ ช่วยชีวิต “พี่เสือ” ใส่เข่งกลับเมืองเบียร์มากกว่านี้แน่นอน

ประเด็นคือในความโหดของ ซิตี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่การกด บาเยิร์น จนแทบโงหัวไม่ขึ้นคือสิ่งที่บอกว่าทีมของ เป๊ป ถ้าไม่ได้แชมป์ UCL ปีนี้ไม่ได้แล้วครับ

ในขณะที่คำสาปที่คอยติดตาม เป๊ป มาตลอดหลายปีคือการที่แกมัก “อินดี้” เมื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศหรือรอบชิง ความเป็น “เรือใบ” ที่โหดมาตลอดรอบแรกมักตายด้วยน้ำมือตัวเอว

อย่างไรก็ตามเกมเมื่อคืนสิ่งที่ทุกคนเห็นและต้องร้องว้าวแบบเต็มๆคือแผนการใช้ จอห์น สโตนส์ ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งเบอร์ 6

จะบอกว่ารอบนี้ “อินดี้” ก็ไม่ถูก แกไม่ได้จู่ๆงัดแผนนี้เป็นครั้งแรกเพราะพยายามปรุงแต่งการเล่นตรงนี้มาหลายนัดแล้ว

มีคนในบอร์ด SS ถึงกับนิยามว่า program completely installed คือแผนติดตั้งเสร็จสมบูรณ์เอาในเกมนี้

สมบูรณ์แค่ไหนน่ะเหรอ? ก็ไม่มากเท่าไหร่แค่ “สโตน” ได้ man of the match เกมนี้เองอ่ะครับ รับเด่นไม่พอจัดแอสซิสต์ให้ ฮาลันด์ ทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดต่อฤดูกาลในทุกรายการไปเรียบร้อยอีกต่างหาก

จริงๆแล้วแผนนี้ไม่ต่างอะไรกับการคิดค้นของนักวิทยาศาตร์สมัยก่อน การถือกำเนิดของยา “เพนนิซิลิน” ก็มาความบังเอิญถาดเพาะเลี้ยงเชื้อของ เซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ปนเปื้อนเชื้อรา

ครับ เป๊ป มีปัญหากับ “ฟูลแบ็ค” ทางออกก็คือใช้เซนเตอร์แก้ลำแม่งเลย

เรียกว่าในหลายๆหนไม่ใช่แค่แนวรับแต่ตำแหน่งอื่นๆ เป๊ป สามารถ DIY ออกมาโดยที่ระบบการเล่นไม่เสียตามอย่างน่าทึ่ง

นักเตะทุกคนเข้าใจคอนเซปป์ที่ เป๊ป ต้องการให้เล่นดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าแผนนี้มีความ “แน่น” กว่าเดิมโดยที่เกมรุกไม่ได้อ่อนแรงลงแต่อย่างใด

ความโหดในแผงกองหลังนี้เองทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล บอสใหม่ป้ายแดง “พี่เสือ” เปลี่ยนแผนจากที่เคยเน้นพาบอลเข้าไปในเขตโทษของเจ้าถิ่นจนแทบไม่มีโอกาสในครึ่งแรก

ให้มาเน้นยิงไกลหวังผลในช่วงต้นครึ่งหลังนำแสดงโดย เลรอย ซาเน่ เด็กเก่าที่สุดท้ายแล้วลูกลักษณะนี้ไม่ได้กิน เอแดร์ซอน แน่นอน

หากใครเล่นฟุตบอลจะรู้ว่าถ้าเกมรับไว้ใจหายห่วง เมื่อถึงเวลาที่คุณในฐานะตัวรุกจะยิ่งกล้าเล่นยิ่งมั่นใจเพราะรู้ว่าด้านหลังเพื่อนจะ “เอาอยู่”

คอมโบ รับ-รุก ทำให้ ซิตี้ โหดสุดๆ แบร์นาโด้ ซิลวา ตีนออกแซง กระชากหนีตัวประกบ 2-3 คนในพื้นที่แคบๆราวกับเลี้ยงผ่านกรวย

การเพรสซิ่งที่ไม่มีผ่อนทำให้แนวรับของ “พี่เสือ” ลนลานตั้งเกมไม่ได้โดยเฉพาะ อูปาเมกาโน่ จิตหลุดทำเสียประตูที่ 2 และออกลูกเหวอให้เห็นเรื่อยๆ

ครับถึงแม้สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหา เหลือเลก 2 ให้ตัดสินกันอีกแต่ลองบอกผมหน่อยว่า “เรือใบ” ที่โหดขนาดนี้แพ้ 3 ลูกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่และต้องเล่นให้หลุดฟอร์มขนาดไหนถึงจะยับเยินถึงขั้นตกรอบ

และต้องไม่ลืมว่าช่วงท้ายๆฤดูกาลเข้าสู่ 1-2 เดือนสุดท้ายเป็นช่วงเวลาต้องห้ามของทีมๆนี้

การเข้าเบรกของ ซิตี้ ชนะรัวๆ 9 นัด 10 นัด+ ติดต่อกันจนคู่ต่อสู้ผวาขาสั่นเป็นสิ่งที่เราเห็นกันจนชินตาไปแล้ว

หลายคนเคยตั้งคำถามหรือพูดง่ายๆว่า “แขวะ” เป๊ป จะเป็นอย่างไรหากไปอยู่กับทีมที่มีงบแต่ละปีจำกัดจำเขี่ย

ซึ่งหากมองกันดีๆหลายสโมสรละลายเงินมหาศาลโดยที่นักเตะเล่นไม่ได้ตามที่หวังไว้มีให้เห็นเยอะแยะตามท้องถนน

แต่สิ่งหนึ่งที่ เป๊ป เหนือกว่าทุกคนอย่างเห็นได้ชัดคือศาสตร์ฟุตบอลที่ทำให้นักเตะที่ซื้อมาเล่นตามใบสั่งได้อย่างน่าทึ่งนี่แหละ

ความกระหายความโหดของผู้เล่นเป็นอะไรที่รับมือยากอยู่แล้วแต่มือ “กด” ระเบิดอย่าง เป๊ป ยิ่งทำให้ ซิตี้ ด้อยค่าทีมอื่นๆหนักเข้าไปอีก

แชมป์ UCL สมัยแรกของสโมสรสมควรปลดล็อกในปีนี้จริงๆครับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

ชัยชนะเหนือ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อคืนวันอังคารทำให้ แมนฯซิตี้ ไม่แพ้ UCL ในบ้านเป็นนัดที่ 25 แล้ว (ชนะ 23 เสมอ 2) ประตูได้เสีย +62 (ยิง 81 เสียแค่ 19 )

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ทำสถิติยิง 45 ประตูในทุกรายการ กลายเป็นแข้งพรีเมียร์ลีกคนแรกที่ยิงประตูต่อ 1 ฤดูกาลมากที่สุดไปแล้ว

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: