TAA กลางเทพจุติ หงส์พักเยอะเพรสหนัก
นอกเหนือจากสกอร์ดุดันไม่เกรงใจใคร 6-1 เหนือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ถูกพูดถึงเยอะมากไม่แพ้กันคือบทบาทมิดฟิลด์ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่วันนี้จัดเบาๆไป 2 แอสซิสต์
ปฐมบทตำแหน่งนี้่เริ่มผ่านตามาแล้วในเกมกับ อาร์เซนอล จนกระทั่งออกมาเยือน ลีดส์ แฟนบอลได้เป็นสักขีพยานกันเต็มๆถ้วนหน้า
ครับความกลมกล่อมสวิชบอล, เก็บบอลจังหวะ 2, เคาะบอลกับเพื่อน , วิชั่นการจ่ายบอลและการตัดบอลเป็นส่วนหนึ่งต่อชัยชนะครึ่งโหลของ “หงส์แดง” ในวันนี้ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามที่มาของ 3 แต้มแรกในรอบ 5 นัดมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องพูดถึงอยู่บ้าง
เริ่มจากประตู 1-0 ที่ ลิเวอร์พูล ได้มานั้นต้องบอกว่าดวงดีเหลือเชื่อเนื่องจาก TAA แฮนด์บอลก่อนชัดเจน
แม้จะไม่ได้ยกแขนเพื่อทำให้ตัวใหญ่แต่ชัดเจนในแง่ที่บอลมาถูกแขนโดยใช้แรงเหวี่ยงแต่งให้มันไปข้างหน้าจนนำมาสู่ประตูของ โคดี้ กัคโป
ผมมั่นใจว่าแฮนด์แน่นอนจึงไม่ได้เฮดีใจตั้งแต่แรกเพราะมองเหลี่ยมไหนเหตุผลที่จะจับฟาว์ลมันมีมากกว่าจะไม่ให้ฟาว์ล
ก่อนจะส่งงานอัพคอลัมน์ผมเห็นเว็บไซต์ yorkshire ของทาง ลีดส์ เผยว่าพรีเมียร์ลีกอธิบายว่าที่ไม่แฮนด์บอลสืบเนื่องมาจาก TAA ไม่มีเจตนาใช้แขนเล่นบอล
อันนี้แล้วแต่จะตีความเพราะในหลายๆเหตุการณ์ก็ถูกจับแฮนด์บอลโดยที่นักเตะไม่มีเจตนาเล่นบอล วัดดวงครับวันไหนผู้ตัดสินเมนส์มาก็ถึงคิวคุณ
ผ่านตรงนั้นมาได้ก็จริงก็ยังมีอีกเหตุการณ์ที่ “หงส์” ไปจุดให้ทั้งนักเตะและแฟนบอล ลีดส์ ตื่นตั้งแต่นาทีที่ 2 ของครึ่งหลังคือลูกเหวอของ อิบู กานูเต้ ที่พลาดแบบเงยหน้าเพราะตกใจเสียผู้บรรยาย
โดนเร็วไล่มา 2-1 จากเกมเนือยๆหงอยๆกลายเป็นเจ้าบ้านวิ่งกันพล่าน เด็ก “หงส์” ไม่เคยมีชีวิตที่สบายกับเขาเลยจริงๆครับ
โชคดีที่แนวรับ “ยูงทอง” ขึ้นชื่อลือชาว่ารั่วจัดดันหลังขึ้นมากลางสนามและเข้าพรวดจนนำมาสู่ประตูชี้ชะตา 3-1 หรือ 5 นาทีหลังโดนตีไข่แตก
เป็นการปลดล็อกหลังยิงประตูไม่ได้มา 32 เกมติดต่อกันของ ดิโอโก้ โชต้า ร่วมๆ 1 ปี
คือถ้าใครได้ดูฟอร์มของเจ้าพ่อฟีฟ่าในครึ่งแรกถ้าไม่นับลูกที่แอสซิสต์ให้ โม ซาลาห์ นี่คือโคตรกาก
จ่ายบอลเสียเป็นเข่ง ส่งเฝือกให้เพื่อน ฯลฯ ให้คะแนนครึ่งแรกเอาไป 3
แต่ท้ายที่สุดเรื่องการจบสกอร์ผมยังเชื่อว่า โชต้า มีความเด็ดขาดและเป็น Striker มากกว่าแนวรุกทุกตัว
ดังนั้นข่าวลือช่วงสัปดาห์ก่อนที่ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ มีแผนโละทิ้งคงไม่น่าคิดสั้นอะไรขนาดนั้นนะครับ
ครับแรงเกื้อหนุนที่ทำให้ “หงส์แดง” ตีนออกแสงในวันนี้ส่วนนึงมาจากการเล่นที่ไม่เอาอ่าวทะเลของฝั่ง “ยูงทอง”
จากที่เคยเป็นบอลวิ่งควายซึ่ง ลิเวอร์พูล ไม่ชอบและสู้แรงไม่ไหวแต่เกมนี้กลับด้านกันครับ
ลีดส์ เลือกที่จะลงไปตั้งรับในแดนตัวเองทั้ง 11 ตัวปล่อยให้ทีมเยือนขึง ต่างจากที่เจอกันช่วงหลัง “ยูง” จะเป็นฝ่ายควบคุมเกมด้วยการวิ่งเพรสแย่งบอลกลับมาอย่างรวดเร็ว
แท็คติกส์นี้ผมมองว่า ฆาบี้ การ์เซีย กุนซือน่าจะเห็นจุดอ่อนที่แผงหลัง “หงส์” และว่าการสวนกลับจะมีโอกาสมากกว่าไปเล่นดันสูงในสภาวะที่แนวรับมีปัญหาในช่วงหลัง
อย่างไรก็ตามหากใครได้ดูเกมนี้ช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล ครองบอลมากถึง 70% กว่าๆแต่กลับหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้เลย ตรงกันข้ามเป็น ลีดส์ ที่ได้ส่อง 3-4 หนด้วยซ้ำ
บทสัมภาษณ์ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก่อนเกมได้พูดถึงประเด็นว่าเขาชอบมากที่มีเวลาซ้อมแท็คติกส์ทั้งสัปดาห์ จากที่เคยชินกับการเตะ 2 เกมต่อ 1 วีค เวลาที่มีจึงหมดไปกับการ “รีโคฟเวอร์” ร่างกายและนั่งฟังเลคเชอร์
ความสดตรงนี้เองที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ที่การวิ่งไล่บดเป็นรองทุกทีมในพรีเมียร์ลีกกลับเป็นฝ่ายรุมแย่งบอลจากเจ้าถิ่นนับไม่ถ้วน
แม้กระทั่งทดเจ็บชนะแน่ๆแล้วผู้เล่น “หงส์” 4 คนสวมวิญญาณฝูงปลาปิรันย่ารุมแย่งบอลกลับมาได้อย่างเมามัน (ผมมาอ่านบทสัมภาษณ์ทีหลัง JK พูดถึงจังหวะนี้ด้วย)
ไม้ตายที่เอาไว้หากินคัมแบ็คได้ถูกเวลา โดยที่นักเตะอย่าง เคอร์ติส โจนส์ วันนี้ทำให้แผนลงตัว จากการที่น้องมันทำอะไรกับบอลได้มากกว่า ฮาร์วีย์ เอเลียตต์ (ที่เน้นเอียงตัวแปคืนหลัง)
อาจมีหวงบอลดึงจังหวะตามสไตล์ไปบ้างแต่ก็ต้องยอมรับว่าวันนี้วิชั่นการจ่ายบอลอยู่ในเรตที่กด “หัวใจ” ให้ได้ไม่น่าเกลียด
โดยเฉพาะลูกแทงตัดหลังเซนเตอร์ก่อน โชต้า ยิงลูก 3-1 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้เล่น ลีดส์ ถอดใจและโดนอีก 3 เม็ดในท้ายที่สุด
ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล ครั้งนี้ผมยังเอียงๆไปที่ ลีดส์ อยู่ในฟอร์มที่แย่มากแย่สุดๆ แนวรับคือไม่เอาอะไรเลยโดนสวนเป็นถึงหน้าประตู
ถ้าไม่นับลูกที่พลาด โกนาเต้ สามารถ cover แบ็คขวาให้ TAA ได้อย่างไรที่ติแต่อย่าลืมว่าระบบนี้มันเพิ่ง new entry หลายๆทีมยังจับทางไม่ได้
มันต้องมีซักทีมที่อัพ patch เหมือนที่หลายทีมเคยตลบหลัง “หงส์” จากการให้ เทรนท์ เติมเป็นปีกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับ “ยูงทอง” ผู้พ่ายแพ้การถูกแฟนบอลพร้อมใจกันโห่ไล่หลังผู้ตัดสินเป่านกหวีดเป็นการระเบิดอารมณ์หลังพวกเขาแพ้คาบ้าน 2 นัดติดและโดนยิงรวมกัน 11 ลูก!!
อันดับไม่กระเตื้องอยู่ที่ 16 เหนือโซนตกชั้น 2 แต้มยังไม่พอประตูได้เสียติดลบพรวดพราดเป็น 20 ซึ่งจะมีผลต่อช่วงโค้งสุดท้ายที่แต้มทีมท้ายตารางเบียดกันสุดๆ
ที่น่าเป็นห่วงมากไปกว่าฟอร์มการเล่นที่ไม่กระหายเหมือนแต่ก่อนก็คือโปรแกรมที่เหลือนี่แหละครับ
จาก 7 เกมที่เหลืออยู่ พวกเขาต้องเจอกับทีม top 5 ถึง 3 ทีมคือ แมนฯซิตี้, นิวคาสเซิ่ล และ สเปอร์ส
ความอันตรายต่อมาคือ 4 เกมต้องเจอกับทีมหนีตายด้วยกันถึง 3 ไม่ว่าจะ เวสต์แฮม, บอร์นมัธ และ เลสเตอร์
ใครที่ยังไม่อยากให้ “ยูงทอง” ทีมรักของอาย.โย่งต้องตกชั้นหลังเพิ่งขึ้นมาได้แค่ 3 ปีคงต้องส่งแรงเชียร์เยอะมากหน่อยครับ ถ้าเล่นได้แค่ที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ไม่รอดแน่นอน
และปิดท้ายที่ “หงส์แดง” หากกำลังควานหาจุดเปลี่ยนในช่วงโค้งสุดท้ายการคว้าชัย 2 นัดติดกับการรอ ฟอเรสต์ ใน แอนฟิลด์เป็นภารกิจที่ต้อง “must have” เพื่อไม่ให้ 3 แต้มนัดเยือนเกมที่ 4 ในฤดูกาลนี้ต้องสูญเปล่า
ไม่มีข้ออ้างอะไรอีกแล้วครับเนื่องจากเกมนี้ หลุยส์ ดิอาซ คัมแบ็คกลับมาลงสนามเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
รวมกับการได้ ธิอาโก้ เป็นตัวเลือกในแดนกลางยิ่งทำให้ขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล “ฟูลทีม” เข้าทางแข้งกับโปรแกรมสัปดาห์ละ 1 เกมเช่นนี้จริงๆ
ครับจะกดอัลติเหมือนปี 2021 ที่กวาดชัย 5 นัดสุดท้ายแซงคว้าตั๋ว UCL หรือต้องมานั่งเขียนด่าในคอลัมน์เหมือนเดิม อีกซัก 1-2 นัดรู้เรื่อง…
สถิติ สถิติ สถิติ
ดิโอโก้ โชต้า ยิงประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล ในรอบ 1 ปี (รวมทุกรายการ) นับตั้งแต่ซัดใส่ แมนฯซิตี้ ในลีกเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2022 ยุติเป้าสะอาดไว้ที่ 32 เกมติดต่อกัน
โม ซาลาห์ สถาปนาตัวเองเป็นนักเตะที่ยิงเท้าซ้ายมากที่สุดนับตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวนทั้งสิ้น 107 ประตูโดยที่เหลือเป็นเท้าขวา 21 ลูกและโหม่งอีก 7 รวมประตูที่ยิงในลีก 135 ประตูจาก 223 นัด
โดยการขึ้นแท่นเทพเท้าซ้ายทำให้ “บัง” แซงหน้า ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (105) เรียบยร้อยแล้วโดยมี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (94) และ ไรอัน กิกส์ (83) ตามมาห่างๆ
ลีดส์ ยูไนเต็ด เสียถึง 16 ประตูใน 4 เกมพรีเมียร์ลีกเฉพาะเมษายนปีนี้ ถือว่ามากกว่าทีมอื่นๆถึง 8 ลูกและมากกว่าเดือนมกราคม, กุมภาพันธ์และมีนาคมรวมกัน 1 ลูก (เสีย 15 ใน 11 เกม)
“ยูงทอง” เสีย 5 ลูก+ 2 เกมติดต่อกันเป็นหนแรกในประวัติศาตร์สโมสรไปเรียบร้อยแล้ว
ที่มา: soccersuck