ไหวไหม? วอล์คเกอร์รับมือเอ็มบัปเป พึ่งตัวช่วยหรือปรับเป็นสามเซ็นเตอร์

#SSxKMD | ฟุตบอลโลกพักสองวันให้แฟนบอล(ไทย)นอนเต็มอิ่มก่อนเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนัลคืนวันศุกร์และเสาร์ วันละสองคู่ โดยอังกฤษกับฝรั่งเศสถูกสื่ออินเตอร์ฯยกให้เป็น blockbuster match ที่ขายได้ทุกตลาดทั่วโลก

ฝรั่งเศสชุมนุมแนวรุกระดับฮอลลีวูดสูสีกับบราซิลไม่ว่าจะเป็น อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และคีลิยัน เอ็มบัปเป ซึ่งว่ากันว่าจะเป็น GOAT ที่รับไม้ต่อจากลิโอเนล เมสซี, คริสเตียโน โรนัลโด และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ซึ่งเตรียมอำลาสังเวียนเวิลด์คัพ

ที่กาตาร์ ปีกซ้ายวัย 23 เล่นได้สมราคาว่าที่ซูเปอร์สตาร์แห่งทศวรรษปัจจุบัน ทำให้แฟนบอลตาลุกวาวเมื่อเห็นลีลาการเลี้ยง, ความเร็ว, การจ่าย และการจบสกอร์ เอ็มบัปเปลงตัวจริง 3 นัด ตัวสำรอง 1 นัด ทำ 5 ประตู 2 แอสซิสต์ จึงเกิดคำถามให้สื่อและกูรูวิเคราะห์กันว่า แกเรธ เซาธ์เกต จะวางแผนรับมืออย่างไร

เมื่อเอ็มบัปเปเป็นปีกซ้าย นักเตะอังกฤษที่เป็นคู่ต่อกรโดยตรงก็คือแบ็คขวา ซึ่งไคล์ วอล์คเกอร์ ยึดตัวจริงสองนัดหลังสุดมาจากคีแรน ทริปเปียร์ และมีเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รอโอกาสข้างสนามอีกคน

ดีแลน เทอร์รี จากสื่อ The Sun ให้ทรรศนะว่าถ้าความเร็วเป็นอาวุธของเอ็มบัปเป วอล์คเกอร์ก็เป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมเมื่อพิจารณาจากความเร็วของแบ็ควัย 32 ที่เคยทำไว้สูงสุด 23.48 ไมล์ต่อชั่วโมงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ช้ากว่าท็อปสปีดของเอ็มบัปเปราว 0.1 ไมล์ต่อชั่วโมง ตามตัวเลข 23.5 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ SppdSDB เคยรายงานไว้

เชื่อหรือไม่จากการลงสนามให้อังกฤษ 24 นัดล่าสุด เคยมีฝ่ายตรงข้ามเลี้ยงบอลผ่านวอล์คเกอร์ได้สำเร็จแค่ 3 ครั้ง หรือ 686 นาทีต่อครั้ง และคืนวันเสาร์นี้ แบ็คแมนฯซิตีต้องรับมือกับเอ็มบัปเปที่เลี้ยงฝ่าคู่แข่งขันได้ 13 ครั้งในเวิลด์คัพครั้งนี้ ซึ่งเป็นรองเพียง 19 ครั้งของจามาล มูเซียลา นอกจากนี้สถิติการเลี้ยงกินคู่แข่งจากการเล่นให้ฝรั่งเศส 22 นัดล่าสุดก็ถือว่าดีมาก

วอล์คเกอร์กับเอ็มบัปเปเคยเจอกัน 4 ครั้ง ทีมชาติ 1 นัด และสโมสร 3 นัด กองหน้าของปารีส แซงต์-แยร์แมง ทำได้ประตูเดียวในแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซีซัน 2022-23 ที่แมนฯซิตีชนะ 2-1 แกรี่ ลิเนเกอร์ อดีตตำนานดาวซัลโวทีมชาติอังกฤษ เคยยกย่องวอล์คเกอร์ว่าเป็นฟูลแบ็คคนเดียวในโลกนี้ที่สามารถสู้กับเอ็มบัปเปได้

นั่นเป็นข้อมูลตัวเลขแต่อีกด้านหนึ่ง วอล์คเกอร์เพิ่งผ่าตัดโคนขาหนีบเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และมาร์ติน คีโอว์น อดีตยอดเซ็นเตอร์แบ็คของอาร์เซนอล เพิ่งให้ความเห็นลงในสื่อ Daily Mail ว่า เขาเห็นวอล์คเกอร์วิ่งไม่เต็มสปีดระหว่างเกมกับเซเนกัล ดังนั้นช่วงพักห้าวัน ทีมแพทย์ต้องคืนสภาพความฟิตของวอล์คเกอร์ให้กลับมามากที่สุด

คีโอว์น ซึ่งในวัย 56 ปี ผันตัวเองเป็นนักวิเคราะห์เกม แนะนำว่าบางทีเซาธ์เกตต้องหา “ตัวช่วย” ให้กับวอล์คเกอร์ ซึ่งก็คือ ดีแคลน ไรซ์ ที่ต้องขยับหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับออกไปด้านข้างช่วยประกบหรือทำลายจังหวะของเอ็มบัปเป และโชคดีที่เซาธ์เกตมีผู้เล่นข้างสนามให้เลือกส่งมาแก้สถานการณ์ได้มากที่สุดทีมหนึ่ง บวกกับกติกาที่เปลี่ยนผู้เล่นได้ถึงห้าคน จึงทำให้อังกฤษมีโอกาสไม่น้อยที่จะผ่านฝรั่งเศสไปได้

ขณะที่ อลัน เชียเรอร์ อีกหนึ่งตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ซึ่งรับงาน pundit ให้กับสื่อใหญ่ BBC กล่าวว่า ฝรั่งเศสยังมีกรีซมันน์, เดมเบเล และ ชิรูด์ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้เกมรับอังกฤษ โดยเฉพาะชิรูด์ที่จะทำได้คู่เซ็นเตอร์ แฮร์รี แม็คไกวร์ และจอห์น สโตนส์ ทำงานหนักเพราะฝรั่งเศสคงระดมผ่านบอลไปให้ชิรูด์ในเขตโทษ

“ฮ็อตช็อต” ค่อนข้างเห็นด้วยกับไอเดียที่แนะนำเซาธ์เกตเปลี่ยนแผงหลังจากแบ็คโฟร์ที่ใช้ทั้งสี่นัดในกาตาร์ไปเป็นปราการหลังสามคนคือ แม็คไกวร์-สโตนส์-วอล์คเกอร์ พร้อมส่งทริปเปียร์เป็นวิงแบ็คเพื่อที่วอล์คเกอร์กับทริปเปียร์จะได้ดับเบิลทีมเอ็มบัปเป ขณะที่คู่มิดฟิลด์ก็จะเป็นจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับจูด เบลลิ่งแฮม ซึ่งประสานงานกันได้ดีในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

แมตช์ระหว่างสองชาติเพื่อนบ้าน อังกฤษ vs ฝรั่งเศส จึงเป็นอีกหนึ่งนัดที่ท้าทาย “กึ๋น” ในการวางหมากเกมและแท็คติกของเซาธ์เกต

เรียบเรียง: KMD Content Team

ภาพ: The Sun ENGLAND

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด