ย้อนรอยชีวิต “เปเล่” ราชาผู้ยิ่งใหญ่ ไอคอนแห่งวงการลูกหนังโลก
#KMDxSS | คืนวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่โลกลูกหนังได้สูญเสียนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไปอีกราย นั่นคือ เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ในวัย 82 ปี
การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัย และสถิติส่วนตัวต่างๆ ที่สร้างไว้นับไม่ถ้วน ก็เพียงพอแล้ว ที่เปเล่จะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ไข่มุกดำ x SoccerSuck ขอร่วมรำลึกถึงการจากไปของ “ราชาลูกหนัง” ด้วยการนำเรื่องราวที่เคยสร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอล และเป็นที่พูดถึงของผู้คนทั่วโลกมาฝากกัน
เปิดตำนาน “ไข่มุกดำ” สมบัติแห่งแซมบ้า
เอ็ดสัน อรันเตส โด นาสซิเมนโต เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนสุดๆ แต่ด้วยความที่รักในฟุตบอล เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้หนังสือพิมพ์ยัดใส่ลงไปในถุงเท้า หรืออะไรก็ได้ที่สามารถทำให้เป็นลูกบอล
ส่วนชื่อ “เปเล่” นั้น ได้มาจากการเรียกชื่อของ บิเล่ (Bilé) อดีตผู้รักษาประตูของวาสโก ดา กาม่า ที่ผิดเพี้ยนเป็น ปิเล่ ทำให้เพื่อนๆ ต้องตั้งชื่อให้ใหม่ว่า เปเล่ และใช้เรียกแทน “ดิโก้” ซึ่งเป็นชื่อเล่นเดิมในที่สุด
แม้แฟนบอลโดยส่วนใหญ่ จะเรียกว่า “เปเล่” แต่ยังมีอีกฉายาหนึ่งที่แฟนบอลในบราซิลมอบให้ คือ “Pérola Negra” ซึ่งคำนี้มาจากภาษาโปรตุกีส ที่แปลว่า “Black Pearl” หรือ “ไข่มุกดำ” นั่นเอง
ตลอดชีวิตการค้าแข้ง เปเล่ยิงประตูรวมกันทั้งหมด 757 ประตู ตามข้อมูลที่ฟีฟ่าได้รับรองสถิติ ถึงแม้เจ้าตัวจะเคยบอกว่า เขายิงได้ทั้งหมด 1,283 ประตู โดยอ้างข้อมูลจากสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ก็ตาม
เปเล่ ไม่เคยได้สัมผัสชีวิตการเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปเลย เนื่องจากรัฐบาลบราซิลยกให้เป็น “สมบัติของชาติ” เพราะไม่ต้องการให้เขาอ่อนล้าจากการเดินทางไกล หรือไม่สะดวกบินกลับมาช่วยทีมชาติได้
แต่ภายหลัง เมื่อสถานะ “สมบัติของชาติ” ไม่มีอีกต่อไป เปเล่จึงได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งต่างทวีปกับนิวยอร์ก คอสมอส ในสหรัฐอเมริกาช่วงสั้นๆ เมื่อปี 1975 และแขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ ในอีก 2 ปีต่อมา
นักเตะผู้สร้างปรากฏการณ์ในเวิลด์ คัพ
เปเล่ ติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อปี 1957 และเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากขึ้น เมื่อเขาได้โอกาสรับใช้ทีมแซมบ้า เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก ปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน
และประวัติศาสตร์ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาเป็นผู้ทำประตูชัย เอาชนะเวลส์ 1 – 0 สร้างสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลก ในวัย 17 ปี 239 วัน
อีก 5 วันต่อมา ในรอบรองชนะเลิศที่ถล่มฝรั่งเศสขาดลอย 5 – 2 เปเล่ยิงคนเดียว 3 ประตู สถิติอย่างที่ 2 ก็ตามมา โดยเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำแฮตทริกได้ในฟุตบอลโลก (17 ปี 244 วัน)
ปิดท้ายด้วยนัดชิงชนะเลิศ ที่ชนะเจ้าภาพ 5 – 2 เช่นเดียวกัน เปเล่ ในวัย 17 ปี 249 วัน กลายนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ทำประตูได้ (2 ประตู) และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก
ความสำเร็จในการคว้าแชมป์เวิลด์ คัพ สมัยแรกกับบราซิล ทำให้เปเล่ได้รับการยกย่องให้เป็น “O Rei” ซึ่งคำนี้มาจากภาษาโปรตุกีส ที่แปลว่า “The King” หรือ “ราชา” ในวงการลูกหนัง
หลังจากนั้น เปเล่ ได้ลงเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายอีก 3 สมัย และคว้าแชมป์เพิ่มได้ 2 สมัย ในปี 1962 และ 1970 โดยเฉพาะครั้งหลังสุด เขายิงได้ 1 ประตู ในนัดชิงชนะเลิศที่ถล่มอิตาลี 4 – 1
แชมป์โลกหนที่ 3 ของบราซิล ส่งให้เปเล่ได้รับการจารึกชื่อว่า เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ 3 สมัย และยังไม่มีนักเตะคนใด ทำได้เทียบเท่าเขาจนถึงปัจจุบัน
เล่นฟุตบอลสุดปัง แต่ทำนายสุดพัง
เรื่องของฝีเท้า ไม่มีใครสงสัยเลยว่า เปเล่ทำได้สุดยอดมากๆ แต่เมื่อเขาออกมาทำนายเหตุการณ์อะไรบางอย่างในวงการฟุตบอล ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกันข้ามแทบจะทุกครั้ง จนเป็นกลายเป็นภาพจำ
ตำนานการทำนายผิดพลาดของเปเล่ เริ่มต้นในปี 1977 เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ทีมจากทวีปแอฟริกา จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกก่อนปี 2000” แต่จนถึงเวิลด์ คัพ ปี 2022 ชาวกาฬทวีปก็ยังไม่สมหวังเสียที
ต่อไปนี้คือคำทำนายที่ผิดพลาดของเปเล่ ใน “เวิลด์ คัพ” แต่ละครั้ง ตั้งแต่ปี 1990 – 2022
– 1990 : “อิตาลี เป็นทีมที่ดี คือเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์”
ผลลัพธ์ : อิตาลี ตกรอบรองชนะเลิศ แพ้จุดโทษอาร์เจนติน่า
– 1994 : “โคลัมเบียจะเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย และอาจถึงขั้นคว้าแชมป์ เยอรมันจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศ บราซิลจะไปไม่ถึงแชมป์แม้จะมีนักเตะที่ดี”
ผลลัพธ์ : โคลัมเบียตกรอบแรก, เยอรมันตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย, บราซิลคว้าแชมป์สมัยที่ 4
– 1998 : “สเปนคือเต็งหนึ่งในทัวร์นาเมนท์นี้ อังกฤษมีผู้จัดการทีมที่ดี สไตล์การเล่นที่ดี และมีนักเตะที่แข็งแกร่งมาก จะไปถึงรอบลึกๆ ได้แน่นอน”
ผลลัพธ์ : สเปนตกรอบแรก, อังกฤษตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
– 2002 : “บราซิลจะตกรอบแรก นักเตะชุดนี้มันห่วยมาก ทีมเวิร์กไม่มี, อาร์เจนติน่า กับ ฝรั่งเศส คือตัวเต็งคว้าแชมป์ ส่วนจีนจะผ่านรอบแรกได้แน่นอน”
ผลลัพธ์ : บราซิลคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ส่วนอาร์เจนติน่า, ฝรั่งเศส และจีน ตกรอบแรกทั้งหมด
– 2006 : “4 ทีมสุดท้ายในครั้งนี้ บราซิล, อาร์เจนติน่า, อังกฤษ และฝรั่งเศส”
ผลลัพธ์ : ฝรั่งเศส เป็นทีมเดียวที่ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายทั้งหมด
– 2014 : “อังกฤษอยู่ในกลุ่มที่ยาก แต่คิดว่าผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ และสเปนคือเต็งแชมป์ เพราะใช้นักเตะชุดเดิม”
ผลลัพธ์ : อังกฤษตกรอบแรก จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ส่วนสเปนได้ที่ 3 ของกลุ่ม ตกรอบแรกเช่นกัน
– 2018 : “บราซิลจะคว้าแชมป์ และเนย์มาร์จะเป็นผู้เล่นคนสำคัญในการลุ้นดาวซัลโวกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และลิโอเนล เมสซี่”
ผลลัพธ์ : บราซิลตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วนเนย์มาร์ยิงได้แค่ 2 ประตู
– 2022 : “ตอนนี้บราซิลมีดาวประดับอยู่บนตรา 5 ดวงแล้ว และรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เพิ่มดวงที่ 6 รู้สีกมั่นใจในทีมชุดนี้”
ผลลัพธ์ : ขุนพลเซเลเซา ไปได้ไกลเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แพ้จุดโทษโครเอเชีย
อย่างไรก็ตาม มีเพียงครั้งเดียวที่เปเล่ทำนายแชมป์ฟุตบอลโลกได้ถูกต้อง เกิดขึ้นเมื่อปี 2010 โดยเจ้าตัวบอกว่า “บราซิล และสเปน คือเต็งแชมป์” ซึ่งท้ายที่สุด สเปนคว้าแชมป์สมัยแรกได้สำเร็จ
ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเส้นทางลูกหนัง ทำให้เปเล่ กลายเป็นไอคอนของผู้คนทั่วโลก ซึ่งชายคนนี้ จะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล และจะเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาใครมาเทียบได้
เรียบเรียง : จักรพันธ์ ภู่ทอง
อ้างอิง :
https://www.theguardian.com/football/2010/jun/05/world-cup-2010-pele-predictions
https://www.sportskeeda.com/sports/peles-predictions
https://www.thefa.com/news/2014/jun/10/pele-backs-england-to-get-out-of-group-100614
https://www.express.co.uk/sport/football/971839/World-Cup-2018-Brazil-Neymar-Portugal-Cristiano-Ronaldo-Argentina-Lionel-Messi-Pele
https://en.as.com/soccer/why-did-they-call-pele-o-rei-where-did-it-originate-what-does-it-mean-n/
https://www.marca.com/en/world-cup/2022/12/18/639eebbf46163fe3878b45f8.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Pel%C3%A9
ที่มา: soccersuck