งื้อออ…4 ทีมท้ายตาราง
หากตอนนี้ใครลองชำเลืองตารางพรีเมียร์ลีกใน 4 อันดับสุดท้ายคงจะรู้สึกเวทนาอยู่พอสมควร
เพราะชื่อที่เห็นเป็นทีมขาประจำพรีเมียร์ลีกที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่ในเรื่องโครงสร้างแรงซัพพอร์ตของแฟนบอลไม่เป็น 2 รองใครแน่ๆ
17. เวสต์แฮม 18. เอฟเวอร์ตัน, 19. วูลฟ์ และ 20. เซาธ์แฮมป์ตัน นี่คืออันดับล่าสุดหลังจบเกมเมื่อคืนวันพุธ
การพ่ายแพ้คาบ้านของ “นักบุญ” เป็นหายนะครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้
เพราะนอกจากจะทำให้ตัวเองหนีบ๊วยไม่ได้แล้วยังทำให้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หลุดจากโซนอันตรายและเดือดร้อนเหล่าผองเพื่อนที่ต้องร่วงลดหลั่นคลานตามกันมาอีกต่างหาก
แฟน “เดอะ เซนต์” ไม่มีใครนอนหลับแน่ๆครับเพราะก่อนลงสนาม “เจ้าป่า” เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะใครนอกบ้าน!!
ไม่สิ ต้องบอกว่านี่เป็น 3 แต้มนอกบ้านในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ปี 1999 หรือ 23 ปีที่แล้ว
แต่ เซาธ์ (ที่ชนะในบ้านนัดเดียวในซีซั่นนี้) ใจบุญสุนทานอาสาปลดล็อกให้ในเกมที่พวกเขายิงไม่เข้ากรอบแม้แต่ลูกเดียว ทรงบอลโบ๋เบ๋สุดๆแล้วจะไปชนะใครล่ะครับนั่น
ฟอเรสต์ ก็ไม่ได้ฉมังอะไรเหมือนกันเพราะพรี่ๆเขายิงเข้ากรอบครั้งเดียวก็เป็นประตูเช่นกัน
ประตูเดียวของเกมนี้มาจาก ไทโว อโวนิยี่ อดีตเด็ก ลิเวอร์พูล และแกดีใจเป็นพิเศษเพราะนี่เป็นประตูนัดเยือนครั้งแรกของแกใน 576 นาทีหรือ 9 ชั่วโมง
ฟอร์มของทีมนักบุญแดนใต้โคม่าสุดๆแพ้รัวๆ 6 นัดรวดแล้วและเตรียมใส่นัดที่ 7 รอไว้ได้เลยหลังโปรแกรมนัดหน้าต้องเจอทีมหิวแต้มอย่าง แมนฯซิตี้ (มีเอฟเอ คัพ มาคั่นสุดสัปดาห์นี้ก่อน)
นาธาน โจนส์ กุนซือวัย 49 ปีมีแววจะไปก่อนเพื่อน หลังจบเกมนี้แฟน “นักบุญ” พากันโห่ไล่พร้อมตะโกน “แกไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรอยู่”
ส่วนแฟน “เจ้าป่า” อยู่ในอารมณ์สุขสันต์ร่วมแจมด้วยการชี้มาที่ โจนส์ ก่อนประสานเสียง ‘Sacked in the morning,’
เพิ่งรับตำแหน่งแทน ราล์ฟ ฮัสเซนฮุทเทิ่ล เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ในความพ่ายแพ้ 6 นัดรวดเป็นของ โจนส์ 4 และ ราล์ฟ อีก 2
ส่วนตัวผมตามเพจ “เซาธ์แฮมป์ตันไทยแลนด์” มา 2-3 ปีแล้ว จำนวนแฟนบอลน้อยนิดแต่เชียร์กันตามอัธยาศัย งานนี้ต้องเอาใจช่วยกันหนักหน่อยนะครับ
ในขณะที่ วูลฟ์แฮมป์ตัน ทีมทรงบอลดีแต่จบสกอร์ไม่เป็นและยิงได้น้อยที่สุดในลีก (ก่อนลงเล่นเกมนี้ยิงได้แค่ 10 ลูกจาก 17 นัด)
หากใครได้ดู “หมาป่า” เล่น week in week out จะเห็นว่าการต่อบอล ความนิ่งในการสร้างเกมไม่เคยเป็นรองใครแต่ถ่านหมดทุกทีเมื่อมาถึงหน้าเขตโทษฝั่งตรงข้าม
คือไม่มีคู่มือไม่มีวิธีจบสกอร์ ก็เพราะเล่นแบบนี้ 8 นัดหลังสุดชนะแค่เกมเดียวและแพ้ถึง 5
เช่นเดียวกันกับอีกคู่ที่ เอลแลนด์โร้ด ดวงของ เดวิด มอยส์ ได้ต่ออายุออกไปอีกเฮือกเล้กๆหลังยุติการแพ้รวด 5 นัดด้วยการเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ครึ่งแรกเล่นสมกับทีมท้ายตารางสุดๆ แนวรับที่เป็นจุดอ่อนทำให้ทีมต้องเสียเปรียบหลังหน้าเขตโทษยืนกันเป็นแผง 5-6 ตัวแต่ปล่อยให้ ลีดส์ ที่มา 2 คนคือ ซัมเมอร์วิลล์ คนแอสซิสต์และ วิลฟรีด กอนโต้ คนยิงหลุดไปดื้อๆเหมือนบอลประถมหน้าตาเฉย
ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือนี่เป็นโอกาสแรกของ ลีดส์ ในเกมนี้ทั้งๆที่เล่นมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง!! แนวรับกระจอกแค่ไหนถามใจเธอดู
สีหน้าสีตาของ มอยส์ ดูไม่ดีเพราะถ้าแพ้อีกจะเป็นการแพ้นัดที่ 6 ติดต่อกันโดยที่อันดับจะไปอยู่โซนแดงทันที
จุดเปลี่ยนที่ผมมองว่าเป็นความซวยของเจ้าถิ่น “ยูงทอง” คือการเสียจุดโทษช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนี่แหละครับ
คือ สเตราจ์ ทำฟาว์ล โบเว่น ในเขตโทษจริงๆแหละแต่ เดวิด คู้ท ผู้ตัดสินปล่อยให้เล่นต่อเพราะ ผู้เล่น “ขุนค้อน” เก็บตกจังหวะต่อเนื่องและได้ยิงเหน่งๆโล่งๆแต่ดันเฉี่ยวเสา
พอไม่เข้าทีนี้โดนรุมประท้วงก่อนไปดู VAR ก่อนมาเป่าให้เป็นจุดโทษ เท่าที่เคยเห็นมาถ้าปล่อยให้ได้เปรียบแต่ยิงไม่เข้าส่วนใหญ่จะผ่านไปเลย
จะอะไรก็ตามแต่เกิดจุดเปลี่ยนอีกรอบ ลีดส์ ที่เล่นด้วยความห้าววิ่งบดไม่มีหมดมาเสียประตูจากการเขี่ยครึ่งหลังได้แค่ 45 วินาทีเท่านั้นเองครับ
ตั้งเกมหน้าเขตโทษตัวเองปกตินี่แหละแต่ อารอนสัน ดันเบิ้ลบอลคืนให้เพื่อนไม่ตรง (เพื่อนถลำ) สคามัคค่า เลยฉวยโอกาสยิงปั่นโค้งๆเลียดหน้าเขตโทษเสียบมุมอย่างงาม นำเฉยครับ 2-1
แต่ก็นั่นแหละฮะ แนวรับไม่ใช่จุดแข็งอะไรของ เวสต์แฮม อยู่แล้วการจะรักษาสกอร์โดยที่เวลาเหลือบานเบอะแทบเป็นไปไม่ได้ก่อนมาเสร็จ โรดริโก้ ในนาที 70 จนกระทั่งอุณหภูมิของเกมมาคุ
ปิดท้ายที่ทีมอันดับ 18 เอฟเวอร์ตัน ที่ลงเล่นไปตั้งแต่วันอังคาร ขายขี้หน้าแพ้ ไบรท์ตัน ย่อยยับคาบ้าน 4-1
ถ้าจะบอกว่าเด็กๆ แฟร็งค์ แลมพาร์ด โชว์เทพยันเสมอกับ แมนฯซิตี้ ถึง เอติฮัด แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเกมนี้?
ง่ายๆครับ “ท๊อฟฟี่” รู้ว่าสู้ทีม เป๊ป ไม่ได้แน่ๆ อุดทั้งทีมมาเพื่อ 1 แต้ม วิ่งกันลืมตาย
แต่กับ ไบรท์ตัน พูดง่ายๆถ้าไม่คิดจะเอา 3 แต้มต่อหน้าแฟนตัวเองกับทีมอย่าง ไบรท์ตัน ก็ไม่ต้องเอาชนะใครแล้ว
โฟกัสไปอยู่ที่เกมรุกมากกว่ารับก่อนเจอทีเด็ดเต็มๆกับบอลระบบของ “นกนางนวล” ที่ไม่รู้ แลมพ์ เช็กสถิติก่อนหรือเปล่าครับว่าเด็กๆของ เดอ แซร์บี้ เล่นนอกบ้านดีที่สุดติด 1 ใน 5
สไตล์ตัวรุกสปีดจัด ไปกับบอลพื้นที่ว่างได้ดี นี่คือเหตุผลที่ ไบรท์ตัน เล่นนอกบ้านดีกว่าในบ้านแถมยิงเยอะกว่าอีกต่างหาก
แล้วบังเอิญ มิโตมะ ฟอร์มโคตรสดต่อเนื่องมาจากบอลโลก เปิดเม็ดแรกตั้งแต่นาทีที่ 10 ทีนี้ยาวววววว
จากที่เกมรับเหนียวสุดติด 6 อันดับแรกแต่เกมนี้เสียง่ายมากโดนล่อเป้าในเขตโทษทุกลูก
ลูก 4-0 ตอกย้ำว่าหมดสุดๆจากจังหวะ กาน่า เกรย์ ตัวสุดท้ายคืนหลังตรงกลางสนามแต่เบาโคตรๆ จะส่งคืนให้ พิคฟอร์ด แต่น้ำหนักบอลถ้าเป็น FIFA คือคุณกดปุ่ม X แค่จิ๋มแมว น้ำหนักบอลไม่ผ่านครึ่งวงกลมกลางสนามด้วยซ้ำ
แล้วยังมีหน้าไปเถียง พิคฟอร์ด นั่นนู่นนี่ว่าไม่ดันให้สูงกว่านี้ แหม่…
จากการไปสวยๆกับชัยชนะถล่มทลายของ สเปอร์ส เหนือ คริสตัล พาเลซ 4-0
คู่นี้ผมดูครึ่งแรกรู้สึกง่วงเล็กน้อยเพราะทั้งคู่สไตล์คล้ายกันคือรับรอสวนแต่คนที่ออกอาการมากที่สุดคือ “ไก่เดือยทอง” ที่เกมเป็นรอง
พาเลซ พาบอลขึ้นมาทีน่ากลัวกว่า นักเตะในทีมทั้งกลางและหน้าสามารถพาบอลกินตัวกินแดนขึ้นมาก่อนทำชิ่งกันแดนบน
แต่ด้วยปัญหาการหาโอกาสยิงประตูนี่แหละครับทำให้ไม่มีใครได้เปรียบอะไรซึ่ง “คลับไก่” เวลาเจอทีมรับต่ำๆไม่มีไอเดียในการเจาะอยู่แล้ว
ดังนั้นประตูแรกหลังเล่นครึ่งหลังมา 3 นาทีของ แฮร์รี่ เคน คือใบเบิกทางที่ทำให้ พาเลซ ต้องดันสู้
จะว่าไปลูกนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เปริซิซ เปิดย้อยมาเข้าหัว เคน ที่เสาไกล เป็นการเล่นที่ทีมเยือนพยายามครอสมาตั้งแต่ครึ่งแรกแต่มันเรดาร์ไม่ตรง
พอลูกนี้มาปุ๊บเข้าทาง สเปอร์ส สิครับ พื้นที่เล่นเพียบ 3 ลูกไหลๆแถม ซน เฮือง มิน ที่ยิงไม่ได้ตั้งแต่เดือนกันยายนขอแจมปิดท้ายกับเขาด้วย
เป็นการลบล้างความซวยและความห่วยของชาว “ไก่” ที่ก่อนหน้านี้ dark สุดๆกับสถิติโดนคู่แข่งยิงนำไปก่อนถึง 11 เกม!!
3 แต้มแรกนับตั้งแต่จบศึกบอลโลกโดยที่ก่อนหน้านี้เสมอ เบรนท์ฟอร์ด และแพ้ แอสตันวิลล่า คาบ้าน
ชัยชนะที่ทำให้ top 4 ที่เสียให้ แมนฯยูฯ ยังอยู่แค่ปลายจมูก 2 แต้มและลดความกดดันให้ อันโตนิโอ คอนเต้ ไปพอสมควร
แต่หายนะของจริงรออยู่หลังพ้นสัปดาห์เอฟเอ คัพ ที่ “น้องไก่” ต้องเจอ อาร์เซนอล, ฟูแล่ม และ แมนฯซิตี้ (2 นัดห่างกัน 17 วัน)
วันนี้ขอตัวลาไปนอนแล้วเจอกันอีกทีบิ๊กแมทช์ประจำคืนวันพฤหัสระหว่าง เชลซี กับ แมนนซิตี้ ครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
แฮร์รี่ เคน และ ซน เฮือง มิน ควงแขนยิงประตูในเกมเดียวกันเป็นนัดที่ 34 แซงหน้าคู่หู่นรกแตกอย่าง โม ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ แห่ง ลิเวอร์พูล ไปเรียบร้อยแล้ว
ขอแสดงความยินดีกับ แฮร์รี่ เคน ที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 300 พร้อมสถิติสุดอลังการ ยิง 198 ประตู 44 แอสซิสต์ และคว้าดาวซัลโวสูงสุด 3 สมัย
เคน เป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกคนที่ 2 ที่สามารถยิงประตูได้ในการฉลองลงเล่นนัดที่ 100, 200 และ 300 ในพรีเมียร์ลีกโดยคนแรกที่ทำได้คือ เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม
สเปอร์ส ยิงประตูแรกได้ก่อนคู่แข่งในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน จบสถิติเสียประตูแรกให้คู่แข่งเอาไว้ที่ 7 นัดติดต่อกัน
คริสตัล พาเลซ แพ้คาบ้านติดต่อกันในลีกเป็นหนแรกนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 (3 นัด)
และหากนับเฉพาะลอนดอน ดาร์บี้ แมทช์ พาเลซ แพ้ในลีกสูงสุดติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 เป็นหนแรกนับตั้งแต่ธันวาคม 2016 (6 นัดรวด)
พาเลซ กลายเป็นทีมที่ 6 ของ แฮร์รี่ เคน ที่ยิงใส่ทีมเดิมได้อย่างน้อยๆ 10 ลูกโดย อลัน เชียร์เรอร์ (12 ทีม) และ เวย์น รูนีย์ (7 ทีม) เคยทำได้มาก่อนหน้านี้
นอกจากจะเป็นนักเตะ อิตาลี่ อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกแล้ว วิลฟรีด กอนโต้ (19 ปี 60 วัน) ยังเป็นนักเตะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่อายุน้อยที่สุดและยิงในลีกสูงสุดได้นับตั้งแต่ เจมส์ มิลเนอร์ (18 ปี 100 วัน)ทำไว้ในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2004
มีแค่ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (5) เท่านั้นที่ยิงประตูแรกในแต่ละเกมมากกว่า ตาอิโว อวอนิยี่ หอก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4)
แอสตัน วิลล่า ไม่ชนะ วูลฟ์ ในบ้านตัวเองมา 7 นัดหลังสุดเลย
“สิงห์ผยอง” ฟอร์มกำลังมาแพ้แค่ 1 จาก 5 เกมในลีกทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นหลุดโค้งแพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุด
ดาเนี่ยล โพเดนซ์ ยิง 2 ประตูใน 3 เกมหลังสุดภายใต้โค้ชใหม่ โลเปกี ซึ่งก่อนหน้านั้นแข้ง โปรตุกีส วัย 27 ปีต้องลงเล่นมากถึง 19 นัดถึงจะยิงได้ 3 ประตู
แดนนี่ อิงส์ ของ แอสตัน วิลล่า มีส่วนร่วมกับ 5 ประตูใน 6 เกมที่ลงเล่นพบ วูลฟ์แฮมป์ตัน (4 ประตู 1 แอสซิสต์)
ที่มา: soccersuck