“สด ดุ ขยัน” สำรองได้ใจกว่า(ว่ะ)

เสียงคลิปโป๊อันเร่าร้อนที่ดังสนั่นกลางสตู BBC ช่วงก่อนเกมทำให้ใครหลายคนหัวใจสูบฉีดไม่แพ้การได้เห็น ลิเวอร์พูล ที่เล่นสมฐานะและสมศักดิ์ศรีสโมสรซักที

เป็นเกมที่ความรู้สึกแตกต่างจาก 3 นัดในปี 2023 อย่างเห็นได้ชัด

กล่าวคือก่อนบอลจะไปถึงหลังสัมผัสได้ว่ากลางช่วยสกรีนไม่มากก็น้อยแต่ที่แน่ๆไม่ยืนเป็นกรวยเหมือนที่เราเคยเห็นมา

ผมขออนุญาตใช้คำว่าพวกมิดฟิลด์มีความรู้สึกถึงความอันตราย (alert) ของคู่แข่งและหวงแหนพื้นที่ของตัวเองกว่าเยอะมากๆ

เจ้าหนู สเตฟาน บายเซติช มีความดุในการเข้าบอลและตามกัดไม่ปล่อย จังหวะเอาตัวรอดจากการถูกรุมกินโต๊ะมีให้เห็นบ้างแล้ว

นาบี เกอิต้า กลมกล่อมในการคอนโทรลบอลในขณะที่เกมรับมีไล่มีช่วยเรื่อยๆ

ทั้ง 2 คนร่วมเล่นกับ ติอาโก้ ได้อย่างลงตัวจน เดอะ ค็อป ภาวนาให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทีมสู้กับ เชลซี ในสุดสัปดาดห์นี้ในเมื่อไหนๆไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกแล้ว

การได้ความสดของนักเตะสำรองทำให้เราเห็นการเพรสแดนบนมากขึ้น ขยันจนครึ่งแรก วูลฟ์ เสียบอลหลายหน

แม้กระทั่งเจ้าพ่อแกะเพรสอย่าง รูเบน เนเวส ยังหลุดไปกับเขาด้วยรวมถึง โชเซ่ ซา ที่ต้องเตะบอลทิ้งออกหลังดื้อๆ

เป็นอาการล่กเหมือนที่เราเคยเห็นฝั่ง “หงส์แดง” เป็นเมื่อเจอพวก เบรนท์ฟอร์ด หรือ ไบรท์ตัน เลย ประมาณนี้เลย

ประตูเดียวของเกมนี้นอกจากความสวยในตัวของมันเองแล้ว ที่น่าสนใจกว่าคือก่อนที่จะได้มา

ไม่ใช่การแกะเพรสที่เป็นเรื่องเป็นราวนักแต่ถูกบีบให้ต้องสาดทิ้งจากเส้นหลัง (โดย ชิมิคาส) แต่นักเตะระดับโลกอย่าง ติอาโก้ (ที่ตัวถลำไปแล้ว) หมุนคล้องบอลก่อนถ่างบอลขวางตามสไตล์อย่างเนียน

รุ่นพี่ทำมาให้ขนาดนี้แล้ว

ที่เหลือหลังจากนั้นจึงเป็นรายการ The Ellen Show (เอเลียตต์ โชว์) ลากบอลจากกลางสนามไปถึงระยะยิง 25 หลา เป็นประตูที่สุดสวยที่สุดของ “เจ้าจุก” จนถึงตอนนี้ไปแล้ว

สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมของ เอเลียตต์ ในวันนี้คือเล่นไม่เหมือนคนแบกข้าวสารไว้จนหลังแอ่น ไม่มีอาการเกร็งให้เห็นเมื่อต้องรับส่งบอลกับ นาบี หรือมี “ท่านรอง” คอยประสานงานฝั่งขวา

การได้ยืนสูงแทนตำแหน่ง โม ซาลาห์ ทำให้น้องกล้าเสี่ยงทำอะไรกับบอลกว่าเล่นมิดฟิลด์ มีคนไปฝืนธรรมชาติน้องจนช่วงหลังเสียคนโดนด่าเละเทะ (รวมถึงผมด้วย)

ในส่วนของแบ็ค 4 อย่างน้อยๆเรารู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกในตำแหน่งแบ็คขวาเมื่อ “ท่านรอง” เจมส์ มิลเนอร์ ยืนแน่นโป๊ก เอาอยู่และยังลากเติมเกมรุกประปราย

วันนี้แฟน ลิเวอร์พูล ไม่เห็นการคุมตัวหลวมหรือปล่อยให้เขาเลี้ยงลากผ่านไปแบบหน้าด้านๆในหลายจุดของสนาม ทุกคนตามตัวไม่มีระลึกชาติโง่ๆเหมือนที่เราเห็นมาก่อนหน้านี้

ตรงกันข้ามกันกับคลิปในทวิตเตอร์ที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ยืนมองอยู่เฉยๆหน้ากรอบเขตโทษในลูก 3-0 ที่แพ้ ไบรท์ตัน (ทั้งๆที่บอลเข้าเขตโทษไปแล้ว)

เป็นอะไรที่รับไม่ได้สุดๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้กับทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ถ้ายังเป็นแบบนี้น่ากลัวจะตามรอย เดลี่ อาลี ในไม่ช้า

เป็นคำถามและคำตอบง่ายๆว่า “หงส์แดง” ไม่ได้ตกต่ำถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าควรแก้ปัญหาที่ตรงไหน

รู้แหละ…แต่ยังตงฉิน ยืนกรานแนวทางทั้งการใช้เงินและรอคนที่ใช่

การทดแทนแค่บางตำแหน่งแต่ทำให้ทีมดูดีขึ้นทันทีมันบ่งบอกว่านักเตะบางคนที่ JK ขยันส่งลงมันคือต้นตอ

มันก็ย้อนกลับมาสู่คำถามว่าตัวทดแทนมันไม่มีคุณภาพพอสำหรับการใช้งานในระยะยาว

นอกจากนักเตะกรอบจากชุดเดิมแล้วการแก่งแย่งแข่งขันในทีมไม่มี เฉื่อยแฉะถึงขั้นที่ว่าเด็กเล่นดีกว่าแล้ว

โอเค เฮนโด้ อาจแบกเรื่องอายุแต่อย่าง ฟาบินโญ่ ยังไม่ 30 แต่วันนี้ลงมาเป็นตัวสำรองเคลียร์ลูกง่ายๆยังช้อนใต้ลูกบอลโด่งไม่ไปไหนเกือบเสียประตูซะงั้น

สำหรับเจ้าถิ่น วูลฟ์ วันนี้เราได้เห็นพวกเขาตัวจริงเสียงจริง

“หมาป่า” ผู้ที่ปั้นเกมดี ทรงดีแต่จังหวะจบ “บ่จี๊” แป๊ก ไม่มีลุ้น ยิงนกตกปลา

หาก ลิเวอร์พูล เดาชื่อคนยิงในแต่ละนัดได้แต่ ฆูเลน โลเปเตกี หนักกว่านั้นเพราะแนวรุกอาการหนักมาก

ในลีกเตะมา 19 นัดยิงได้ 12 ลูก เฉลี่ยแล้วนัดละไม่ถึง 1

นี่เป็นเหตุผลที่ผมโคตรโมโหที่ “หงส์แดง” เล่นกระจอกโคตรๆกับการเจอทีมสำรอง วูลฟ์ และโดนยิง 2 ประตูง่ายๆที่ แอนฟิลด์

การเจอ เชลซี ในวันเสาร์นี้แฟนบอลเตรียมลุ้นเหนื่อยกันเหมือนเดิมครับเพราะผมเชื่อว่า คล็อปป์ จะส่งนักเตะชุดห่วยๆจากในเกม ไบรท์ตัน ลงเล่นตามโร้ดแมปที่วางไว้ ไม่มีทางเลยที่จะใช้หน้าเดิมลงเล่นติดๆกัน

เรียกว่ายอมพลีชีพส่งเด็กและสำรองเป็นหน่วยกล้าตายในเกม “มารหัวขน” (ที่ไม่อยากให้มี) ช่วงกลางสัปดาห์เพื่อรักษาความสดของ ฟาบินโญ่ หรือ เฮนโด้ ฯลฯ เพื่อเกมใหญ่โดยเฉพาะ

ใจลึกๆนี่ยังแอบหวังภาวนาให้บอสหาที่ยัดให้ เกอิต้า (จากฟอร์มในเกมนี้)เพื่อเพิ่มมิติในแดนกลางไว้เจาะ “สิงห์” มากกว่าจะเห็นกรวยจนแฟนล้อระบบใหม่ 4-0-3

ในอีกนัยนึงอยากแนะนำ JK ว่าในระหว่างที่ นาบี สุขภาพดีก็รีบๆชิงใช้งานก่อนแกจะใช้โควต้าเจ็บไปซะก่อน ไหนๆก็ใกล้จะโบกมือลากันแล้ว

ครับ การเข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพ ที่ตอนแรกเหมือนจัดตัวแบบปล่อยจอยไม่เอาอะไรแล้วแต่ดันเล่นดีเกินคาด

ถือเป็นการปลดล็อกชัยชนะหนแรกนับตั้งแต่ปีใหม่แต่ยังเหลือเกมในลีกที่พวกเรารอคอยอยู่ มีอีกหลายเกมให้หัวร้อนครับ ตอนนี้แยกย้ายพักกันก่อน…

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: