แจกใบแดงหาพ่อเธอเหรอ

ในขณะที่ “จ่าฝูง” อาร์เซนอล ชมนกชมไม้อย่างชิวด้วยการปิดเกมตั้งแต่ครึ่งแรก 3-0 ตรงกันข้ามกับที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด ระอุเดือดทั้งในสนามและแฟนบอล

เดือดที่ว่านี้ไม่ใช่ความบ้าระห่ำของรูปเกมแต่อย่างใดแต่สืบเนื่องมาจากการตัดสินของ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ที่กลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมทำให้ แมนฯยูฯ เสมอ “บ๊วย” ทำหล่นหายไป 2 แต้ม

จากเกมที่ ยูไนเต็ด กำลังเครื่องติดไล่บด เซาธ์แฮมป์ตัน อย่างเมามันอยู่นั้นปรากฏว่านาที 34 มีเหตุการณ์ทำฟาว์ลจากการพุ่งเปิดปุ่มเสียบของ คาเซมิโร่ ใส่ อัลคาราซ

จากใบเหลืองที่แจกไปหนแรกถูก overrule โดย VAR ก่อนที่ เทย์เลอร์ รีวิวมอนิเตอร์เปลี่ยนใจมาแจกใบแดงไล่ออก

อากัปกริยาของ คาเซมิโร่ น่าสงสารมากแกเอามือปิดหน้าทำท่าจะร้องไห้สีหน้าผิดหวังปนช็อก

นักเตะไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมทีมแต่กับฝั่งทีมเยือนเรายังสัมผัสได้ว่าไม่ควรถูกไล่ออก

รวมถึง “เร้ดอาร์มี่” ต่างพร้อมใจลุกขึ้นปรบมือให้ “พี่เกษม” ที่ตลอดอาชีพการค้าแข้งไม่เคยถูกใบแดง “ตรง” แม้แต่หนเดียวจนกระทั่งพรีเมียร์จัดให้รัวๆ 2 น้ำในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

ครับตัวผมเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทีมงานผู้ตัดสินเขาดูบอลกันยังไงถึงลงความเห็นไล่ออก

คาเซมิโร่ เข้าบอลเปิดปุ่มก็จริงแต่ในเมื่อโดนบอลก่อนมันก็ควรจะเป็น “แฟร์ แท็คเกิ้ล”

โอเคด้วยความที่โดนบอลเฉือนๆไม่เต็มใบ “แรงเฉื่อย” follow through จึงไปอัดเข้าที่หน้าแข้งของ อัลคาราซ พอดี

เคสนี้สามารถหาทางลงจบสวยๆด้วยใบเหลืองข้อหาเล่นอันตรายก็ยังพอรับได้จากทั้ง 2 ฝ่าย

ผมขอแตกประเด็นอันนึงเอาไว้เพื่อแชร์กันคืออยากให้ทุกคนลองให้สังเกต “ลูกบอล” ที่ คาเซมิโร่ เสียบครับ

คือหลังปะทะกันบอลแทบไม่กระดอนไปไหนไกลเลย จุดนี้ผมเดาว่าอาจทำให้ผู้ตัดสินที่ห้อง VAR มองทำนองการเข้าเสียบโดน “เนื้อ” มากกว่า “หนัง”

จากที่เราได้เห็นการใช้เทคโนโลยี VAR มานานหลายปี การที่ห้องส่งเรียกผู้ตัดสินไปเช็กเท่ากับว่าโอกาสที่จะเห็นพ้องด้วยแทบเต็ม 100 (แม้ตัวผู้ตัดสินอาจไม่มั่นใจก็ตาม)

คุณลองนึกภาพสิว่าผู้ตัดสินดูภาพช้าเสร็จแล้วจะเดินมาส่งสัญญาณว่าอะไรดีไม่ให้มัน awkward เล่นต่อนะจ๊ะตัดสินถูกแล้วจ่ะ มันไม่มีหรอกครับ

“เพื่อน” ทักมาขนาดนี้มันก็ต้องกอดคอตามเพื่อนไป ผิดถูกอย่างไรยังไงก็ไม่ต่ายเดี่ยว ผู้ตัดสินอังกฤษไม่มีสมองเป็นของตัวเองหรอกครับ ยืมห้องแล็บมาใช้ทั้งนั้น

ปัญหาใหญ่ไปกว่านั้นคือ อังเดร มาร์ริเนอร์ ผู้ตัดสิน VAR ดันเป็นคู่กรณีเก่าของ เกษม ที่เคยแจกใบแดงเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ข้อหา “บีบคอ” วิล ฮิวจส์ ของ คริสตัล พาเลซ

วันนั้น คาเซมิโร่ โดนไล่ออกด้วยข้อหาขี้หมาจนถูกโลกโซเชี่ยลถล่มไปรอบนึง คราวนี้กลับมาอย่างพีค

นี่ล่าสุดผมดูคู่ นิวคาสเซิ่ล – วูลฟ์ แดน เบิร์น วิ่งสไลด์ 2 ขาปั๊มบอลใส่ รูเบน เนเวส (ที่ยืนอยู่เฉยๆ) ไม่ทั้งฟาว์ลและใบเหลือง

ง่ายๆครับเมื่อวาน เลสเตอร์ เจอ เชลซี เจา เฟลิกซ์ โดนเสียบข้อเท้างอโคตรสยองแต่กลับไม่โดนไล่ (เหลืองยังไม่แจก)

เห็นมาตรฐานดังกล่าวแล้วได้แค่ถอนหายใจ เป็นปัจจัยภายนอกที่แต่ละทีมไม่สามารถควบคุมหรือวางแผนเตรียมรับมือได้เลย โดนกันทุกทีมถ้วนหน้า

ในเมื่อ “คน” (ที่ไม่เข้าใจฟุตบอล) เป็นผู้ควบคุมเทคโนโลยี ติ่งพรีเมียร์ต้องทนดูการตัดสินแบบ “อังกฤษนี่มันอังกฤษ” กันต่อไปนะจั๊ฟ

ครับหลังเหตุการณ์ “เกษม” นักเตะ ยูไนเต็ด หัวร้อนและเล่นแบบไม่มีสมาธิเนื่องจากแต่ละคนร้องจะเอาฟาว์ลเอาใบเหลืองใบแดงบ้าง จากเกมที่ดีๆเพี้ยนไปเลย

ซ้ำร้ายหลายๆครั้งที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ทำฟาว์ลแต่ดูเหมือนผู้ตัดสินไม่ชอบอะไรเจ้าถิ่นเป็นการส่วนตัวหรือเปล่าไม่ว่าจังหวะที่ แรชฟอร์ด แตะหลบผู้รักษาประตูและเข่าโดนสะกิดหรือ การ์นาโช่ โดนเสียบ “หนีบ” ขาคู่ ที่ไม่เป็นการฟาว์ลทั้ง 2 จังหวะ

ในความโชคร้ายของ “ปีศาจแดง” ถือว่าเทพีแห่งโชคยังช่วยเหลือไม่ให้ถึงกับคาบ้านไม่ว่า “ฟรีคิก” ที่เหมือน “จุดโทษ” ของ เจมส์ วอร์ด เพราส์ ที่ได้ปั่นถึง 2 หน ซึ่งปกติขอครั้งเดียวแบบเกมพบ เชลซี คือหายไปแล้ว

รวมถึงจังหวะโดนสวนกลับหลุดเดี่ยวตั้งแต่กลางสนามที่ดันเป็น ธีโอ วัลค็อตต์ ในวัย 33 ปีสปีดช้าไปเยอะ ถ้าเป็นตัวอื่นที่จี๊ดและสดกว่านี้ผมว่าไม่น่ารอด

แต่จริงๆไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หากลองเหลือบดูสถิติ “นักบุญ” เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยยิงต่อนัดไม่ถึง 1 ประตูด้วยซ้ำ (20 ลูกจาก 26 เกม) น้อยที่สุดในลีกเท่าวูลฟ์แฮมป์ตัน และ เอฟเวอร์ตัน

ในวันที่ไม่มีอะไรเป็นใจแม้กระทั่งลูกยิงไกลนอกเขตโทษของ บรูโน่ ที่เฮไปแล้วทั่วโลก (รวมถึงผู้บรรยาย) ยังติดปลายนิ้วผู้รักษาประตูชนเสา

มากไปกว่านั้นหลังนัดนี้ คาเซมิโร่ ที่เป็นตัวชนสร้างความสมดุลให้เกมรับต้องถูกแบนถึง 4 เกม (ไม่ใช่แค่ 3) เพราะแกถูกใบแดงตรงไล่ออก 2 หนในฤดูกาลนี้แล้ว

ความเสียหายนับจากนี้ของสาวก “ผีแดง” จะลุกลามเกิดเป็นแผลใหญ่ขนาดไหนต้องรอดูกันต่อไปแต่ที่แน่ๆผู้ตัดสินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว…

สถิติ สถิติ สถิติ

คาเซมิโร่ เป็นนักเตะคนแรกของ แมนฯยูฯ ที่ได้ 2 ใบแดงในฤดูกาลเดียวนับตั้งแต่ เนมานย่า วิดิช เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2013-14

หากนับสถิติผู้เล่นอายุ 21 หรือน้อยกว่า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยิง 23 ประตูให้ อาร์เซนอล ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ เทียบเท่าสถิติของ นิโกลาส์ อเนลก้า โดยตามหลังเพียง บูกาโย่ ซาก้า (27 ประตู) เพียงคนเดียวเท่านั้น

อาร์เซนอล และ เปแอสเช เป็น 2 ทีมใน 10 ลีกชั้นนำของยุโรปที่มี 3 นักเตะยิงประตูในลีกได้มากถึง 10+ ลูก ในฤดุกาลนี้

12 – มาร์ติเนลลี่

10 – ซาก้า

10 – โอเดการ์ด

19 – เอ็มบาปเป้

13 – เนย์มาร์

13 – เมสซี่

ลีอันโดร ทรอสซาร์ เป็นนักเตะคนแรกที่ทำได้ทั้งแฮทริคและ 3 แอสซิสต์ได้ในฤดูกาลเดียวกันนับตั้งแต่ ซานติ กาซอร์ล่า ที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2012-13 (ทรอสซาร์ ยิงแฮทริคใส่ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนตุลาคม และจัด 3 แอสซิสต์เจอ ฟูแล่ม)

นอกจากนี้มีสถิติปลีกย่อยของ ทรอสซาร์ เมื่อเขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียรืลีกที่ทำแฮทริค “แอสซิสต์” ได้ในครึ่งแรกในเกมเยือน

อาร์เซนอล กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ลีก อังกฤษ ที่ชนะลอนดอนดาร์บี้แมทช์ 5 เกมรวดใน “นัดเยือน” โดยไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด