“โรนัลโด้ R9” พร้อมนำบายาโดลิด บุกถิ่นเก่าที่เบอร์นาเบว
#SSxLaLiga | โรนัลโด ลุยซ์ นาซาริโอ เด ลิมา หรือ “โรนัลโด้” เขาคือตำนานดาวยิงหมายเลข 9 ของทีมชาติบราซิล และอดีตซูเปอร์สตาร์ที่เคยค้าแข้งกับเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งสเปน
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ โรนัลโด้ R9 ได้ผันตัวไปเป็นนักธุรกิจ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรเรอัล บายาโดลิด ที่ได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุอีกครั้ง ในฤดูกาล 2022/23
ซึ่งอดีตดาวเตะแซมบ้ารายนี้ จะนำบายาโดลิด ทีมอันดับท้ายตารางที่กำลังลุ้นหนีตกชั้น บุกไปเยือนเรอัล มาดริด ทีมเก่าของเขา ที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ในศึกลาลีกา วันอาทิตย์ที่ 2 เมษายนนี้
หนึ่งในนักเตะ “กาลาติกอส” ยุคแรก
โรนัลโด้ ออกจากอเมริกาใต้ มาค้าแข้งในยุโรปครั้งแรกกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ที่เนธอร์แลนด์ เมื่อปี 1994 อีก 2 ปีต่อมา ได้ย้ายมาสเปนเป็นครั้งแรกกับบาร์เซโลน่า สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ ด้วยทักษะการเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม
อยู่ในถิ่นคัมป์ นู ได้ปีเดียว โรนัลโด้ ไปเซ็นสัญญากับอินเตอร์ มิลาน ในอิตาลี แต่อีก 5 ปีต่อมา ได้กลับมาที่ลาลีกาอีกครั้งกับเรอัล มาดริด ในยุคที่ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เป็นประธานสโมสร ซึ่งโน้มน้าวให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค “กาลาติกอส”
คำว่า “กาลาติกอส” เป็นคำที่สื่อถึงนโยบายของเปเรซ ที่ต้องการรวบรวมบรรดานักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงระดับโลก ไว้ที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ซึ่งนอกจากโรนัลโด้แล้ว ยังมีนักเตะคนอื่น ๆ อย่างเช่น หลุยส์ ฟิโก้, ซีเนอดีน ซีดาน เป็นต้น
เพียงฤดูกาลแรกกับเรอัล มาดริด โรนัลโด้ยิง 23 ประตู จากการลงเล่นลาลีกา 31 นัด พาทีมคว้าแชมป์ลีก ในฤดูกาล 2002/03 และได้อยู่สวมเสื้อ “ราชันชุดขาว” ไปจนถึงเดือนมกราคม ปี 2007
ช่วงเวลาเกือบ 5 ปี ของโรนัลโด้ที่มาดริด ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเปเรซมาโดยตลอด อีกทั้งยกให้เป็นแบบอย่างในเรื่องการบริหารจัดการทีมฟุตบอล ที่คอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเรอัล บายาโดลิด
เมื่อเดือนกันยายน 2018 โรนัลโด้ ทุ่มเงินเพื่อซื้อหุ้นของสโมสรเรอัล บายาโดลิด จำนวน 51 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เขาขึ้นมามีอำนาจสูงสุดในการบริหาร หลังจากทีมได้เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013
บายาโดลิด เป็นสโมสรเล็กๆ ที่ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มากนัก และตั้งอยู่ในพิกัดที่ดี เพราะใช้เวลาเดินทางไปกรุงมาดริดเพียง 2 ชั่วโมง ทำให้โรนัลโด้มองเห็นช่องทางที่จะทำให้สโมสรนี้เติบโตได้อีกมาก
โรนัลโด้ เปิดใจว่า “ผมผ่านอะไรมามากมายเพื่อเตรียมความพร้อมกับสิ่งนี้ ฟุตบอลเป็นเรื่องของแพสชั่นล้วน ๆ ผมต้องการสร้างทีมที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะบริหารจัดการสโมสรด้วยความโปร่งใส”
ช่วงเวลา 4 ปี ที่บายาโดลิด อยู่ในลีกรอง สโมสรมีหนี้สิน 63 ล้านยูโร แต่ได้รับการฟื้นฟูกิจการ รายได้จากลิขสิทธิ์โทรทัศน์ที่มากขึ้น และกฎการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เข้มงวด จึงรอดพ้นจากภาวะล้มละลายได้ในที่สุด
ผลงาน 4 ฤดูกาลที่ผ่านมาของบายาโดลิด ในยุคที่โรนัลโด้เป็นประธานสโมสร เริ่มจากซีซั่น 2018/19 อันดับที่ 16, ซีซั่น 2019/20 อันดับที่ 13, ซีซั่น 2020/21 อันดับที่ 19 (ตกชั้น) และซีซั่น 2021/22 รองแชมป์ดิวิชั่น 2 (เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด)
พัฒนา “พูเซลานอส” สู่แบรนด์ระดับโลก
โรนัลโด้ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการผลักดันให้เรอัล บายาโดลิด เป็นทีมชั้นนำของลาลีกา ด้วยผลการแข่งขันที่ดีเพื่อสร้างความมั่นคงในสนาม และพัฒนาให้เป็นแบรนด์ระดับสากล เพื่อดึงดูดแฟนบอลจากทั่วโลก
“เรอัล บายาโดลิด เป็นสโมสรเก่าแก่ และมีการพัฒนาด้านกีฬามากมายในหลากหลายสาขา นอกจากนี้ยังเป็นสโมสรที่มีการจัดการที่ดี มีศักยภาพในการพัฒนา และมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นได้อีก” โรนัลโด้ กล่าว
อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิล ได้เข้ามาพัฒนาสโมสร ตั้งแต่การเปิดตัวแฟนโซนนอกสนามในวันแข่งขัน การนำเสนอคอนเทนท์ที่ไม่เหมือนใครผ่าน Pucela Play ไปจนถึงการพัฒนาอคาเดมี่ของสโมสร
การพบกันนัดแรกที่เอสตาดิโอ โฆเซ่ โซรีย่า เป็นบายาโดลิด ที่เปิดบ้านแพ้ 0 – 2 แต่กว่าที่ “โลส บลังโกส” จะได้ประตู ต้องรอถึงช่วงท้ายเกม โดยคาริม เบนเซม่า เหมาทั้ง 2 ลูก ในนาทีที่ 83 และ 89
สถานการณ์ของเรอัล บายาโดลิดในเวลานี้ กำลังลุ้นเพื่อความอยู่รอด แน่นอนว่าโรนัลโด้จะต้องโฟกัสกับตัวเองก่อน แม้เรอัล มาดริด ทีมเก่าของเขา ก็ต้องการชัยชนะเพื่อกดดันบาร์เซโลน่าก็ตาม
ที่มา: soccersuck