VARห่วยจัด! มอยส์โอด ‘ติอาโก้’ แฮนด์ควรจุดโทษ
เดวิด มอยส์ กุนซือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คิดว่าจังหวะ ติอาโก้ อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ใช้มือสัมผัสบอลต้องเป็นจุดโทษ พร้อมวิจารณ์ทีมงาน VAR อย่างหนักขาดทั้งความเคารพและความรู้ด้านฟุตบอล
ทีมของ มอยส์ ออกนำ “หงส์แดง” ก่อนตั้งแต่ต้นเกม แต่ไม่นานจากนั้นโดน โคดี้ กัคโป ยิงคืน แล้วเป็น โจเอล มาติป โขกแซง แพ้คาบ้าน 2-1
ช่วงนาทีที่ 89 เกิดจังหวะปัญหาขึ้น “ขุนค้อน” ทำเกมเข้าเขตโทษพยายามตีเสมอ แล้ว ติอาโก้ พยายามสกัดล้มตัวมือไปสัมผัสบอล
ผู้เล่น เวสต์แฮม ประท้วงเอาจุดโทษแต่ คริส คาวานาฟ ผู้ตัดสินในสนามปล่อยให้เล่นต่อ และไม่มีการเดินไปดูจอ VAR
หลังจบเกม เฮดโค้ชชาวสก็อต เข้าไปโวยใส่ คาวานาฟ อย่างหนัก เท่านั้นยังไม่พอหลังจบเกมเขาให้สัมภาษณ์วิจารณ์ต่อ
“ผมมีโอกาสได้ดูภาพช้าแล้ว และผมคิดว่าจังหวะนี้ต้องเป็นจุดโทษ” มอยส์ เริ่มกล่าว
“กฎแฮนด์บอลมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก และพูดตามตรงผมไม่ชอบในหลายประเด็น, ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมานานพอจะรู้ว่าจังหวะไหนควรเป็นแฮนด์บอล”
“ผมไม่คิดว่า ติอาโก้ เจตนาใช้มือ แต่การกระทำของเขาทำให้มือขวางทางที่ลูกบอลกำลังจะผ่าน”
“พวกเขาอาจออกมาให้เหตุผลไร้สาระเกี่ยวกับการที่ ติอาโก้ พยายามประคองตัวไม่ให้ล้ม”
“แต่หาก ติอาโก้ พุ่งตัวไปข้างหน้า นั่นก็เป็นความผิดของเขาที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายในจังหวะเข้าสกัดได้”
“คุณสามารถใช้มือประคองตัวได้ในจังหวะสไลด์ แต่หากคุณกระโจนเข้าหาบอล, สำหรับผมนั่นทำให้ข้ออ้างเรื่องการใช้มือประคองตัวฟังไม่ขึ้น”
ผลการแข่งขันทำให้ เวสต์แฮม รั้งอันดับ 14 ห่างโซนตกชั้น 4 คะแนน ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดต่อไปในช่วงที่เหลืออีก 6 นัด
“สิ่งที่ผมรับได้ยากที่สุดคือการถูกหยามเกียรติจาก VAR” อดีตนายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวเพิ่ม
“พวกเขาไม่แม้แต่จะแจ้งต่อกรรมการให้ดูภาพช้า นั่นหมายความว่า VAR ไม่คิดว่าจังหวะนี้มีความก้ำกึ่งด้วยซ้ำ ซึ่งน่าแปลกใจมาก”
“บางคนในห้อง VAR มีความรู้ทางฟุตบอลไม่มากพอที่จะเข้าใจว่าจังหวะนี้มีความก้ำกึ่ง และนั่นเป็นการแสดงความไม่เคารพต่อทีมเรา”
“คำขอโทษจากทีมงานผู้ตัดสินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่พวกเขาอาจจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะเราเป็นสโมสรที่กำลังทำแต้มเพื่อให้อยู่ใน พรีเมียร์ ลีก ต่อไป”
ทางฝั่ง เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ถูกถามถึงจังหวะปัญหาที่ทำให้ทีมของเขารอดจุดโทษเช่นกัน
“ผมคิดว่า ติอาโก้ แค่ล้มไปโดนลูกบอลเท่านั้น แต่ผมเข้าใจได้ว่าทำไม มอยส์ ถึงเห็นต่าง”
ที่มา: soccersuck