“จิ้งจอก” ว่าที่น้องใหม่ ชปช.

ต้องขออภัยที่หายหน้าหายตาไปหลายวันสืบเนื่องมาจากติดตามข่าวสารบ้านเมืองจนแทบไม่มีสมาธิกับหน้าจอซักเท่าไหร่

จุดพีคผ่านมาแล้วและตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังภายในปล่อยให้พวกเราคาดเดาไปคนละทิศคนละทางเล่นๆก่อน

ที่ไม่แน่นอนแต่ก็เหมือนแน่นอนคือแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่น่าหลุดมือ แมนฯซิตี้ ไปไหนแล้วหลังใช้ความเก๋าค่อยๆไต่ระดับคลาสบอลก่อน เอฟเวอร์ตัน ต้านไม่อยู่กด 3-0

และในสกอร์เดียวกันแต่กลับฝั่งเมื่อ อาร์เซนอล คาบ้านให้ ไบรท์ตัน

“ปืนใหญ่” ทั้งนักเตะทั้งโค้ชและแฟนบอล “มอบตัว” อย่างไม่เป็นทางการเมื่อสถานการณ์ตามหลัง “เรือใบ” 4 แต้มแถมเตะมากกว่า 1 นัด

โปรแกรม 2 นัดไม่ไหวแล้วครับ ติ๊ต่างใส่สกอร์ให้ชนะรวดทั้งหมดแต่ เป๊ป ต้องการชนะแค่ 1 จาก 3 นัดที่เหลือ

ชั่วโมงนี้ไม่มีทีมไหนแกร่งพอจะหยุด แมนฯซิตี้ ได้อีกแล้วครับ ไม่ต้องไปกางโปรแกรมที่เหลือให้เสียเวลา

ส่วนตัวผมเสียใจนะที่ อาร์เซนอล ไปไม่ถึงฝั่งฝันทั้งๆที่เคยนำหน้า ซิตี้ 8 แต้มในวันที่ 1 เมษายน

สัปดาห์ต่อมาผลเสมอ 2-2 ที่ แอนฟิลด์ เกิดไซด์เอฟเฟคต่อเด็กๆของ มิเกล อาร์เตต้า จนถึงทุกวันนี้

“ปืนใหญ่” ชนะแค่ 2 จาก 7 เกมหลังสุด นักเตะยืนระยะไม่อยู่แพ้การสู้รบกับตัวเองอย่างราบคาบ

และอย่างที่ผมบอกฤดูกาลนี้เป็นอะไรที่สบโอกาสต่อการย่องคว้าแชมป์เอามากๆเมื่อ แมนฯยูฯ, ลิเวอร์พูล หรือแม้กระทั่ง เชลซี หลุดวงโคจรไปตั้งแต่ไก่โห่

ดังนั้นโจทย์ใหญ่ซีซั่นหน้าคือ “พรี่ต้า” จะตบตีให้ อาร์เซนอล ยืนอยู่ในมาตรฐานตัวเองได้ไหมในเมื่อผู้ท้าชิงหน้าเก่า (และอาจจะมีหน้าใหม่) ร่วมต่อคิวอีกเพียบ

ข้ามมาที่หลังจบศึกมันเดย์ไนท์ที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ สบายๆ 3-0 ทำให้เรากำลังจะได้ทีมตกชั้นเพิ่มอีกทีมต่อจาก เซาธ์แฮมป์ตัน

คู่นี้ผมทายไว้ว่า “หงส์” จะชนะ 3-1 ทั้งๆที่เกมนอกบ้านของทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ แพ้มากกว่าชนะ (ก่อนลงสนามเกมนี้ชนะ 5 จาก 17 นัด)

เหตุผลคือเท่าที่ตามดู “จิ้งจอก” มาตลอดทั้งฤดูกาล ทีมๆนี้ไม่เคยขาดแคลนเรื่องการยิงประตูเลยนะครับ

ยิงเยอะที่สุดในบรรดาครึ่งล่างตารางทั้งหมดแต่ตัวเหนี่ยวรั้งความเจริญคือแนวรับนี่แหละครับ

22 เกมคือตัวเลขที่ทีมขวัญใจ มาร์ค เซลบี้ แชมป์สนุ๊กโลก 4 สมัยไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลย

กล่าวคือลงเล่นทุกนัดโดนยิงทุกนัดมา 22 นัดแล้ว หนสุดท้ายที่หลังบ้านสะอาดคือชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสัน พาร์ค 2-0 แต่นั่นก็ตั้งแต่เดือนพฤศจิกาปีที่แล้ว!!

ผมบอกได้เลยว่าใครเจอกับ เลสเตอร์ ไม่ต้องทำอะไรมากเล่นไปเรื่อยๆเดี๋ยวประตูมาเอง

เวาท์ ฟาส ที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซื้อมาแทน โฟฟาน่า เมื่อปีที่แล้วคือหายนะของทีมอย่างแท้จริง

ถ้ายังจำกันได้วันส่งท้ายปี 2022 กองหลังชาว เบลเยียม วัย 25 ปีจัดไป 2 ประตู (แต่เป็น OG. นะ) ช่วยพลิกสถานการณ์พา ลิเวอร์พูล แซงเข้าวิน 2-1 นำดาวซัลโวสูงสุดของ “หงส์” ในเดือนนั้นกันไป

เกมล่าสุดที่ คิงพาวเวอร์ “จิ้งจอก” มาแนวเดียวกับ เอฟเวอร์ตัน คือแสดงตนเป็นเจ้าบ้านในมาด “ทำเป็นเข้ม” มีความขึงขังซึ่งเข้าใจได้ว่าต้องการ 3 แต้มเพื่อหนีตกชั้น

เกมที่ กูดิสัน พาร์ค “เรือใบ” แกว่งๆเล็กน้อย พอเห็น “ท๊อฟฟี่” เต็มที่ได้แค่นั้นจึงขยับเกียร์ยิงรัวๆท้ายครึ่งแรกและต้นครึ่งหลัง เก็บงานละเอียดกริบ

ดีน สมิธ เคยคุม แอสตัน วิลล่า ถล่ม ลิเวอร์พูล 7-2 และแน่นอนพอรู้วิธีรับมือจึงสั่งให้ลูกทีมเพรสวิ่งเข้าใส่ให้หนักให้ไว

ได้ผลอยู่ช่วงแรกๆ ทีมเยือนขึ้นบอลฝั่ง เทรนต์ ฝั่ง ซาลาห์ ลำบากมาก พื้นที่เหลือน้อย

แต่ธรรมชาติของ “จิ้งจอก” ไม่ได้เล่นแบบนี้ครับ ส่วนใหญ่รับและรอสวนตามแคแรคเตอร์ของผู้เล่น

สมิธ ต้องคอยตะโกนให้นักเตะไล่แต่ได้แค่เวลาบอลอยู่บริเวณฝั่งซุ้มม้านั่งสำรองนะครับ จุดอื่นมันทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง

ไล่ๆมากๆเจอวางยาวตรงพื้นที่หลังบ้านและในที่สุด ใช่ครับ ฟาส จัดให้!!

บอลจุดพลุโด่งของ อลิสซอน ทำให้ ฟาส วิ่งหน้าตั้งพร้อมกับเงยหน้ามองบอลแต่ไม่รู้คิดยังไงแทนที่จะเสยบอลหรือทำอะไรซักอย่างก็ได้

แต่พี่แกปล่อยให้บอลตกจนเป็นที่มาของประตูสุดสวยของ เคอร์ติส โจนส์ ที่ลักษณะแทบจะพิมพ์เดียวกับที่ยิง สเปอร์ส ด้วยอีซ้าย

โดนลูกนี้เรียบร้อยครับ บอลหลังหลวมเป็นฝ่ายตามหลังเล่นไม่เป็นขบวนมาโดน โจนส์ เบลลิ่งแฮม ที่วันนี้เล่นโคตรดียิงสวยๆอีกลูกภายใน 3 นาที

เกมนี้ผมคงไม่ขอลงรายละเอียดฝั่ง “หงส์” มากนักเพราะบอลไม่มีอะไร มีที่ย้อนแย้งนิดหน่อยคือ โม ซาลาห์ ทำ 3 แอสซิสต์แต่เล่นห่วยมากโดยเฉพาะลูกหลุดเดี่ยวมีเวลาเหลือเฟือแต่ยิงออกแบบน่าเกลียดไม่งั้นเกมนี้จบ 4-0 ตุนลูกได้เสียไว้ลุ้นเผื่อแต้มเท่าได้อีกด้วย

ที่เหลือทั้งเกมเสียบอลเลอะเทอะหรือจ่ายบอลไร้สาระจะตัดช่องแต่เหมือนส่งให้คู่แข่งที่เราเห็นกันบ่อยๆในช่วงหลัง

ส่วน TAA ยังสนุกกับบทบาทมิดฟิลด์เช่นเดิมเพิ่มเติมคือฟรีคิกสุดงามทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะติดต่อกันโคตรเวอร์ 7 นัดตามเกาะติดตื้อจนวินาทีสุดท้ายต่อไป

กลับมา เลสเตอร์ ครับ คิดว่าไม่น่ามีปาฏิหาริย์ใดๆ ทีมชุดนี้ไม่ดีพอและยังต้องแบกสังขารไปขึ้นเขียงให้ นิวคาสเซิ่ล สับโขกที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเกมหน้าอีก

สกอร์สูงจัดไปครับ รู้ๆกันอยู่ “สาลิกา” หิวกระหายอยากลากไส้คู่แข่งที่ปอดแหกสุดๆ ยิ่งช่วง 5-10 นาทีแรก ใจไม่ถึงโดนเร็วโดนไม่ต่ำกว่า 4-5 ลูกแน่นอน

ถ้าเกมกับนิว 0 แต้มและ เอฟเวอร์ตัน หรือ ลีดส์ ชนะนี่คือร่วงทันทีไม่ต้องรอนัดสุดท้ายแล้ว

ฟอเรสต์, เอฟเวอร์ตัน และ ลีดส์ โควต้าสุดท้ายตาม เซาธ์ กับ เลสเตอร์ อยู่ 1 ใน 3 นี่แหละครับ…

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: