‘กอมปานี’ รับเคยถูกผีจีบก่อนซบเรือจนกลายเป็นตำนาน
แวงซองต์ กอมปานี เคยตกเป็นเป้าหมายการเสริมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนจะย้ายมาประสบความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และกลายเป็นตำนานของสโมสร
กอมปานี ลงเล่นไป 360 นัดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย และลีกคัพ 4 สมัยกับทัพ “เรือใบสีฟ้า” รวมถึงเป็นกัปตันทีมชุดคว้าสามแชมป์ของเกาะอังกฤษในปี 2019 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับแมนฯ ซิตี้
ในปี 2004 กอมปานี กำลังค้าแข้งให้กับทีมอันเดอร์เลชท์ในเบลเยียมเมื่ออายุ 18 ปี เขาถูกหมายตาเอาไว้โดยยอดกุนซือชาวสก็อต ในหนังสือ ‘ลีดดิ้ง’ ของ เฟอร์กี้ ที่วางจำหน่ายในปี 2015 มีรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ผู้เล่นก่อนฤดูกาล 2004/05
แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการสร้างทีมใหม่หลังต้องเผชิญกับความล้มเหลวในพรีเมียร์ลีก พวกเขาจบอันดับสามตามหลัง อาร์เซนอล ชุดไร้พ่าย และ เชลซี ที่เพิ่งถูกโรมัน อับราโมวิช เทคโอเวอร์ ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยห่างจากถ้วยแชมป์ลีกเกิน 2 ปี และ เฟอร์กูสัน ก็ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น
เอกสารที่เปิดเผยแสดงให้เห็นงานที่ทำในตลาดนักเตะและรายชื่อผู้เล่นที่แบ่งออกเป็นสี่คอลัมน์ มีคอลัมน์สำหรับ ‘ทีม’, ‘ส่วนเกิน’, ‘ดาวรุ่ง’ และ ‘เป้าหมายเสริมทัพ/ความเป็นไปได้’ ในรายชื่อเหล่านั้น ได้แก่ กาเบรียล ไฮน์เซ่, ฟิลิปป์ เม็กเซส, เคร์รา ปีเก้ และ กอมปานี
ปิเก้ ลงเอยด้วยการเข้าร่วมทีม บาร์เซโลนา ตั้งแต่ยังเด็ก โดยได้ลงเล่นไม่กี่นัดก่อนจะกลับสู่คัมป์ นู โรม่า คว้า แม็กเซส จาก โอแซร์ และ ไฮน์เซ่ ได้ย้ายมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ว่าแข้งชาวอาร์เจนไตน์มีช่วงเวลา 3 ปีที่น่ายกย่องกับสโมสร แต่ก็ไม่ได้เทียบเท่ากับความสำเร็จของ กอมปานี ที่ ซิตี้
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการย้ายทีมในปี 2015 กอมปานี ตอบว่า “ยูไนเต็ด สอบถามเกี่ยวกับตัวผม แต่ตอนนั้นผมมีเรื่องสำคัญอย่างอื่นต้องทำ”
“ผมกำลังเรียนหลักสูตรวิชาสามัญและแม่ให้ผมเรียนจบก่อนที่จะมีสมาธิกับฟุตบอล”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นกัปตันของสโมสรแห่งนี้ และผมสามารถบอกคุณได้ว่าผมรู้สึกดีมาก”
“ผมทุ่มเทหยาดเหงื่อและเลือดให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมหลงใหลเกี่ยวกับสโมสรและฉันต้องการความสำเร็จมากพอ ๆ กับเจ้าของ”
กอมปานี ตอนนี้กลายมาเป็นผู้จัดการทีมของ เบิร์นลี่ย์ มีคิวจะต้องเผชิญหน้ากับ เป๊ป กวาดิโอล่า เจ้านายเก่าของเขาในเกมนัดเปิดสนามของพรีเมียร์ลีกที่กำลังจะเริ่มฟาดแข้งกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี
ที่มา: soccersuck
